ข่าวดารา

ทราย เจริญปุระพูดถึงคุณแม่ ไม่คิดแต่งงานมีลูก

ทราย เจริญปุระพูดถึงคุณแม่ ไม่คิดแต่งงานมีลูก : ข่าวบันเทิง

หลังจากที่เสียเพิ่งจะเสียคุณแม่ไป เมื่อไม่นานมานี้สำหรับดาราสาวทราย เจริญปุระ งานนี้เจ้าตัวได้รับเชิญมาในรายการ คุยแซ่บ Show เพื่อเปิดใจถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น ทั้งยังบอกว่าตนไม่คิดที่จะแต่งงาน และมีลูกด้วย เพราะอะไรไปฟังกัน

Advertisements

ขอแสดงความเสียใจอีกรอบ

ขอบคุณมาก อย่างที่เห็นตอนนี้ก็ยังงงๆ อยู่นิดหน่อย มันไม่ใช่เรื่องที่ตื่นมาแล้วหายเลย

ย้อนกลับไปตอนที่คุณแม่จะเสีย ก่อนหน้านั้นเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น

จริงๆ เป็นผลต่อเนื่องมาจากอาการป่วยของเขา คือโรคสมองเสื่อม

ถือว่าเร็วเกินไปไหมสำหรับวัยประมาณแม่

Advertisements

คนจะคิดว่าอาการนี้มาประมาณ 60-70 ปี แต่แม่ทรายเริ่มเป็นประมาณ 59-60 ปี มันก็ค่อนข้างเร็ว มันขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเองด้วย แม่ทรายจะมีปัญหาหลักๆ ในเรื่องของสุขภาพ คือโรคซึมเศร้า เป็นมาตั้งแต่สาวแล้ว ดังนั้นกำลังใจที่เขาควรจะมี ในการดูแลตัวเองตอนป่วยมันก็น้อยลง แล้วมันก็ต้องทำคู่กันไป ซึ่งยาก ก่อนหน้านี้ก็เป็นปัญหามากๆ ในการที่ต้องดูแลกัน

คำว่าโรคสมองเสื่อมไม่ค่อยได้ยิน จริงๆ มันคือโรคอะไร

คนจะคุ้นกับอัลไซเมอร์มากกว่า ว่าเป็นอาการสมองเสื่อมอย่างหนึ่ง แต่สมองเสื่อมในที่นี้มันเกิดได้จากหลายสาเหตุ มีก้อนเส้นโลหิตในสมอง ไม่ดูแลตัวเอง หรือว่าใช้อะไรมาเป็นระยะเวลานาน หลายคนพออายุเยอะขึ้น มีอุปนิสัยอะไรที่แปลกไป ก็อาจจะมีปัญหา เกิดจากตรงนี้ด้วย

พอบวกกับอาการที่แม่เป็นโรคซึมเศร้า เลยกลายเป็นว่าแทนที่จะกู้ร่างกาย หรือสภาวะจิตใจให้แข็งแรงมันกลับแย่ลงไป?

มันก็ยิ่งแย่ลงไป เพราะว่าเขามีแนวโน้มอยากฆ่าตัวตายอยู่ตลอด พอถึงจุดหนึ่งเราต้องแอดมิทแม่เข้าศรีธัญญา ซึ่งเป็นเรื่องเป็นราวมากตอนนั้น ว่าทำไมอย่างนั้น ทำไมอย่างนี้ แล้วเกี่ยวอะไร เอาแม่ไปทิ้งไว้ที่โรงพยาบาลบ้า การโดนแม่ โทรบอกทุกวันว่าวันนี้เขาจะตายยังไง มันแบบ ในทางปฏิบัติมันก็ไม่ได้ เพราะเราเป็นหัวหน้าครอบครัว เราไม่สามารถไปนั่งอยู่เฉยๆ แล้วมียาหล่นมาจากฟ้าให้เรากินได้ เราก็ต้องทำมาหากิน แล้วมันก็ไม่ใช่งานที่แปลกอะไร เพราะเราทำงานนี้มาตั้งแต่ 14 ปีแล้ว แม่ก็รู้ แม่เป็นคนดูคิวให้

วันหนึ่งเขามีปัญหาเรื่องความจำ เขาดูคิวหรืออะไรให้เราไม่ได้ เขาก็รู้สึกว่าลูกหลุดมือออกไปเรื่อยๆ เหมือนกับเขาไม่มีความสำคัญกับเรามากขึ้น ซึ่งมันไม่จริงเลย มันไม่มีทางเป็นไปได้อยู่แล้ว แต่ว่าเวลามันเปลี่ยนไป เราก็ต้องทำ แต่ด้วยความที่เขาเป็นซึมเศร้า เขาพูดอย่างนี้ทุกวัน จนทรายต้องเก็บมีด เก็บข้าวของทุกอย่างที่มันอาจจะเป็นอาวุธ ซึ่งมันยากมาก

