กลุ่มคนขับสิบล้อรวมตัวหน้าโรงพักสามร้อยยอด ขอความเป็นธรรมกรณียัดยา
จากกรณีที่ผู้ใช้เฟซบุ๊ก Nalinee Vongsavas โพสต์ขอความเป็นธรรม หลังบิดาซึ่งมีอาชีพรับจ้างขับรถบรรทุกสิบล้อ ตกเป็นผู้ต้องหาคดียาเสพติด ที่ สภ.สามร้อยยอด จ.ประจวบคีรีขันธ์ เมื่อวันที่ 13 พ.ย. ที่ผ่านมา ซึ่งมีผู้แสดงความเห็นจำนวนมากวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของเจ้าหน้าที่
หลังจากนั้น ก็มีการตอบโต้จากเพจเฟซบุ๊กของ สภ.สามร้อยยอด เตือนให้ลูกสาวผู้ต้องหาผู้โพสต์ลบข้อความ และระวังถูกดำเนินคดีจากการแสดงความเห็นเข้าข่ายหมิ่นประมาท เข้าข่ายมีความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์
ล่าสุด กลุ่มเฟซบุ๊ก ‘สานฝันพ่อ ส.แท่นทองขนส่ง โอเคนะ’ ได้นัดรวมตัวกลุ่มคนขับสิบล้อ หน้าสถานีตำรวจสามร้อยยอด เพื่อเรียกร้องความยุติธรรม ระบุว่า ‘มันคงถึงเวลาแล้วที่พวกเราต้องเคลื่อนไหวหาความเป็นธรรม เพราะตอนนี้พวกเราหวาดกลัวกับการผ่านด่านจริงๆ ผมขอนัดพี่น้องครอบครัวรถบรรทุกทั้งหมดไปรวมตัวกันที่ สภ.ด่านสามร้อยยอด เพื่อสอบถามขอเท็จจริงกับเรื่องที่เกิดขึ้น ตามคลิปและเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับอีกหลายๆ คดี’
‘ขอความกระจ่างและความชัดเจนให้พวกเราด้วยใครเห็นด้วยกับผมและทีมงาน ให้ไปเจอกันในวันอังคารที่ 26 พ.ย. นี้ นัดรวมตัวกันตั้งแต่ช่วงเช้าขาขึ้นเจอกันตลาดสามร้อยยอดและขาลงเจอกันตลาดปราณบุรี และเคลื่อนตัวพร้อมกันเวลาบ่าย 2 ของวันอังคารนี้ใครเห็นด้วยช่วยกันคนละหนึ่งแชร์นะคับ และช่วยกันสละเวลามารวมพลังกันให้เห็นถึงความเข้มแข็งของคนทำงานอย่างพวกเราด้วย’
โดยล่าสุดยังไม่มีการแจ้งความดำเนินคดีกับลูกสาวของผู้ต้องหา และผู้แสดงความเห็นทุกราย ขณะที่ผลการสอบข้อเท็จจริงมีความคืบหน้าพอสมควร คาดว่าจะใช้เวลาไม่เกิน 5 วัน จะได้ข้อสรุปทั้งหมด ซึ่งควบคู่กับการดำเนินคดีตามกระบวนการยุติธรรม ภายหลังจับกุมนายโสภณ วงศ์สวัสดิ์ อายุ 47 ปี ชาว จ.ชุมพร ข้อหาครอบครองยาบ้า 1 เม็ด วางไว้ข้างที่นั่งคนขับ ขณะบรรทุกยางพาราจาก จ.ชุมพรไปส่งที่ จ.ระยอง แต่ผลการตรวจปัสสาวะผู้ต้องหาไม่พบสารเสพติด
ขณะที่ ทางตำรวจระบุยืนยันว่า ว่าการสอบข้อเท็จจริงให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย สำหรับเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานในคืนเกิดเหตุยังไม่ได้สั่งพักงาน เนื่องจากยังไม่พบความผิดจากการปฏิบัติหน้าที่
ส่วนการตั้งด่านก็ดำเนินการตามปกติ แต่กำชับให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติตามระเบียบที่กำหนดไว้อย่างเคร่งครัดแสดงความโปร่งใสในการทำงาน เนื่องจากเป็นด่านถาวรตามมติคณะรัฐมนตรีเพื่อป้องปรามเหตุอาชญากรรมและการขนยาเสพติดไปจังหวัดภาคใต้ และที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมยาเสพติดได้จำนวนมาก แต่ก็ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบบริษัทต้นสังกัดของผู้ต้องหาที่ จ.ชุมพร เพื่อหาข้อมูลที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
ที่มา ข่าวสด