นศ.วิศวะฯถูกจับคดีเอี่ยวเผาโรงพักถลางปี 58 ยืนยันตนไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง
นศ.วิศวะฯถูกจับคดีเอี่ยวเผาโรงพักถลาง ปี 58 ยืนยันตนไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง
วันที่ 18 พ.ค. จากกรณีวันที่ 15 พ.ค. ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่กองปราบนำกำลังจับกุม นายเสฎฐวุฒิ ตั้งจิตต์ อายุ 21 ปี ในข้อหา “ร่วมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป ใช้กำลังประทุษร้ายขู่เข็ญ, ร่วมกันวางเพลิงเผาทรัพย์อันเป็นสาธารณะและทรัพย์สินของแผ่นดิน, และอีกหลายข้อหา สืบเนื่องจากเหตุการณ์เผาโรงพักถลางเมื่อปี 2558 นั้น
อ่านข่าวก่อนหน้า : รวบหนุ่ม นศ.วิศวะฯไฟฟ้า เอี่ยวเผาโรงพักถลางปี 58 เจ้าตัวอ้างไม่เกี่ยว
คืบหน้าล่าสุด ผู้ใช้เฟซบุ๊ก น.นาย ฉึกฉึก หรือ นายเสฎฐวุฒิ ตั้งจิตต์ อายุ 21 ปี ได้ออกมาโพสต์เฟซบุ๊กชี้แจงต่อข้อหาที่ตนกำลังโดนดังกล่าวว่า
“กราบเรียนผู้ทรงคุณวุฒิ พี่ๆ เพื่อนๆและน้องๆครับ ตามที่สำนักข่าว รายงานข่าวว่าผม นาย เสฎฐวุฒิ ตั้งจิตต์ อายุ 21 ปี หลบหนีคดีก่อม๊อบเผาโรงพักถลางประท้วงตำรวจ(ตามรูปภาพ)
ผมขอเรียนให้สังคนรับทราบว่า ผมไม่เคยได้รับหมายเรียกตัวว่ากระผมเป็นผู้ต้องหา กระผมไม่ได้หลบหนีคดีตามที่สำนักข่าวดังกล่าวรายงาน กระผมได้ใช้ชีวิตตามปกติ และขอเรียนให้ทราบว่าในวันเกิดเหตุ ทั้งเวลากลางวันและกลางคืนผมไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ผมขอรับประกัน ทั้งกล้องวงจรปิด และกล่องวงจรเปิด ไม่มีภาพกระผมอย่างแน่นอนด้วยความมั่นใจเกิน100 ไม่มีเหตุผลอะไรที่กระผมจะต้องหลบหนีคดี
ผมเป็นที่รู้จักของผู้คนในหมู่บ้านผมเป็นสมาชิกชมรม to be number one กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ทราบประวัติและความประพฤติของผมเป็นอย่างดี กระผมไม่เคยรับทราบมาก่อนเลยว่าตัวกระผมโดนคดีตามที่เป็นข่าวกระผมขอหยิบยกข้อเท็จจริงพอเป็นสังเขปว่าไม่มีเหตุผลอะไรที่ผมจะต้องหลบหนีตามที่สำนักข่าวข้างต้นเขียนข่าวขึ้นมา รายละเอียดดังนี้
1. ผมไม่ได้อยู่ในที่เกิดเหตุและไม่อยู่ในเหตุการณ์ก่อม๊อบเผาโรงพักถลาง ประท้วงตำรวจ ทั้งเหตุการณ์กลางวันและกลางคืน
2. ผมใช้ชีวิตเป็นปกติเพราะตัวผมเองไม่เคยทำความผิดใดๆ อันเป็นที่เสื่อมเสีย นำมาซึ่งเป็นคดี