อยากจะพูดอะไรกับคนที่เข้าใจทรายคลาดเคลื่อนไหม

แรกๆ น้อยใจ ทำไมทุกคนต้องมาจิก เอาอะไรหนักหนา ชีวิตมันก็ยากมากแล้ว เราก็เหนื่อยมากแล้ว แต่ว่าพอมาถึงจุดหนึ่งก็รู้สึกว่า แค่คนไม่ได้อยู่ในภาวะเดียวกับเรา เขายังไม่ต้องตัดสินใจกับเรื่องแบบนี้ ยังไม่เคยต้องเลือก มันมีทางเหลือน้อยเหลือเกิน มันมี 2 ทางเท่านั้น ไม่ได้อยากจะทำความเข้าใจอะไรมากขึ้น หลังๆ ที่มีคนเข้าใจมากขึ้นบ้างก็ถือว่าดีแล้ว จริงๆ ไม่ต้องเข้าใจทรายเลยก็ได้ เพียงแต่ว่าในชีวิตของทุกคน พอถึงเวลาที่ต้องตัดสินใจจริงๆ มันไม่ได้มีเวลาให้เรามาก

ถามเรื่องที่ หนิง ปณิตา โพสต์ ตอนนั้นพูดด้วยอารมณ์ไหน?

ตกใจเหมือนกัน ถ้าเป็นคนที่โตกว่าเรา เขาเคยทำงานกับแม่ เราจะรู้สึกว่าเขาคิดถึงแม่ แต่พอเป็นเป้ย เป็นหนิง เป็นอั้ม เป็นโอปอล์ เราจะรู้สึกว่า อยู่ๆ เรามีเพื่อนเป็นดารา ไม่อะ มันคือยังไงไม่รู้บอกไม่ถูก ทรายไม่ชอบให้ใคร ต้องมาคอยเป็นห่วงเรา หรือว่าเอาเงื่อนไขของเรา แบบวันนี้รีบนะ ทรายจะรีบกลับไปดูแม่ ไม่ดี ทรายว่าไม่ควร

แต่ชีวิตประจำวันทรายไม่เคยทำตัวเป็นดาราเลย?

ใช่ มันก็เลยไม่ชิน เป็นพวงหรีดจากดารา เขามีอะไรทำตั้งเยอะ อย่างแม่เป้ย เราก็ตามดูไอจี ลูกเขาน่ารัก เราก็ไม่เคยทำงานกับเป้ย เป้ยส่งมาตั้งแต่วันแรกๆ เรารู้สึกว่าโอ้โห รวมถึงคนที่ไปงานศพหลายๆ คน ไม่คิดว่าเขาจะมา ไม่ใช่คิดว่าเขาไม่มีน้ำใจ แต่คิดว่ามันไม่ใช่เรื่องที่เขาจะให้ความสนใจ หรือสำคัญขนาดนั้น

แม่ได้สั่งเสียอะไรไว้ไหม

ไม่มีเลย แต่แกก็เตรียมตัวมาก บ้านทรายพูดถึงเรื่องความตายเป็นปกติ แม่เขาก็เลือกรูป สั่งเสียว่าเอางานแบบนี้ งานไม่ต้องจัดเยอะ อย่าให้คนเห็นฉันเยอะ เพราะฉันไม่สวย สิ่งที่เขาสั่งไว้ เขาสั่งตอนที่เขายังแข็งแรงนี่ ไม่ได้มาสั่งตอนป่วย

วินาทีที่รู้ว่าแม่เสียเป็นยังไง

วันนั้นตอนเช้าจะลงไปเช็ดตัว แล้วดูว่าพี่ที่เป็นพี่เลี้ยงแม่ เขาจัดการนู่นนี่นั่นเสร็จหรือยัง เขาก็ขึ้นมาบอกก่อนว่าแม่เสียแล้ว เราก็แบบ เฮ้ย จริงเหรอ เขาไม่ได้เข้าขั้นตรีทูต เขาก็นอนเฉยๆ

คุณหมอวินิจฉัยว่า?

ระบบในสมองล้มเหลว แล้วทุกอย่างมันก็หยุดทำงานไป

ตอนรดน้ำศพบอกอะไรกับคุณแม่

แม่สั่งไว้เวลารดไม่เอารดแบบที่เขารดกัน เอาเฉพาะให้ลูกๆ แค่นั้นพอ เอาจริงๆ ในหัวมันโล่งมาก เราพยายามนึกว่าแม่สั่งอะไรอีกหรือเปล่า ก็นึกไม่ออก แต่ก็คิดว่าคงไม่มีแล้วมั้ง คนที่มาทำพิธีก็บอกว่าให้คุยกับคุณแม่นะ บอกให้คุณแม่ไปไหว้พระนะ ในใจเราก็คิดว่าแม่ไม่ชอบไปวัด แม่จะยอมไหว้พระหรือเปล่า แต่คราวนี้แม่ต้องไหว้

