ลูกตาล โต้กลับมีหลักฐาน จ่ายดอก 8 แสน ไม่รวมต้น หนี้ไม่ลด
ลูกตาล โต้กลับมีหลักฐาน จ่ายดอก 8 แสน ไม่รวมต้น หนี้ไม่ลด
จากกรณีที่มีเพจดังในโลกโซเชียลออกมาโพสต์คลิปของนางแบบรุ่นใหญ่สุดเซ็กซี่ ลูกตาล ชโลมจิตร ที่ถูกสาวใหญ่คนหนึ่งเข้ามาทวงเงิน และในคลิปมีการถกเถียงกันอย่างรุนแรง ต่อมาสาวคนดังกล่าวได้เข้าแจ้งความที่ สน.มักกะสัน ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจรับเรื่องไว้ และเตรียมออกหมายเรียกลูกตาลมาชี้แจงเรื่องดังกล่าว ต่อมาลูกตาล พร้อมทนายความก็ได้ตั้งโต๊ะแถลงข่าวถึงเรื่องนี้ และยืนยันว่าไม่เคยทำร้ายร่างกายอีกฝ่ายแน่นอน เชิญฟ้องมาได้เลย
หลังจากนั้นคู่กรณีได้ออกไปพูดในรายการโหนกระแส ซัดกลับอีกครั้งว่าที่ลูกตาลพูดไม่เป็นความจริง จนล่าสุดวันที่ 5 กุมภาพันธ์ ลูกตาลได้มาออกรายการ เจาะประเด็น ช่อง 8 และได้ออกมาชี้แจงถึงเรื่องราวดังกล่าว ที่ทางฝ่ายคู่กรณีออกมาพูด
เค้าบอกว่าที่ต้องถ่ายคลิปแบบนี้ เพราะพี่ลูกตาลจะไปตบเค้าก่อน เค้าถ่ายไม่ทันเลยได้คลิปที่เห็น?
จริงๆ คลิปที่เค้าเริ่มถ่ายตั้งแต่ตาลเดินออกมาแล้ว ถ้ามีช็อตตบ เค้าไม่พลาดแน่นอนที่จะเอามาออกค่ะ คือมันมีในกล้องวงจรปิดตั้งแต่เค้าเดินเข้า ตั้งแต่เรา 2 คนเดินออกนะคะ แล้วเค้าก็เดินกลับเข้าไป มันมีอยู่ในกล้องทุกมุมอยู่แล้วค่ะ ไม่มีฉากที่จะตบ หรืออะไรทั้งสิ้นนะคะ
เค้าบอกว่า พี่ลูกตาลจะตบเค้า เลยต้องเอามือถือมาถ่าย?
ไม่เป็นความจริงเลยค่ะ เค้าถ่ายตั้งแต่เข้ามาเลย ต้องไปดูกล้องวงจรปิดเลยค่ะ ว่ามันมีแค่ไหนยังไง ซึ่งตาลก็เอากล้องวงจรปิดของฟิตเนสมาให้ดูตั้งแต่จุดแรก คือตาลเดินออกมา แล้วลืมกระเป๋า ก็บอกให้เด็กไปเอากระเป๋ากับกุญแจรถให้หน่อย เค้าก็เริ่มถ่ายตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว แล้วตาลก็เดินไปขึ้นรถ
ตอนเดินออกมาจากฟิตเนส มีการทะเลาะกันในฟิตเนสมั้ย?
ไม่มีนะคะ พอตาลเดินเข้ายิม เค้าก็เดินตามมาที่เคาน์เตอร์ เค้าจะพูดแล้ว ตาลก็บอกว่าขอเชิญไปคุยกันข้างนอก เพราะมีลูกค้าในยิมค่อนข้างเยอะ ก็เลยเดินตามกันมาข้างนอก ถ้ามีคลิปตบก็มีแล้วนะคะ ซึ่งก็ไม่มีอะไร
มีหลักฐานเอามายืนยัน เพื่อจะบอกกับสังคมว่าไม่ได้มีการตบแต่อย่างใด?
