พชร์ เปิดใจ ดราม่า นิก คุณาธิปยังไม่จบ
จากกรณี เรื่องราวมหากาพย์ดราม่าที่มีมานานแล้ว และดูเหมือนว่าเรื่องจะยังไม่จบลงง่ายๆ เสียที สำหรับผู้กำกับคนดัง พชร์ อานนท์ และอดีตนักแสดงวัยรุ่นในสังกัด นิก คุณาธิป ที่เจ้าตัวได้ออกมาโพสต์ขอสัญญาคืน จนทั้ง 2 แฉกันไปมาผ่านโซเชียล นิกคิดว่าตัวเองหมดสัญญาแล้ว และอ้างว่าพชร์ไม่ยอมจ่ายค่าตัวในการโปรโมทหนัง ด้านพชร์เองก็ออกมายืนยันว่า นิกยังมีสัญญาอยู่ ล่าสุดพชร์ก็ได้มาเล่าเรื่องราวทั้งหมด ในรายการคุยแซ่บ Show ทางช่อง One31
พชร์บอกว่า ปีใหม่พี่ว่าวันที่ 24 ธ.ค.นี้จะไปยุโรป ก็ไปเคาท์ดาวน์ที่นู่น กลับเมืองไทยน่าจะวันที่ 2-3 ม.ค. เลย จริงๆ ที่ไปยุโรปนานๆ พี่ไม่ได้หนีอะไรนะ เรื่องดราม่าพี่เตรียมตัวมาตั้งนานแล้ว เพราะมันต้องขอวีซ่า ขออะไรอย่างงี้มันต้องวางแผน ไม่ใช่ปุ๊บปั๊บไปเลย
ส่วนเรื่องยกเลิกสัญญาไม่จริงครับ เพราะเขาไม่สามารถที่จะยกเลิกได้ สัญญาเราเซ็นกับใครมันต้องมีวันหมด มันถึงจะเลิกหรือว่ามีการฉีกสัญญาหรือว่าจ่ายค่าสัญญาอะไรอย่างนี้ ซึ่งเขาอยากยกเลิกสัญญากับเรา เมื่อตอนพักหลังๆ นี่แหละ ซึ่งเราไม่ได้ผิดสัญญาอะไร ทุกอย่างถูกต้องหมด แต่ที่คนคิดว่าทำไมเรายื้อไม่ปล่อยให้เด็กไป คือสัญญาตอนเซ็นเราก็ไม่ได้บังคับเซ็น มันเซ็น 2 ฉบับหมดไปแล้ว 5 ปี แล้วก็มาเซ็นฉบับใหม่อีก 2 ปี ทำงานร่วมกันมาทั้งหมด 7 ปี โดยไม่มีปัญหาอะไรเลย ไม่มีการบอกว่าพี่พชร์โกง
มีหมอดูเขาเคยไปดูให้ เขาบอกว่าพี่พชร์เปรียบเสมือนพ่อคนที่ 2 ให้ชีวิตผมดีขึ้น จริงๆ เราไม่ได้ทำผิดสัญญา อยู่ๆ ถ้าเราเซ็นกับใครเนี่ยมาบอกว่าพี่โกงเงิน แล้วมันจะเอาคืนได้เหรอ เรื่องมันเกิดขึ้นได้ยังไงพี่ไม่รู้ พี่ทำงานตามปกติ อยู่ๆ ก็มาโพสต์ด่าเราในโซเชียลอย่างนู้นอย่างนี้ หาว่าเราโกงเงิน ตอนถ่ายหนังด้วยกันเราก็ทำตัวปกติ
ตอนนั้นที่มีปัญหาคือสงกรานต์แสบสะท้านโลกันต์ เขาบอกว่าเราโกงเงินค่าโปรโมท แล้วถ้าเราโกงจริง ทำไมเขาไม่คุยตั้งแต่ตอนนั้น จนมาเล่นหลวงตามหาเฮงจบไปอีกเรื่อง หลวงตาฉาย ก.ค-ส.ค. เพิ่งจะมาบอกว่าเราโกงเงิน คือเขาจะเอาสัญญาคืนไง การเอาสัญญาคืนมันต้องมีการทำผิดสัญญา มันถึงจะคืนได้ เราทำงานมา 7 ปี ไม่เคยโกงเงินน้องสักบาทเลยนะ แต่พออยู่วันนึงไม่รู้ใครยุอิท่าไหน จะมาเอาสัญญาคืน พี่บอกตรงๆ ว่าเสียความรู้สึกแล้วก็เสียใจ คือเราให้เขาเยอะมาก ให้เยอะกว่าคนอื่น เยอะกว่าทุกค่ายด้วย เขาเซ็นสัญญา 7 ปี เล่นหนัง 13 เรื่อง รวมแล้วประมาณ 10 กว่าล้านที่ได้เงินจากพี่ไป ถ้าพี่โกงจริง ทำไมพี่ไม่โกงตอน 10 กว่าล้าน โกงทำไมแสนนึง
