ฟุตบอล

พลิกโผ ! เมสซี่ เข้าวินคว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมเหนือ ฟาน ไดจ์ค, สรุปผลรางวัลและทีมยอดเยี่ยมแห่งปีฟีฟ่า

นักเตะเรอัล มาดริด พาเหรดติดทีมยอดเยี่ยมแห่งปีของฟีฟ่า 4 ราย ขณะที่ ลิเวอร์พูล มี 2 ผู้เล่นทั้ง อาลีสซง เบ็คเกอร์ กับ เวอร์กิล ฟาน ไดจ์ค ติดตามคาดในการประกาศรางวัลเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา

งานประกาศรางวัลยอดเยี่ยมแห่งปีของ ฟีฟ่า เดอะ เบสต์ ประจำปี 2019 มีขึ้นที่เมืองมิลาน ประเทศอิตาลี เมื่อวันจันทร์ที่ 23 กันยายนที่ผ่านมา

Advertisements

รางวัลใหญ่สุดคือ นักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีตกเป็นของ ลิโอเนล เมสซี่ สตาร์ทีมชาติอาร์เจนตินาและสโมสร บาร์เซโลน่า ที่เฉือนชนะ เวอร์กจิล ฟาน ไดจ์ค กองหลังทีมชาติฮอลแลนด์ของ ลิเวอร์พูล และ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ สตาร์ทีมชาติโปรตุเกสของ ยูเวนตุส

แต่ทั้ง 3 คนก็มีชื่อติดทีมยอดเยี่ยมแห่งปี โดยที่ เรอัล มาดริด มีผู้เล่นติดทีมมากสุด 4 คนประกอบด้วย เซร์คิโอ รามอส, มาร์เซโล่, ลูก้า โมดริช และ เอแด็น อาซาร์ ขณะที่ ลิเวอร์พูล, บาร์เซโลน่า และ ยูเวนตุส ติดเข้ามาทีมละ 2 คน

https://twitter.com/TALKFOOTBALLWO1/status/1176269511282106368?s=20

11 รายชื่อทีมยอดเยี่ยมของฟีฟ่า 2019

ผู้รักษาประตู : อาลีสซง เบ็คเกอร์ (ลิเวอร์พูล/บราซิล)

Advertisements

กองหลัง : เซร์คิโอ รามอส (เรอัล มาดริด/สเปน), มัทไธส์ เดอ ลิกท์ (ยูเวนตุส/ฮอลแลนด์), เฟอร์กิล ฟาน ไดจ์ค (ลิเวอร์พูล/ฮอลแลนด์), มาร์เซโลน่า (เรอัล มาดริด/บราซิล)

กองกลาง : เฟร้งกี้ เดอ ย็อง (บาร์เซโลน่า/ฮอลแลนด์), ลูก้า โมดริช (เรอัล มาดริด/โครเอเชีย), เอแด็น อาซาร์ (เรอัล มาดริด/เบลเยียม)

กองหน้า : ลิโอเนล เมสซี่ (บาร์เซโลน่า/อาร์เจนตินา), คริสเตียโน่ โรนัลโด้ (ยูเวนตุส/โปรตุเกส), คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ (ปารีส แซงต์-แชร์กแมง/ฝรั่งเศส)


สรุปรางวัลยอดเยี่ยมทั้งหมดในงาน “ฟีฟ่า เดอะ เบสต์ 2019”

นักเตะชายยอดเยี่ยมแห่งปี : ลิโอเนล เมสซี่ (บาร์เซโลน่า/อาร์เจนตินา)

นักเตะหญิงยอดเยี่ยมแห่งปี : เมแกน ราปิโน่ (เรนจ์ เอฟซี/สหรัฐฯ)

โค้ชชายยอดเยี่ยมแห่งปี : เจอร์เก้น คล็อปป์ (ลิเวอร์พูล)

โค้ชหญิงยอดเยี่ยมแห่งปี : จิลล์ เอลลิส (สหรัฐฯ)

ผู้รักษาประตูยอดเยี่ยมแห่งปี : อาลีสซง เบ็คเกอร์ (ลิเวอร์พูล/บราซิล)

รางวัลแฟร์เพลย์ : มาร์เซโล่ บีเอลซ่า (ลีดส์ ยูไนเต็ด)

ทำประตูยอดเยี่ยมแห่งปี (ปุสกัส อวอร์ด) : ดาเนี่ยล โซรี่ (เดเบรเซ่/ฮังการี, ยิงในเกมพบกับ เฟเรซ์วารอส)

ที่มา: FIFA.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button