ไม่ได้มีการทำร้ายร่างกายแต่อย่างใด ไม่มีอะไรเลย ไม่ได้พูดกับเค้าด้วยซ้ำ แค่บอกว่าไม่มีอะไรจะคุยกับพี่แล้ว บอกให้ไปติดต่อทนาย มีแค่นี้แล้วก็ไปแจ้งความ
สิ่งที่อยู่ในคลิป ที่เค้าถามคำถามสำคัญว่าหนีทำไม?
ไม่ได้หนีนะคะ เราไม่อยากโต้ตอบ เหมือนเค้าต้องการมาหาเรื่องเราอยู่แล้ว มาตั้งใจถ่าย เราไม่อยากมีวาทะโต้ตอบ ไม่มีประโยชน์ ไปแจ้งความดีกว่ามั้ย ไม่ตอบโต้อะไร จริงๆ เราคุยกันก่อนหน้านี้แล้ว จบกันที่ สน. แล้ว ก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นมา เพราะฉะนั้นไม่มีอะไรที่จะต้องคุยกันตอนนี้
ก่อนหน้านี้ไปคุยที่ สน. มาแล้ว?
ไปมาแล้วค่ะ ไปคุยเรื่องหนี้ แล้วก็ส่งมอบทรัพย์สินให้ ก็คือรถมอเตอร์ไซค์ ที่เค้าเอาไปขาย
แล้วตอนนั้นตกลงกันว่ายังไง?
ก็คือเอาทรัพย์สินที่เราให้ไปขาย ส่วนเครื่องเพชรก็อยู่กับเค้าอยู่แล้ว ก็ไปจัดการมา หรือยังไงไปหักลบกลบหนี้มา เหลือเท่าไหร่ เราก็ขอจ่ายเท่านั้น หรือไปไกล่เกลี่ยกันในศาล เพราะว่าเราต้องการความยุติธรรม
แล้วตอนนั้นที่คุยกันที่ สน. ว่าจบเรื่อง ตกลงตามนี้ จะไม่มีการออกมาทวงหนี้กันอีก?
ก็ไม่ได้บอกว่าไม่มีการทวงกันอีก เพียงแต่บอกว่าเราก็เอาทรัพย์ให้แล้วนะ
แล้วเค้าตกลงมั้ย?
เค้าก็ตกลง เค้าก็เอาของไป เพราะเครื่องเพชรมันอยู่กับเค้าตั้งแต่แรกอยู่แล้ว แต่มอเตอร์ไซค์ตอนแรกมันเป็นแค่สมุด เราก็ตกลงเอามอเตอร์ไซค์ไปให้เค้า เซ็นมอบให้เรียบร้อย ส่วนเครื่องเพชร มันก็อยู่ในหลักฐานอยู่แล้วที่เอาไปตั้งแต่แรก
หมายความว่าเค้ายอมรับทรัพย์แล้ว คิดว่าหมดหนี้กันไป ที่เหลือไปคุยกันในศาล?
ค่ะ ตอนที่ตกลงกัน ทนายคุยกับทนาย ก็คือคุยแบบนี้ค่ะ
แต่ว่าพอพี่ลูกตาลขับรถออกไปแจ้งตำรวจ สิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากนั้นคืออะไร?
ตาลก็ไปแจ้งความ อยากให้ตำรวจมาเชิญเค้าออกจากยิม ไม่อยากให้เค้าไปสร้างซีนอะไรในยิม ซตำรวจก็ตามมา 2 คนค่ะ เขาบอกให้ลูกตาลไปแจ้งความได้เลย เดี๋ยวจัดการทางนี้ให้เอง เลยบอกตำรวจว่าอย่าให้เค้าเข้าไปวุ่นวายในยิมมันเสียงดัง เดี๋ยวลูกค้าเยอะ เค้าก็คุยกับตำรวจไป ตาลกลับไปที่ สน. วันนั้นเป็นวันอาทิตย์ ตำรวจก็น้อย คนแจ้งความเยอะ ตำรวจบอกให้มาวันหลัง
ขณะที่เค้าอยู่ในยิมเรา เป็นยังไงบ้าง?