สำหรับค่าตัวกับค่าโปรโมท จริงๆ ในสัญญาที่เซ็นมันแล้วแต่พี่ เพราะพี่เป็นกรรมการบริษัท เป็นประธานบริษัท แล้วแต่พี่ว่าจะให้เท่าไหร่อะไร นักแสดงไม่มีสิทธิ์บอก แต่ที่พี่ให้ ให้เยอะกว่าคนอื่น ให้จนเด็กคนอื่นมาด่าพี่ ทำไมให้เขาเยอะ เราให้เยอะ เราถึงเสียใจไง และเสียความรู้สึกมากกว่า
แต่กระแสข่าวที่บอกว่าพี่ไม่ชอบแฟนเขา เลยอยากให้เลิกกันเลยทะเลาะกัน แฟนเขาเนี่ยพี่ก็รู้จัก แตงโมพี่รู้จักอยู่แล้ว เพราะว่าเขาเล่นหนังกับพี่ แล้ววันแรกที่แตงโมมาถามพี่ ส่งข้อความมาในไลน์ พี่พชร์คะ เขามาจีบหนู พี่พชร์ว่ายังไง พี่ก็บอกว่าก็แล้วแต่หนูแล้วกัน แต่อย่ามาเกี่ยวกับพี่นะ พี่ไม่ชอบอะไรแบบนี้อยู่แล้ว อันนี้คือเรื่องจริง
พี่ก็โทรศัพท์ไปถามเด็กว่าจริงไหม เขาก็บอกว่าจริงครับ ผมรักของผม งั้นเราคุยกันแต่เรื่องงานนะ เรื่องนี้เราไม่คุย ก่อนหน้านั้นเขาก็มีแฟนอยู่แล้ว ตอนมาเล่นหนังเรื่องแรกเขาก็มีแฟนอยู่แล้ว เรื่องที่สองเขาก็มีแฟน เราก็ไม่เคยว่า อย่างแตงโมพี่ก็ยังคบอยู่ คุณพ่อไม่สบายเหรอแตงโม พี่ให้เงินไปก่อน 50,000 บาท ให้ไปช่วย คุณพ่อไม่สบายเราก็ยังคุยกันอยู่ เราไม่ได้ว่าแตงโม แตงโมไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ซึ่งเรื่องนี้กับเขา เราเป็นผู้ใหญ่เขาต้องโทรมาเคลียร์กับเรา เขารู้จักบ้านเรา เขารู้จักออฟฟิศเรา รู้ว่าเราอยู่ไหน ทำไมนักข่าวตามตัวพี่ได้ล่ะ
เรื่องนี้ถ้าจะจบต้องเคลียร์กัน เพราะตอนนี้พี่ฟ้องเขาอยู่ ฟ้องหมิ่นประมาท เพราะเขามาว่าพี่โกงค่าตัว พี่ก็ต้องป้องกันศักดิ์ศรีของตัวเอง คิดดู 7 ปีทำงานมาด้วยกัน ไม่มีคำว่าโกงออกจากปากเขา แต่พอจะเอาสัญญาคืน โกงอย่างนู้นอย่างงี้ เวลาเขาพูดกับทนายเขาก็จะบอกว่าเราโกง เราผิดสัญญา แต่พี่ไม่เคยผิดสัญญา ขนาดมีปัญหาเรื่องสงกรานต์แสบสะท้านโลกันต์ เขาก็มาเล่นหลวงตาให้พี่ ทำไมไม่เคลียร์กันตั้งแต่ตอนนั้น ถ้าบอกว่าโดนบังคับให้เล่น เป็นไปไม่ได้เพราะว่าเขาเล่นเป็นคนขาเป๋ 2 ข้าง ถ้าเขาไม่เต็มใจนั่งเล่นก็ไม่ใช่ บังคับกันไม่ได้
ภาพจาก: FB คุยแซ่บShow
