ข่าวดารา

เปาวลี เผยชีวิตหลังแต่งงาน สินสอดสมศักดิ์ศรี

เปาวลี เผยชีวิตหลังแต่งงาน สินสอดสมศักดิ์ศรี

หลังจากเข้าพิธีแต่งงานกันไปเป็นที่เรียบร้อยเมื่อวันที่ 2 พ.ย. ที่ผ่านมา สำหรับนักร้องสาวเปาวลี พรพิมล และเอิร์ธ กานต์ กิจเจริญ งานนี้เปาก็ได้ออกมาเปิดใจถึงความรู้สึกหลังแต่งงานด้วย

เพิ่งผ่านงานแต่งมาหมาดๆ เป็นยังไงบ้าง

ต้องบอกว่าวันงานยังแอบงง ว่าเป็นวันของเราแล้วเหรอ เหมือนเป็นอีเวนต์นึงที่งงๆ เพราะว่ามันเกิดขึ้นเร็ว ดีใจที่คนมากันเยอะ ตอนนั้นเราอยู่แต่ในบ้าน ไม่รู้ว่าจะมีใครมาบ้าง แอบตื่นเต้น พอได้ยินเสียงแตรวง เสียงเครื่องไฟ ยิ่งรู้สึกตื่นเต้น

แห่ขันมากสนุกสนานมากเลย?

เรามาเห็นทีหลังตอนที่คนในงานถ่ายคลิปแล้วเอาไปลงกัน แอบดูว่ามีใครเต้นบ้าง เห็นมีพี่ไอซ์(ศรัณยู) พี่เจี๊ยบ เชิญยิ้ม แล้วก็มีอีกหลายท่าน สนุกสนานมาก ตอนนั้นเราได้ยินแค่เสียงก็จินตนาการว่ามันต้องสนุกแน่เลย แล้วก็แอบเต้นอยู่ในบ้าน

โมเมนต์ในวันนั้นซึ้งขนาดไหนเพราะดูอบอุ่นมาก

หนูรู้สึกว่าเป็นงานแต่งที่เป็นตัวของตัวเองทั้งคู่ ฝั่งเอิร์ธเองก็เป็นคนที่ธรรมชาติ ยังไงก็ได้เรียบง่าย เราเองก็ชอบแบบนี้อยู่แล้ว ชอบความสนุกสนาน งานออกมาก็ตรงตามที่เราวาดไว้ เป็นงานที่เต็มไปด้วยความรัก ทุกคนมาด้วยความเอ็นดูเราทั้งคู่

ในระหว่างทำพิธีมีน้ำตาไหลกันไหม

ตัวเราแอบสะอื้นในใจ ซึ้งว่าวันนี้โตไปอีกก้าวหนึ่งแล้ว แต่ว่าคุณแม่เปากับพ่อกิ๊ก ซึ่งถือว่าเป็นคนที่ดุที่สุดในบ้าน กลับร้องไห้ ร้องตอนที่ส่งตัวเข้าหอ แล้วลูกๆ ขอขมาเพื่อที่จะไปตั้งต้นชีวิตด้วยกัน คุณพ่อคุณแม่ก็ร้องไห้

สวยพร้อมขนาดนี้สินสอดแพงไหม

สินสอดเรียกว่าสมศักดิ์ศรี สมฐานะความเป็นลูกสาวแล้วกัน เพราะเราเองก็ไม่ได้เรียกร้อง เราเห็นว่าการแต่งงานทำให้เราได้เจอญาติๆ เจอคนที่เรารักมารวมกันมันเป็นสิ่งที่สำคัญกว่า เรื่องเงินทองเรื่องสินสอดเป็นของขวัญสำหรับการตั้งต้นการใช้ชีวิตคู่ ต่อไปเราก็ต้องทำงานหาเลี้ยงชีพของเราด้วย

เรียกว่าได้ใช้ชีวิตคู่กันจริงๆ แล้ว ปรับตัวหรือเปลี่ยนแปลงอะไรบ้างไหม

เพิ่งได้เข้าหอเมื่อวันที่ 4พ.ย. เป็นวันแรก มันก็เปลี่ยนไปอีกแบบหนึ่ง เราก็คิดว่ามันก็สนุกไปอีกแบบ เพราะได้ใช้ชีวิตร่วมกัน ต่างคนก็มีสไตล์ของตัวเองซึ่งก็ตลกดี ต้องปรับตัวกัน

เขินไหมเพราะหลังจากนี้ต้องตื่นมาเจอผู้ชายคนนี้ไปทุกวัน

แปลกดี แต่ว่าอบอุ่น

ยังเหลืออีกหนึ่งงาน?

