ข่าวดารา

ปั้นจั่น ตัดพ้อทำอะไรก็ผิด ยอมรับ ห่างฐิสาจริง

ปั้นจั่น ตัดพ้อทำอะไรก็ผิด ยอมรับ ห่างฐิสาจริง

เรียกได้ว่าปีนี้ทำอะไรก็ผิดไปหมด สำหรับนักแสดงหนุ่ม ปั้นจั่น ปรมะ จนต้องพักการเล่นโซเชียลลง และฐิสา วริฏฐิสา ดาราสาวที่คุยอยู่ก็ดูเหมือนจะห่างๆ กันมาสักพักแล้ว เพราะอะไรนั้น ไปฟังคำตอบจากปั้นจั่นกัน

ภาพวีดีโอคอลของเรากับสาวปริศนา?

เรื่องวีดีโอคอล ผมต้องบอกก่อนว่ามันคืออุบัติเหตุ มือลั่น ผมกำลังจะโพสต์อีกรูปนึง แต่ปรากฏว่ามันกลายเป็นรูปนั้น ซึ่งโดยปกติผมเป็นคนที่ชอบคุยวีดีโอคอลกับเพื่อนอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเพื่อนผู้ชายหรือเพื่อนผู้หญิง ซึ่งก็เป็นไปตามที่บอก หลังจากนั้นผมก็รีบลบภาพออกไปทันที เพราะไม่อยากให้เพื่อนเดือดร้อน

เป็นไปได้ไหมเพราะคนก็เข้าใจว่าอาจจะเชื่อมโยงกับเรื่องมือที่สาม

เรื่องมือที่สาม มันไม่มีอยู่แล้วครับ มันไม่มีทางเป็นไปได้ มันไม่เคยเกิดขึ้น เพราะว่าผมยังไม่มีแฟน หรือคบกับใคร

กับคนที่เราเคยจีบ(ฐิสา วริฏฐิสา) เกิดอะไรขึ้นกับความสัมพันธ์นั้น

ผมต้องบอกว่ามันเป็นเวลาที่ดีนะครับ และสิ่งที่ผมพูดไปทั้งหมดตั้งแต่แรก ผมพูดด้วยความจริงใจ ผมรู้สึกแบบนั้นจริงๆ มาโดยตลอด แต่เมื่อเวลาผ่านไป ด้วยหน้าที่การงานต่างๆ มันอาจจะทำให้จังหวะของเรา 2 คนไม่พอดี และทำให้เราต้องห่างกัน แต่ถึงอย่างนั้นแล้ว มิตรภาพ รวมถึงความเป็นพี่น้องของเราก็ยังเหมือนเดิม

ตอนนี้ไม่ได้จีบเขาแล้วใช่ไหม

ไม่ได้คุยกันมาสักพักแล้วครับ เพราะต่างคนก็ต่างยุ่ง ผมเองก็ต้องเตรียมตัวสำหรับการบวช แถมยิ่งใกล้บวชมากเท่าไหร่ ก็ดูเหมือนว่าปัญหาจะยิ่งรุมเร้า ที่ผ่านมาผมไม่เคยออกมาพูดแก้ตัวหรืออะไรเลย เพราะผมรู้สึกว่าการแก้ตัวมันไม่ใช่การที่ทำให้คนที่เขาไม่ชอบเรา กลับมาชอบเราได้ แถม ณ เวลานี้ไม่ว่าผมจะทำอะไรมันก็เป็นข่าวไปซะหมด ดังนั้นสิ่งที่ผมทำได้ดีที่สุดก็คือการทำใจและเข้าใจมัน

อะไรคือเหตุผลที่ทำให้เรากับเขาเลิกคุยกัน

เรื่องนี้ขอเก็บไว้เป็นเรื่องส่วนตัวนะครับ แต่เอาเป็นว่าเราเข้าใจในตัวของกันและกันก็พอ เรายังคงมีมิตรภาพที่ดี เป็นพี่น้องที่ดีต่อกัน