จากในคลิปของลูกตาล ก็จะมีดารา เหมือนจะเป็นคุณอองตวน?
ใช่ค่ะ เค้าไปคุยกับดารา มีผู้ชายเข้าไปคุย เค้าก็บอกอีกว่า เจ้าของร้านนี้ไม่ยอมจ่ายเงินฉัน แล้วก็เล่ายาวไป
แล้วเรื่องนี้ในฟิตเนสจบยังไง?
เค้าก็กลับไป กลับไปแจ้งความว่าลูกตาลทำร้ายร่างกายเค้าตอนเย็น
คุณลูกตาลสรุปสั้นๆ ว่าหนี้ก้อนนี้มันเป็นมายังไง?
คือเราต้องการใช้เงิน ก็เลยเอาเพชรไปขายคืน เค้าไม่รับซื้อคืน ให้เป็นฝากแทน ก็เลยทำสัญญากู้ ซึ่งเราเอาเพชรไปให้เค้า เค้าก็ตีต่ำ เลยไม่พอ ก็เลยเอามอเตอร์ไซค์ สมุดมอเตอร์ไซค์ไปให้เค้า มีสัญญา 3 ฉบับให้เราเริ่มผ่อน ไม่ได้เขียนว่าดอกเท่าไหร่ ให้เริ่มผ่อนเดือนละ 70,000 บาท เป็นเวลา 1 ปี สัญญาคือ 1 ปีเท่านั้น ถ้าลูกตาลไม่ผ่อนชำระ หรือไม่ไถ่ถอนทรัพย์สิน ก็จะโดนยึด เค้าบอกตอนเราทำสัญญากับเค้า
ปัญหาเกิดขึ้นเมื่อไหร่?
หลังจากครบ 1 ปี ตาลก็เข้าไปคุยกับเค้าว่าเราผ่อนมาเยอะแล้ว รวมก็ 845,000 บาท ถามเค้าว่ามีต้นมีดอกเท่าไหร่ เค้าก็บอกว่าที่ผ่อนมาทั้งหมด คือดอกอย่างเดียวไม่ได้หักต้นนะ เราก็บอกว่าหนูนึกว่าดอกเบี้ย 5% เค้าก็บอกว่า ก็ 5% ต่อเดือนไม่ใช่ต่อปี เราก็ไม่รู้เลยนี่เป็นดอกหมดเลย ซึ่งมันก็เยอะไง ถ้าเราไม่จ่ายเงินต้น ของก็จะยึดแล้วนะ ให้เราเอาเงินไปคืนเค้า
ในสัญญาไม่ระบุว่าดอกเบี้ยเท่าไหร่?
ไม่ได้บอกค่ะ แต่ตอนไปกู้ เค้าให้เราเขียนเช็คไว้ 3 ใบทุกเดือน เขียนเช็คล่วงหน้าไปเลย 1 ปี พอโอนเงินไปก็ฉีกเช็คทิ้งทุกเดือน
ตามสัญญาครบ 1 ปี ต้องมาไถ่ถอนทรัพย์สินคืน พอจบปุ๊ป คืออะไร?
เราไม่ได้ไปไถ่ถอน เพราะคิดว่าตอนแรกที่จ่ายไปจะมีการหักดอก หักหนี้บ้าง แล้วเราจะจ่ายน้อยหน่อย ก็คิดว่าร้อยละ 5 ต่อปี แต่เค้าบอกว่าไม่ใช่ ดอกเบี้ย 5% ต่อเดือนไม่ใช่ต่อปี ยอด 1.4 ล้าน คือดอกเบี้ย 840,000 บาท คือในสัญญาไม่ได้บอกไว้ว่า เงินต้นเท่านี้ดอกเบี้ยเท่านี้ มันไม่ละเอียด คือเราไม่รู้จริงๆ พอเรากู้เงิน ก็ตีเช็คอีก 3 ฉบับเป็นการการันตี ซึ่งเราก็แค่เซ็นชื่อไว้เฉยๆ เป็นการันตีไว้อีกก๊อกหนึ่ง
ทนายเจมส์มีความเห็นยังไงบ้าง?
