ข่าวภูมิภาค

ขันเงิน เข้าใจ มิกซ์ VKL เป็นใครใครก็โกรธ แต่ไม่ต้องแต่งเพลงมาด่าพี่

หลัง ‘มิกซ์ VKL’ เพทาย วงษ์คำเหลา ลูกชาย หม่ำ จ๊กมก ออกมาแต่งแร็ปด่า ขันเงิน เนื้อนวล หรือ ขันเงิน ไทเทเนียม ในลักษณะว่าเคยยกมือไหว้ 3 ครั้ง แต่อีกฝ่ายไม่เคยรับไหว้ ทำให้ฝ่ายขันเงินต้องออกมาอธิบายผ่านอินสตาแกรมว่าตกสายตาไม่ดี

 

Advertisements

ล่าสุด วานนี้ (22 ก.ค.) ขันเงินได้ให้สัมภาษณ์ ว่าจริงๆ เป็นคนสนุกสนานเฮฮา แต่ข้อสัยคือเป็นคนสายตาไม่ดี ถ้าเห็นใครไกลๆ จะไม่ทักเลย เพราะกลัวทักผิด และพยายามที่จะนิ่งๆ ไว้ ยิ่งตอนกลางคืน ก็จะยิ่งมองไม่เห็น

 

“ถ้าใครอยู่ไกลๆ ผมจะไม่ค่อยกล้าทักเลย เพราะว่าเคยทักผิดบ่อยแล้วมันดูเสร่อไง (หัวเราะ) จริงๆ คือผมไม่รู้ตัวเลยด้วยซ้ำ ว่าน้องเขาเคยมาไหว้ผม ถ้าผมรู้ตัวก็ต้องรับไหว้กลับอยู่แล้ว ลูกพี่หม่ำยังไงผมก็ต้องคุยหรือเปล่า แต่คือผมไม่รู้ตัว น้องบอกด้วยว่าเคยมาทักทายผมถึง 3 ครั้ง อาจจะเป็นความผิดของผมที่มองไม่เห็น ไม่รู้ว่าอยู่ในจุดไหน บางทีอาจจะไม่ได้มีสมาธิที่จะคุยอะไร”

 

อย่างไรก็ตาม ขันเงินยืนยันว่าไม่มีอะไรหมางใจกับมิกซ์ ตัวเองอยู่ในฐานะรุ่นพี่ก็ต้องเป็นที่เคารพที่ถูกต้อง เรื่องนี้จึงไม่ได้คิดอะไรมาก แต่ยังไม่มีฌอกาสคุยกับอีกฝ่าย และฝากบอกว่า “ไม่มีอะไรและไม่รู้ตัวจริงๆ แล้วต้องขอโทษด้วยนะที่มองไม่เห็น วันหลังมาทักถึงตัวได้เลย”

Advertisements

 

“ผมว่ามันเป็นความรู้สึกของคน ถ้าผมยกมือไหว้ใครสักคนแล้วเขามองไม่เห็นผม 3 ครั้ง ผมก็มีสิทธิ์ที่จะรู้สึกโกรธใช่ไหม (หัวเราะ) เลยให้อภัยน้อง ถือว่าคราวหน้าเดี๋ยวคุยกันแล้วกัน ไม่ต้องมาทำเพลงด่าพี่ก็ได้ (หัวเราะ)”

 

เรื่องเพลงแร็ปด่าตน ขันเงินเผยว่าได้ยินเพลงนี้แล้ว มีคนส่งมาให้ฟัง ฟังแล้วก็ขำ เพราะความผิดนี้เกิดขึ้นกับตนบ่อย เรื่องที่ทักแล้วมองไม่เห็น แต่ก็อย่างที่ได้บอกไปคือตนมองไม่เห็นจริงๆ แถมยังใส่แว่นดำตลอดอีก

 

อย่างไรก็ตาม ตนทำรายการ The Rapper เพื่อสนับสนุนคนรุ่นใหม่ แล้วตนจะไม่ทักคนรุ่นใหม่ได้อย่างไร เพราะทุกคนมีความหมายต่อสิ่งที่ตนทำอยู่ ส่วนเรื่องเนื้อเพลงที่ออกมานั้น ก็รู้สึกเฉยๆ แต่เร็วๆ นี้จะมีเพลงใหม่ปล่อยมา เป็นเพลงประมาณว่า เอาอย่างที่สบายใจ ซึ่งเป็นเพลงที่ทำกับโต้ง (Twopee) ความหมายของเพลงอาจจะไปตรงกับสถานการณ์พอดี แต่ยืนยันว่าไม่ใช่เพลงที่ทำออกมาโต้ตอบมิกซ์อย่างแน่นอน เพราะมีการทำเพลงนี้มาก่อนนานแล้ว ก่อนที่จะมีข่าวนี้ขึ้นมา

 

ที่มา ผู้จัดการออนไลน์

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button