ความรักมันเคยเกิดขึ้นไหมสำหรับเรากับเขา

อย่าไปเจาะถึงขั้นนั้นเลยครับ เพราะถ้าเจาะไปมันก็จะกลายเป็นประเด็นเปล่าๆ อย่างที่ผมเคยบอก ทุกครั้งเราทุกคนทำเต็มที่ และเราก็หวังว่าจะให้มันดี แต่ในเมื่อมันไม่ใช่ เราก็แค่ต้องยอมรับมัน

ณ เวลานั้นเรารู้สึกเหมือนอกหักไหม

ผมเชื่อว่าทุกคนต้องมีอารมณ์นั้น แต่ the show must go on ไง ผมยังต้องทำงาน ผมยังต้องยิ้มให้กับทุกคน แต่สิ่งที่ผมมองว่ามันเป็นสิ่งที่เหนื่อยที่สุด ของคนทำงานในวงการนั่นก็คือข่าว และคอมเมนต์ต่างๆ จากบุคคลอื่น ผมกล้าพูดเลยว่า ณ เวลานี้ไม่ว่าใครสะดุด หรือใครหกล้มสักนิดนึง ต้องโดนถล่ม ฉะนั้นคนที่เป็นนักแสดงเขาอดทนกันมากนะ ถึงแม้อาชีพของเราจะเป็นคนของประชาชน เป็นบุคคลสาธารณะ แต่ก็อยากให้เห็นใจเราสักนิด เราก็เป็นคนธรรมดาคนหนึ่ง การที่คุณจะว่าจะด่าทอเรา เราก็อยากให้คุณมารู้จักกับเราจริงๆ ก่อน

แสดงว่าเราไม่ค่อยโอเคกับกระแสบูลลี่ที่เกิดขึ้นในโซเชียล?

มันไม่เกี่ยวหรอกครับ แต่ว่าปีนี้ผมโดนมาตลอดไง หน้ามือเป็นหลังมือเลย ทำอะไรก็ผิดไปหมด จากที่เคยเป็นสามีแห่งชาติ ตอนนี้กลายเป็นไอปั้น คำหยาบมีเข้ามามากจนผมเลิกอ่าน แต่ก็เข้าใจนะครับ และเวลาเห็นเพื่อนคนอื่นๆ โดน ก็คิดด้วยว่า อีกหน่อยคงไม่มีใครกล้าพูด หรือกล้าสร้างสรรค์อะไรแล้ว

จริงๆ ตัวผมเอง ผมไม่ได้อยากเป็นข่าวเลยนะ ผมอยากจะแค่ทำงานแล้วเดินกลับบ้านด้วยซ้ำ ผมอยากสร้างสรรค์ผลงานให้กับคนที่ชอบดูละครของผม ผมไม่อยากพูดอะไรทั้งนั้น แต่ในเมื่อวงจรมันเป็นแบบนี้ ดาราต้องมาพร้อมกับสื่อ ออกมาพูดนู่นพูดนี่ ฉะนั้นมันก็ยังจำเป็นที่จะต้องอยู่ต้องพูด

ขออนุญาตถามย้อนกลับไป เราไม่เสียดายเวลา ณ ตอนนั้นเลยเหรอ ที่เราพยายามจีบเขา

กลับมาเรื่องเดิมเหรอครับ ผมไม่ย้อนกลับไปเรื่องเดิมแล้ว

ตอนที่ความสัมพันธ์สรุปแล้วว่าไม่ได้ไปต่อ มันเป็นสาเหตุด้วยไหมที่ทำให้เราเลิกติดตามอินสตาแกรมเขา

ไม่เกี่ยวครับ แต่ที่ผมเลิกติดตามเป็นเพราะผมไม่อยากเสพข่าวบันเทิงให้มากนัก จริงๆ ผมไม่ได้ติดต่อกับเพื่อนในวงการเลยสักคน ผมพูดตรงๆ ผมไม่ได้ตัดขาดนะ ผมรักวงการนี้ ผมชอบอาชีพนี้ แต่ผมก็รู้สึกอีกเหมือนกันว่าบางทีผมอาจจะอยู่กับมันไม่ได้ เพียงแต่ผมต้องอยู่ เพราะพ่อแม่ผมยังต้องกิน ผมยังมีแฟนๆ ที่รักผม เพียงแค่ผมเลิกเสพสื่อทางโลกโซเชียลก็เท่านั้นเอง

