หมู พิมพ์ผกา ย้อนความหลัง “วันแม่” พานาย ณภัทร โดดเรียนไปเที่ยว
หมู พิมพ์ผกา เล่าประสบการณ์”วันแม่”ในวัยเด็กของนาย ณภัทร พาลูกชายโดดเรียนไปเที่ยว หากต้องการแสดงความรักความกตัญญูก็มา กราบแม่ที่บ้าน 2 คนก็พอ
วันแม่ – เป็นเรื่องที่สร้างความสะเทือนใจและกระแสถกเถียงกันอย่างยิ่งถึงความจำเป็นของการจัดกิจกรรมวันแม่ในโรงเรียน หลังโลกโซเชียลแชร์ภาพเด็กน้อยคนหนึ่งที่เก้าอี้แม่ของตัวเองว่างเปล่า น้ำตาแห่งความเสียใจหลั่งรินถั่งท้นจนเพื่อนและแม่ของเด็กข้าง ๆ ต้องช่วยปลอบ
การแสดงความกตัญญูต่อบุพการีเป็นสิ่งงดงาม แต่การจัดกิจกรรมที่ไม่เอื้อต่อเด็กทุกคน จะสร้างบาดแผลและความเจ็บปวดให้พวกเขาแค่ไหน นี่คือสิ่งที่สังคมตั้งคำถามต่อกิจกรรมวันแม่ในโรงเรียน สถานที่ซึ่งหล่อหลอมขัดเกลาดูแลเยาวชนของชาติ
เด็กที่แม่ไม่สามารถมางานได้ เขาจะมีที่ทางอย่างไรในงานเเช่นนี้ ความเจ็บปวดของเด็กได้รับการมองเห็นมากขึ้นจากประชาชน และหัวอกคนเป็นพ่อแม่ อย่างเช่นกรณีของนักแสดงหญิง หมู พิมพ์ผกา เสียงสมบุญ
หมู พิมพ์ผกาเขียนเล่าประสบการณ์วันแม่ของลูกชาย “นาย ณภัทร เสียงสมบุญ” ในวัยเด็กว่า เมื่อถึงงานวันแม่เธอจะพาลูกโดดเรียนไปเที่ยว หากต้องการแสดงความกตัญญู ก็มาแสดงที่บ้านกัน 2 คน
” พอลูกดิฉันเข้าอนุบาล 3 .. ถึงวันแม่,วันพ่อทีไร แทนที่ดิฉันจะไปนั่งร่วมพิธีที่โรงเรียน ให้ลูกได้กราบแสดงความกตัญญู. …. ดิฉันมักจะชวนลูกโดดเรียนค่ะ. ใช่ค่ะคุณฟังไม่ผิด โดดเรียน พาเค้าไปนั่งรถไฟเที่ยว ดูหนังบ้าง เดินห้างบ้าง แฮบปี้มากค่ะ … หากต้องการแสดงความรักความกตัญญูก็มา กราบแม่ที่บ้าน 2 คนก็พอ”
“ย้อนกลับไปเมื่อ 20 ปีก่อน เหตุเกิดจาก งานวันพ่อ …. ก็ลูกดิฉันไม่มีพ่อนี่คะ.. แม่คนนี้หละ เป็นได้ทั้งพ่อและแม่ ก็ต้องไปนั่งในพิธีแทนพ่อ… หันซ้าย หันขวา มีแต่คุณพ่อท่านอื่นๆมานั่ง …ดิฉันเป็นหญิงเพียงคนเดียว ในตอนนั้น…. เราว่าเราก็สตรองพอแล้วนะ.. เจอเพลงบิ้วอารมณ์ซึ้งๆ ตอนลูกมากราบนี่!!!! ไม่ว่าจะวันพ่อ,วันแม่ เราก็น้ำตาแตกทุกครั้ง … ใช่ค่ะดิฉันซึ้ง … แต่พอเงยหน้าดูคุณพ่อท่านอื่น ผู้ชายเค้าไม่ร้องกันนี่นะ 55… มีดิฉันผู้เป็นหญิง บ่อน้ำตาแตกอยู่ผู้เดียว น้ำตาไหลเดินลงเวที. ครูและแม่ๆ เดินตรงดิ่งมาปลอบเราอย่างอ่อนโยนว่า “ไม่เป็นไรนะ ลูกไม่มีพ่อไม่เป็นไร”!!!!
