สุขภาพและการแพทย์

สาวโพสต์เตือน พักผ่อนน้อยจน ‘ภูมิคุ้มกันเป็นพิษ’ ตุ่มคันเต็มตัว

วานนี้ (19 ส.ค.) มีการเผยแพร่โพสต์จากผู้ใช้เฟสบุ๊กชื่อ ToqTaeq Kerdmee ที่ได้โพสต์ไว้เมื่อวันที่ 11 ส.ค. เป็นอุทาหรณ์สำหรับคนพักผ่อนน้อย และต้องพบแพทย์ถึง 4 คนจึงจะรู้ว่าเป็นโรคภูมิคุ้มกันเป็นพิษ เนื่องจากเป็นพนักงานที่ทำงานเป็นกะ ทำให้ไม่สามารถควบคุมเวลานอนและตื่นได้ และบางวันที่เข้างานดึกมากๆ อย่างเช่น ตีสาม ก็จะไม่ได้นอนเลย เพราะนอนไม่หลับ และเป็นเช่นนี้อยู่ 3 เดือนกว่าจนเริ่มมีอาการ

 

Advertisements

ตอนแรก เกิดอาการคันตามตัว และคิดว่าเป็นแค่แมลงกัด แต่เช้ามาอาการเริ่มไม่ค่อยดี มีตุ่มกระจายตามตัวเยอะขึ้น ไปพบแพทย์ที่แรกแพทย์ระบุว่าเป็นแมลงกัดและไม่ได้ขอตรวจอะไร ถามเพียงว่าโดนอะไรกัดมาแล้วให้ยาแก้แพ้กับยาทา พอตกเย็นตนไปงานวันเกิดเพื่อนและรับประทานอาหารทะเลตามปกติ แต่เริ่มมีอาการคันจริงจังมากขึ้นกว่าเดิม

 

เมื่อกลับมาที่ห้องพักก็พบว่าเริ่มมีตุ่มสีแดงขึ้นตามหลังจนไม่สามารถนอนได้ ซึ่งทีแรกคิดว่ายาที่แพทย์จ่ายมาอาจจะยังไม่ออกฤทธิ์จึงอดทนนอนรอจนเช้า แต่เมื่อเช้าวันต่อมาก็รู้สึกว่าอาการคันจะหนักกว่าเดิม และเริ่มมีตุ่มใสๆ และมีไข้ตามมา ตนจึงเดินทางไปพบแพทย์รายที่สอง โดยแพทย์รายนี้ระบุว่าเป็นอาการแพ้ ซึ่งอาจะเกิดจากแพ้เสื้อผ้า หรือน้ำยาปรับผ้านุ่ม และให้ตนไปรักษาต่อที่สถาบันโรคผิวหนัง

 

ระหว่างรอพบแพทย์ผิวหนังก็มีอาการไข้ขึ้น คันไปทั้งแขนและขา จากนั้นแพทย์ก็แจ้งว่ามีอาการแพ้เช่นเดียวกับแพทย์คนก่อนๆ และฉีดยาให้ตุ่มลด เมื่อกลับมาที่ห้องพัก ตนติดว่าจะดีขึ้น แต่กลับแย่ลงถึงที่สุดเพราะ ใส่เสื้อผ้านอนไม่ได้ ร่างกายร้อนเหมือนไฟ และคันเหมือนมีมดในตัวเป็นล้านๆ ตัว

Advertisements

 

เช้ามาครอบครัวจึงได้พาไปอีกโรงพยาบาลหนึ่ง ซึ่งวัดไข้ได้ถึง 40.2 องศา และความดันตกลงไปเยอะมาก ยังดีที่ยังตอบสนองได้บ้าง แพทย์ได้สั่งให้แอดมิทและรอผลตรวจเลือด นอกจากนั้นก็ให้ยาฆ่าเชื้อทางกระแสเลือดรวมถึงยาอื่นๆ ทางกระแสเลือดเช่นกัน โดยตนถูกกักแยกไว้ในห้อง เมื่อไข้เริ่มลด ก็เริ่มมีปื้นเลือดขึ้นมาตามตัวแทนตุ่ม หลังจากการตรวจอย่างละเอียด แพทย์ได้ระบุว่าตนเป็นโรคภูมิคุ้มกันเป็นพิษ เพราะพักผ่อนน้อย ไม่ค่อยออกกำลังกาย

 

ตนจึงอยากนำประสบการณ์มาแชร์เพื่อให้ข้อคิดเตือนตัวเองและคนรอบข้างว่า อย่าทำงานหาเงินเพื่อรักษาตัวเองในโรงพยาบาล

 

 

ที่มา ข่าวสด

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button