เวลาที่ผมพลาด ผมก็อยากตบหัวตัวเอง อยากจะชกหน้าตัวเองให้ปากแตกเลยนะ เพราะผมพลาดอ่ะ ผมทำให้ตัวเองถูกด่าอีกแล้ว ซึ่งมันเหนื่อยนะ ผมท้อ ผมพูดจริงๆ ปีนี้เป็นปีที่แบบ ซิกมาก เอาไว้ปีหน้าค่อยว่ากันใหม่ ส่วนพวกโรคซึมเศร้าโรคอะไรต่างๆ ไม่ต้องเอามาอ้างหรอก เพราะไม่มีใครเขาเชื่อ ถึงพูดไปคนก็ไม่เชื่อ พูดไปคนก็หาว่าสำออยอีก ฉะนนั้นสิ่งที่ทำได้สำหรับคนในวงการก็คือ แข็งแกร่งที่สุด อดทนที่สุด ระวังที่สุด ระวังแล้วระวังอีก ตอนนี้ผมปิดช่องทางโซเชียลหมดทุกอย่าง ยกเว้นอินสตาแกรม เพราะผมยังมีลูกค้า แต่ถ้าผมไม่มีลูกค้าผมลบไปแล้ว

เรารู้สึกท้อหรือเหนื่อยบ้างไหมกับสิ่งต่างๆ ที่มันเกิดขึ้น

เหนื่อยครับ ตอนนี้ผมคิดแค่อย่างเดียวว่าผมทำงานเพื่อครอบครัว และงานนี้มันก็เป็นอาชีพที่ผมถนัดที่สุด ผมทำมันมาเกือบทั้งชีวิตแล้ว ดังนั้นถ้ายังมีคนดู มีคนรัก มีแฟนละครที่ติดตามผม ผมก็จะยังทำงานต่อไป

เคยมีความคิดแว่บเข้ามาในหัวบ้างไหมว่าอยากพักงานในวงการ

ผมมองว่าใครๆ ก็อยากเข้ามาในจุดนี้นะ ฉะนั้นในเมื่อผมก้าวมาทั้งตัวแล้ว ผมก็คงจะต้องคุมพื้นที่ของผมให้ดี ผมยังรักในการแสดงอยู่ แต่ถามว่าความเหนื่อยมันมีไหม แน่นอนครับว่ามันมี แต่ผมเชื่อว่าเวลามันจะช่วยเยียวยาทุกอย่าง การตัดสินใจบวชของผม ไม่ใช่เพราะผมอยากบวชหนีปัญหา แต่ผมมีแพลนของผมมาตั้งนานแล้ว

ถามถึงกรณีข่าวเม้าท์ พระรองอดีตนักร้องเคาะประตูห้องนักข่าว เพราะหวังอะไรบางอย่าง คนก็โยงมาหาเราอีก

อันนี้นะ ความวัวยังไม่ทันหาย ความควายก็เข้ามาแทรก เรื่องนี้มันตลกมาก เพราะมันไม่มีทางที่จะเป็นผม แต่คงเพราะผมเป็นที่รักของชาวเน็ตมั้ง เขาก็เลยเขียนกันมา ปจ. ซึ่ง ปจ. ก็มีอยู่คนเดียว ปั้นจั่น ที่หลังไม่ต้อง ปจ. หรอก เขียนชื่อเต็มให้แม่กูรู้ไปเลยว่ากูไปขึ้นห้องนักข่าว แต่ทั้งหมดทั้งมวลก็คือ ข่าวนี้มั่วมาก ผมไม่ได้ขึ้นห้องใครทั้งนั้น ถ้าผมจะไปจบอย่างนั้น ผมไปอาบอบนวดดีกว่า ผมพูดตรงๆ นักแสดงทุกคนครับ อาบอบนวดปลอดภัยที่สุด

P. Wanutch

อัพเดททุกความบันเทิง ทั้งไทย ต่างประเทศ K-pop รีวิวหนัง เพลง คอนเสิร์ต พร้อมนำเสนอเรื่องราวที่น่าสนใจและหลากหลาย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button