… เอ่อ … ใช่ค่ะ ดิฉันไม่เป็นไรค่ะ ที่ร้องไห้นี่ เพราะว่า ซึ้งค่ะ ซึ้งที่ลูกรู้จักกราบได้น่าเอ็นดู ประกอบกับเพลงโศกที่โรงเรียนเปิดบิ๊ววอารมณ์ !!…. !!!!! ใช่ค่ะ หลังจากนั้นดิฉันพาลูกโดดเรียนทุกเทศกาลวันพ่อ,วันแม่ค่ะ … 555
พากันไปจู๋จี๊ฉลองเทศกาลอัน ศักดิ์สิทธิ์แสดงความรักกันแค่สองคนแม่ลูก”
นอกจากนี้ หมู พิมพ์ผกา ยังทิ้งท้ายถึงงานวันแม่ไว้ว่า สำหรับใครที่กำลังเรียกร้องให้โรงเรียนเลิกจัดกิจกรรมนี้ อย่ารอให้โรงเรียนมีมติยกเลิกงานนี้ เพราะจะไม่ทันเวลาที่จะทำให้เด็กกำพร้ามีบาดแผลในใจ พาเด็กในสังกัดของคุณ โดดเถอะค่ะ พาออกไปท่องเที่ยว สร้างความรักความสุขให้เค้า สละเวลาเพียง 1 วัน วางแผนล่วงหน้าไว้เลย
ไม่ว่าคุณจะเป็น พี่ ป้า น้า อา ปูย่าตายาย ของเด็กคนใดคนหนึ่ง ที่ขาดพ่อ หรือ แม่ . ช่วยสละเวลาอันมีค่าของท่าน พาเค้าออกไป อย่าได้ให้เห็น ภาพบาดตาบาดใจ เพราะมันจะกลายเป็นแผลในใจ
ที่กล้าบอกกล้าทำแบบนี้เพราะ กาลครั้งหนึ่ง ดิฉัน ดญ. พิมพ์ผกา ในวัยเด็ก ก็เคยนั่งแอบอยู่ท้ายแถวซุกหน้ากอดเสาร้องให้ เพราะไม่มีใครมาร่วม ในพิธีวันแม่อันศักดิ์สิทธิ์ มันเจ็บปวด อย่างสาหัส ใครไม่เคยเจอกับตัว ไม่รู้หรอก !!!
เมื่อโพสต์ดังกล่าวเผยแพร่ออกไป ได้มีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นมากมาย เช่น ปุ๋ม ปนัดดา ก็เล่าว่าตนไม่เคยไปงานวันแม่ให้ลูก สงสารเด็กคนอื่น โบว์ ณัฏฐา นักเคลื่อนไหวทางการเมืองบอกว่า “โรงเรียนคือผู้ช่วยเรา อย่าไปคิดว่าต้องไปทุกวัน ทำตามทุกอย่าง วันไหนจัดกิจกรรมที่ไม่อยากร่วม ไม่สอดคล้องกับจุดประสงค์ของเรา ก็ถือว่าได้วันหยุดมาวันนึงค่ะ”
ก่อนหน้านี้ไม่นาน กระแสเรื่องการยกเลิกกิจกรรมวันแม่ถูกหยิบยกมาพูดถึงอีกครั้ง หลัง “ศุ บุญเลี้ยง” หนึ่งในสมาชิกวงเฉลียงและผู้แต่งเพลงอิ่มอุ่น ได้โพสต์ว่า
“เรียนท่านรัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการ เนื่องจากเห็นว่า ทางโรงเรียนไม่ควรจัดงานวันแม่ โดยการชักชวนให้นำแม่มาให้นักเรียนกราบไหว้ที่โรงเรียน
เพราะการให้ผู้ปกครองมาโรงเรียนในวันสำคัญ เป็นการสร้างความสะเทือนใจให้กับนักเรียนซึ่งพ่อแม่ไม่สามารถจะมาร่วมงานได้ จะด้วยเหตุผล ที่เป็นเด็กกำพร้า หรือว่าครอบครัวหย่าร้าง แม้กระทั่งไม่ว่าง ไม่สะดวกที่จะมาโรงเรียนในวันนั้นๆ
ทั้งนี้ ไม่ได้ห้ามจัดงานวันแม่ หรือห้ามการเรียนรู้เรื่องการไหว้กราบ หวังว่า ทางโรงเรียนซึ่งไม่ได้รับคำสั่งให้จัดงาน
ควรพิจารณาได้ด้วยสามัญสำนึกของความเป็นครู และหากทางรัฐมนตรี ซึ่งมีหน้าที่ส่งมอบนโยบาย เห็นสมควร ได้โปรดแจ้งให้ทางโรงเรียนทราบถึงความเหมาะสม ด้วยประการทั้งปวง”
https://www.facebook.com/SuBoonlieng/posts/2885022161569221
ขณะที่ คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ออกมาอธิบายถึงกระแสให้ยกเลิกงานวันแม่ว่า “ยืนยันว่า ยังคงต้องมีการจัดกิจกรรมวันพ่อและวันแม่ภายในโรงเรียนอยู่ แม้ว่าผู้ปกครองจะสะดวกหรือไม่ก็ตาม แต่การแสดงออกก็มีอยู่หลายรูปแบบ
ประเพณีวัฒนธรรมของไทยเราต้องเคารพพ่อและแม่อยู่แล้ว และในแต่ละปีใครๆ ก็อยากแสดงออกในวันดังกล่าว ซึ่งประเพณีที่ดีงามเช่นนี้เด็กสมัยใหม่อาจยังไม่เข้าใจ”
เมื่อประมวลทั้งหมดแล้ว สิ่งที่ผู้ใหญ่ควรฉุกคิดและตระหนัก คือ การแสดงออกซึ่งความรักสามารถทำได้หลายรูปแบบ ไม่เฉพาะเจาะจงว่าจะต้องกราบแม่ในวันแม่ หรือแสดงความรักกันตามพิธีการ เพราะความรักที่แม่มีต่อลูกเป็นความรักอันบริสุทธิ์ แม่ย่อมอยากเห็นลูกของตนมีความสุข
อย่าให้ความรักนี้กลายมาเป็นสิ่งที่ทำลายหัวใจดวงน้อย ๆ ของเด็กเลย
ขอขอบคุณข้อมูลจาก