ใช่ค่ะ ที่ผ่านมาเป็นการทำพิธีแบบไทย เหลือวันที่ 9 พ.ย.นี้ เป็นพิธีแบบคาทอลิกที่โบสถ์อัสสัมชัญบางรัก ส่วนใหญ่จะเชิญแขกผู้ใหญ่ทางฝั่งเอิร์ธมากกว่าที่เป็นคาทอลิก เพราะคิดว่าถ้าเกิดฝั่งเปาไปอาจจะเก้ๆ กังๆ เขินกันเพราะพิธีแตกต่างกัน

แพลนฮันนีมูนที่ไหน

มีแพลนไว้หลังงานวันที่เข้าโบสถ์ ไปเชียงใหม่ก่อน เป็นครอบครัวใหญ่ไปกัน เรียกว่าเป็นวันครอบครัวแล้วกัน ไม่ได้ถือว่าฮันนีมูนอะไร แต่เดี๋ยวจะมีอีกรอบหนึ่งคือ ปีหน้าจะไปฮอกไกโดที่ญี่ปุ่นกัน เราขอเขาไว้ว่าอยากเห็นหิมะ อยากชิมหิมะมากเลย พาไปหน่อยได้มั้ย เป็นสถานที่ที่คิดว่าครั้งแรกที่เราจะไปฮันนีมูนกัน ก็อยากจะไปในที่ที่เรายังไม่เคยไปร่วมกัน ไปเจอหิมะด้วยกัน

พร้อมปฏิบัติการปั๊มทายาทเลยไหม

ปล่อยให้เป็นธรรมชาติ ถ้าเกิดเราไปคาดหวังมากเกินไปมันอาจจะไม่มา หรือว่าถ้าเกิดเราไม่ปล่อยให้ธรรมชาติมันก็อาจจะไม่มาเลย ช่วงนี้ก็ถือว่าทำงานไปด้วย ไปเที่ยวด้วยก็ยังโอเคอยู่ แล้วถ้าเกิดน้องจะมาตอนไหนก็ยินดีต้อนรับ เราสองคนก็อยากที่จะมีน้องอยู่แล้ว ยิ่งคุณพ่อคุณแม่ยิ่งอยากอุ้มหลานกันใหญ่เลย

ถามถึงที่โพสต์ในไอจีเล่าถึงที่มาของความรัก

อยากบอกว่าที่พิมพ์ลงไปในไอจี เนื่องจากว่าคู่ของหนูไม่ได้มีพรีเซนต์เทชั่น ไม่มีพรีเวดดิ้ง คือเราก็เข้าใจตัวเจ้าบ่าวด้วย ว่าเขาเป็นคนที่ขี้เขินเวลาจะถ่ายรูป เขาเกาะไม่เป็น แอ๊กติ้งไม่เป็น ทีนี้เรารู้สึกว่างานมันก็ครั้งเดียวในชีวิต เลยอยากจะเล่าประสบการณ์ความรักให้กับทุกคนได้ฟังกัน ซึ่งมันก็เป็นเรื่องราวของเราสองคนนี่แหละ อีพีแรกที่เขียนไปก็ขยันหน่อย พอดีว่าง พิมพ์ไปยาวหน่อย

พออีพีที่สองเริ่มมีงานเข้ามาก็พูดกับตัวเองว่าจะเขียนไปถึงไหนดี แต่ฟีลมันก็มาเองในการเล่าเหตุการณ์ มันอาจจะข้ามขั้นตอน ข้ามวันเวลาไปบ้าง แต่ทุกอย่างก็ออกมาจากใจของหนู ที่ได้เล่าเหตุการณ์ความประทับใจให้กับทุกคนได้รู้ว่า การที่เรากว่าจะมีวันนี้ได้มันต้องผ่านอะไรมาบ้าง ซึ่งตรงที่ไม่เข้าใจอะไรกันหรือว่าอะไรที่มันไม่ดีก็มีบ้าง แต่ว่าเราก็เลือกที่จะเล่าในสิ่งที่ดีแล้วกัน

หลายคนก็อึ้งเหมือนกันว่าความรักของเราไม่ได้ผ่านมาง่ายๆ

ยังคุยกับเอิร์ธอยู่เลยว่าคู่เราเป็นคู่อุปสรรค คู่ที่จะต้องแก้ไขปัญหาตลอดเวลา ตั้งแต่ก้าวแรกที่คบกันมันก็จะมีปัญหาเรื่องระยะทาง เรื่องการทำงานที่เวลาไม่ตรงกัน พอมาได้รู้จักและเหมือนจะลงเอยชีวิตกัน ก็มาทำร้านอาหารด้วยกัน ซึ่งก็มีปัญหาอีกแต่ว่าก็ช่วยแก้ไข จนมาถึงงานแต่งก็มีปัญหาบ้าง แต่เราก็สามารถช่วยกันคิดช่วยกันแก้ไขปัญหา หนูว่าทั้งหมดนี้เป็นแบบทดสอบที่ทำให้เราได้ร่วมกันแก้ปัญหาจนผ่านมาได้

แล้วเรื่องที่จะเล่าจบหรือยัง

ยังไม่จบ ไปเรื่อยๆ ค่ะ คิดว่าชีวิตคนเรามันก็ต้องมีหลายๆ เหตุการณ์ซึ่งตอนแรกเราก็ไม่ได้คิดว่ามันจะเป็นอีพีหรอก แค่อยากให้เป็นการเล่าเหตุการณ์เฉยๆ ทีนี้อีพีเนี่ยมันก็คือเอิร์ธเปา ซึ่งก็ลงตัวพอดีเลย

แต่งงานแล้วยังทำงานปกติใช่ไหม?

ทำปกติ ตอนนี้มีงานแน่นมาก ทั้งละครและงานเพลง รวมถึงโปรเจ็กต์อีกหลายอย่างเลย

P. Wanutch

อัพเดททุกความบันเทิง ทั้งไทย ต่างประเทศ K-pop รีวิวหนัง เพลง คอนเสิร์ต พร้อมนำเสนอเรื่องราวที่น่าสนใจและหลากหลาย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to top button