ถ้าแม่ฟังอยู่อยากบอกอะไร

ทรายโอเคเหมือนเดิม แต่ว่ามันก็แปลกๆ ต้องทำอะไรหลายอย่างมากเลย ตอนที่แม่ป่วย เราก็รู้อยู่แล้วว่าวันหนึ่งมันต้องจบด้วยอะไรแบบนี้ ลองทำอะไรหลายอย่าง ไปเที่ยวเอง แต่ว่ามันไม่คุ้น คิดว่ามันต้องใช้เวลาปรับตัว ทำได้แหละ ก็ไม่ได้อยากให้แม่เป็นห่วง แม่ไม่ได้เลี้ยงมาให้เขาเป็นห่วง แต่ว่ามันประหลาด หลังจากนี้เวลาไปเที่ยว หรือว่าไปทำ อะไร ทรายก็ไม่ต้องมาเล่าให้แม่ฟังแล้ว

เรื่องหัวใจก็มีคนคุย ทำไมไม่สามารถไปแนะนำกับคุณแม่ได้

เอาตั้งแต่เรื่องเพื่อนก่อน ตั้งแต่เด็กแม่ทรายมีนโยบาย ไม่ให้ลูกไปนอนบ้านเพื่อน ไม่ให้เพื่อนมานอนบ้าน ไม่ต้องให้ใครมาส่ง ลูกฉันต้องดูแลตัวเองได้ ทำไมต้องมาส่ง เคยมีคนที่เหมือนจะจีบเรา แล้วมาส่ง แม่ก็เดินไปถามว่าทำไมต้องมาส่งทราย มีปัญหาอะไรเหรอ แม่ทำวงแตกอยู่ตลอด เราก็ขำนะ ไม่ได้รู้สึกอะไร เราก็จะบอกทุกคนที่เข้ามาคุยว่า แม่เป็นแบบนี้ ทรายไม่สามารถเปลี่ยนเขาได้ เขาก็รู้ว่ามีคนคุย แต่เขาจะทำเป็นไม่รู้ จนวันหนึ่งเขายอม แล้วสุดท้ายพอเลิกรากันไป เขาก็จะบอกว่า เนี่ยเห็นไหม ฉันอุตส่าห์ดีกับเขา เขาก็ยังเลิกกับแก เราก็เลยแบบไม่เอาแล้วนะ อยู่กับแม่นี่แหละ

เคยน้อยใจไหม แม่จะห้าวไปไหน

ทรายเคยถามเขา แบบแม่ไม่เคยคิดจะตายหรอ วันหนึ่งถ้าแม่ตายแล้วยังไง แม่บอกก็ฉันฝึกมาแล้วทุกอย่างให้แกอยู่คนเดียวได้

แสดงว่าแฟนคนล่าสุดของทรายยังไม่เคยแนะนำให้แม่รู้จัก?

ไม่เคยเลย เพราะด้วยอาการของแม่ ทรายไม่อยากให้เขาสับสน มันเป็นข้อมูลใหม่ บางทีคนป่วยจะกรองไม่ทัน เราพยายามให้ชีวิตเขาเป็นรูทีน ไม่ใช่อยู่ๆ ก็โผล่มา ทรายก็บอกเขาตรงๆ ว่ามันมีเหตุผลแบบนี้ เขารับได้

เขาเคยคุยเรื่องแต่งงานไหม

เคย ทรายบอกว่าคงไม่แต่ง เพราะมันไม่ต่างอะไรกับตอนที่อยู่กันทุกวันนี้ มันก็ดีอยู่แล้ว ทรายไม่ได้คิดว่าจะมีลูก ก็บอกเขาว่า ถ้าไม่โอเคก็รีบเลยนะ รีบถอยเลย จะได้ไม่เสียเวลาชีวิตกันทั้งคู่ โรคที่ทรายเป็น แม่เป็น มันเป็นกรรมพันธุ์ ทรายไม่อยากให้ลูกมาวัดดวงกับสิ่งที่ทรายเจอมา

ทรายไม่ได้เข้มแข็งขนาดแม่ ที่จะรับมือกับการเลี้ยงลูกได้ ตอนที่แม่เป็น เขาก็ไม่รู้หรอกว่าเขาจะเป็น เขามีลูกออกมา เขาก็ไม่ได้ตั้งใจหรอก ว่าเขามีลูกทั้งๆ ที่ป่วย วันหนึ่งพอแม่ป่วย เราเห็นความเหนื่อย ความต้องฮึบของเขา เขาก็พยายามดีที่สุด เท่าที่เขาทำได้ ทรายรู้ตัวว่าทรายไม่มีความพยายามขนาดนั้นแน่ๆ

เหมือนพ่อแม่แฟนก็อยากให้มี?

ก็เป็นธรรมดา แต่ทรายก็ได้ทำลายความฝันของเขาไปด้วยคำพูด เหมือนพ่อแม่เขาเปรยๆ ว่าคนข้างบ้านเลี้ยงหลานน่ารักอะไรทำนองนี้ ทรายก็บอกว่าดีค่ะ แม่ก็ช่วยเขาเลี้ยงไปเลย เพราะว่าหนูไม่มี

P. Wanutch

อัพเดททุกความบันเทิง ทั้งไทย ต่างประเทศ K-pop รีวิวหนัง เพลง คอนเสิร์ต พร้อมนำเสนอเรื่องราวที่น่าสนใจและหลากหลาย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button