ทนายเจมส์: คือผมเห็นว่าการทำสัญญาเงินกู้ทั้ง 3 ฉบับ จะมีผู้เขียนเป็นพยานอยู่
ลูกตาล: เป็นสามีของเค้าค่ะ
ทนายเจมส์: ลักษณะการเซ็นสัญญาเงินกู้ฉบับนี้ ไม่ได้ระบุอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ ตามกฎหมายให้คิดแค่ 7.5% ต่อปี ทางกฎหมายบอกไว้
แสดงว่า ดอกเบี้ยต้องไม่ถึง 70,000 บาทใช่มั้ยคะ?
ทนายเจมส์: ใช่ครับ ถูกครับ ต่างตรงที่เค้าคิดอัตราดอกเบี้ยแบบไหนเท่านั้นเอง ถ้าเค้า 5% ต่อเดือน มันเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด เดิมทีตามกฎหมายฎีกาเก่ากล่าวไว้ การจ่ายดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดเป็นการชำระหนี้ตามอำเภอใจ คุณจะเอามาหักต้นเงินไม่ได้ แต่พอมาเป็นปี 2560 เข้ามา มีคำพิพากษาฎีกาใหม่เข้ามา เค้าบอกว่า การตกลงที่มีการชำระหนี้เกินตามที่กฎหมายกำหนด มันเป็นโมฆะตั้งแต่เริ่มแรกเลยครับ
ฉะนั้นดอกเบี้ยที่ชำระให้เอาไปหักเงินต้นได้ ดังนั้นที่พี่ลูกตาลชำระมา 845,000 บาทนั้นเท่ากับว่าต้องเอาไปชำระเงินต้นด้วย ในแนววิธีการ ผมเห็นเจ้าหนี้หลายๆ เคส ไม่ได้หมายถึงเจ้านี้นะครับ หมายถึงเค้าจะฉลาดในการที่จะเขียนสัญญาเงินกู้ คือ 1 จะไม่ระบุไว้เลย 2 ไม่ใส่ยอดเงินด้วย บางครั้งมาเติมยอดเงินทีหลัง ซึ่งลูกหนี้จะเสียเปรียบเพราะเป็นลายมือชื่อของตัวเอง เพราะฉะนั้นวิธีการนำสืบก็ต้องให้ศาลเห็นได้ชัดเจน
สุดท้ายหลังจากนี้จะมานั่งคุยเจรจากับคุณลูกตาล ตกลงเจอกันได้มั้ย?
เจอกันได้ค่ะ อย่างรายการวันนี้นัดให้มาเจอกันก็ไม่ยอมมา อีกรายการก็ไม่ยอมให้เราไปออก ตาลก็ไม่อยากออกมาพูด 2 ฝั่ง เค้าพูดทีตาลพูดที อยากมานั่งคุยทั้ง 2 คนพร้อมๆ กัน แต่ทุกรายการที่ติดต่อไปให้มาออกพร้อมกัน เค้าก็ปฎิเสธไป ไม่มาออก
เค้าพูดไว้วันนี้ว่า บทเรียนที่เกิดขึ้นกับเค้า เหมือนกับว่าเป็นชาวนากับงูเห่า?
ตาลก็อยากจะบอกว่า สำหรับคนที่ให้เงินใครยืมนะคะ ถ้าให้ด้วยจิตใจที่มีเมตตา ให้ด้วยจิตใจที่จะช่วยเหลือเค้าจริงๆ คุณจะได้บุญ แต่ถ้าคุณให้เค้าไปแล้ว หวังผลประโยชน์ หวังผลกำไร ขูดรีดขูดเนื้อคนที่ไม่มี นั่นคือคุณจะมีบาปค่ะ