ผู้เชี่ยวชาญด้านรถยนต์ ชี้ลูกสูบรถ – เมมโมรีการ์ดกล้องหน้ารถ เป็นชนวนไขคดีเซลล์สาว
วานนี้ (12 พ.ย.) นายวรพล สิงห์เขียวพงษ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านรถยนต์ เผยเกี่ยวกันกรณีการพบรถจมน้ำและศพที่เหลือเพียงโครงกระดูกภายใน หลังน.ส.กลิ่นเกสร วงษ์สิงห์ หรือ ต่อ อายุ 36 ปี เซลส์ขายปุ๋ย หายตัวนาน 3 ปี โดยระบุว่า ตนคิดว่ากล้องหน้ารถคงพังไปแล้ว แต่เมมโมรี่การ์ดในรถยังอยู่ และสามารถกู้ข้อมูลคืนได้ ซึ่งตำรวจได้ส่งตรวจเพื่อทำการกู้ภาพแล้ว
นอกจากนี้ ทีมข่าวของอมรินทร์ทีวียังได้ภาพจากกล้องวงจรปิด ซึ่งเป็นภาพรถของ น.ส.กลิ่นเกสร ที่ออกจากโรงงานเมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน 2559 เวลา 03.06 น. แต่ไม่ทราบว่าใครเป็นคนขับรถ เพราะฟิล์มมืดมาก
นอกจากนี้ นายสุรมิส เจริญงาม ผู้เชี่ยวชาญด้านรถยนต์ ก็เผยว่า การจะตัดสินว่ามีคนขับรถแล้วรถไหลลงน้ำ หรือมีการเข็นรถให้รถไหลลงน้ำ สามารถดูได้จากห้องเครื่องรถยนต์ หากต้องการรู้ว่าในขณะที่เกิดเหตุนั้น รถยนต์โดนดับเครื่องแล้วเข็นลงน้ำหรือติดเครื่องแล้วขับลงน้ำ ต้องดูที่ลูกสูบและก้านสูบ โดยหากรถดับเครื่อง ลูกสูบและก้านสูบจะไม่ทำงาน จะพบว่าชุดลูกสูบไม่เสียหาย น้ำจะไม่เข้าไปในลูกสูบได้ถึง 5 ปี ลูกสูบจะไม่เกิดสนิม
ในทางกลับกัน หากรถติดเครื่องแล้วพุ่งลงน้ำ จะพบว่าก้านลูกสูบอาจคด สลักก้านสูบหรือวาล์วบนฝาสูบจะมีรอยสึก เมื่อรถตกน้ำ น้ำจะเข้าไปจนทำให้เครื่องยนต์ช็อต ลูกสูบจะเกิดสนิม
นอกจากนี้ หากปิดกระจกรถยนต์แล้วรถตกน้ำ รถจะจมน้ำช้ากว่าการเปิดกระจกรถยนต์ โดยน้ำจะซึมเข้ามารอบ ๆ ตามรูระบายอากาศ และหัวรถจะจมลงไปก่อนเพราะมีเครื่องยนต์ด้านหน้า จากนั้นน้ำจะไหลเข้าห้องเครื่องยนต์ ห้องโดยสาร และใช้เวลาเพียง 1 นาที รถก็จะจมทั้งคัน แต่ถ้าหากเปิดกระจกรถยนต์เอาไว้ น้ำก็จะไหลเข้ามาเร็วกว่านั้น
ทั้งนี้ ตำแหน่งเกียร์รถยนต์ก็สำคัญ เพราะกู้ภัยบอกว่า ตอนที่เอารถขึ้นมา ตำแหน่งรถอยู่เกียร์ D ซึ่งหากอยู่เกียร์ D แสดงว่าคนที่ลงมือฆ่าอยู่นอกรถ เข้าเกียร์ D ปิดประตูรถ แล้วปล่อยให้รถพุ่งลงน้ำ หรืออาจจะนำหินมาทับไว้ที่คันเร่งก็เป็นได้
ที่มา Kapook และ อมรินทร์ ทีวี