3.ในวันที่ผมได้เห็นหมายศาลจับกุมโดยเจ้าหน้าที่กองปราบปรามเมื่อวันที่โดนควบคุมตัว ในวันที่ 15 พ.ค. 2562 หมายจับที่ 844/2558 ลงวันที่ 18 พ.ย.2558 อนุมัติโดยผู้พิพากษาโดยขณะนั้นปี 2558 ผมศึกษาอยู่ที่ วิทยาลัยเทคนิคภูเก็ต อยู่ตรงข้าม สภ.เมืองภูเก็ตและทางสถาบันของผมก็ติดต่อสื่อสานกับ สภ.เมืองภูเก็ตมาโดยตลอด ทำไมไม่มีรับแจ้งบ้างว่าผมเป็นผู้ต้องหา
4.ผมเรียนระดับ ปวช ก็อยู่ในระหว่างออกหมายจับกุม ผมขับรถไปเรียนหนังสือเมื่อตำรวจตั้งด่านตำรวจเรียกผมก็ยกมือไหว้ทุกครั้งกระผมมีป้ายชื่อและนามสกุลที่มองเห็นชัดเจนอยู่บนหน้าอก ทำไมตำรวจไม่แจ้งว่าผมเป็นผู้ต้องหาในขณะนั้น ผมจะทราบได้อย่างไรว่าผมมีความผิด
5.ผมเรียนระดับ ปวส ที่สถาบันเดิมเป็นระยะเวลา 2 ปี พฤติกรรมของผมก็เหมือนกับ ข้อที่ 4
6.โรงพักถลางที่เป็นเจ้าของคดี ก็อยู่ห่างจากบ้านผม ประมาณ 7 กม. การสืบหาตัวผมไม่น่าจะยากเกินไป จนปล่อยให้เวลาล่วงเลยมาถึง 3ปีกว่า
7.เจ้าหน้าที่ตำรวจโรงพักถลาง ที่รู้จักมักคุ้นกับพ่อผมก็หลายท่านและมีบ้านอยู่ระแวกเดียวกันกับผมก็หลายท่าน ผมจึงเกิดข้อสงสัยว่าทำไมไม่มีใครแจ้งข้อมูลให้รับทราบบ้างเลย
8.ผมเป็นนักศึกษา ผมไปติดต่อเรื่องทะเบียนทหาร ก็เป็นสถานที่ราชการ อีกทั้งต้องไปจ่ายค่าขึ้นทะเบียนทหารล่าช้าที่โรงพักถลาง มีการเรียกชื่อ ลงลายมือชื่อ อย่างชัดเจน ทั้งแสดงบัตรประชาชนให้เจ้าหน้าที่ตำรวจอีกด้วย ทำไมไม่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจมาแสดงการจับกุมตัวผม แล้วผมจะทราบได้ยังไงว่าเป็นผู้ต้องหา
9.กำนัน ผู้ใหญ่บ้านในตำบลกับพ่อของผมก็มักคุ้นกัน ถ้าฝ่ายปกครองมีข้อมูลหรือทราบว่าผมมีคดีตามข้อหาข้างต้นทางครอบครัวกระผม น่าจะได้รับข่าวบ้างรวมถึงหมายเรียกตัวผมก็ไม่เคยได้รับทราบ
10. กระนั้นเมื่อวันที่ 16 พ.ค. 2562 เวลาประมาณ 17.00 น.ในชั้นสืบสวน พนักงานสืบสวนให้ผมดูรูปภาพ ซึ่งมาร์คกรอบสีแดง ที่ระบุว่าเป็น นาย เสฎฐวุฒิ ตั้งจิตต์ โดยเปรียบเทียบกับบัตรประชาชนของผม เมื่อผมเห็นรูปภาพดังกล่าว ผมก็ส่งยิ้มให้กับคุณพ่อ และผมก็ตอบเจ้าพนักงานสอบสวน(ผู้กอง)เสียงดังชัดเจนแบบมั่นใจเกิน 100 เปอร์เซ็นต์ไปว่ารูปดังกล่าวไม่ใช้ใบหน้าของกระผมโดยเด็ดขาด
ทั้งนี้กระผมขอกราบเรียนผู้ทรงคุณวุฒิ พี่ๆ เพื่อนๆ น้องๆในสังคม ช่วยวิเคราะห์และพิจารณา ว่านักศึกษาอย่างกระผมที่ตั้งใจเรียนหนังสือ ทำความดี และประพฤติดีมาโดยตลอด และไม่เคยทำการใดๆ ให้เป็นการเสียหายต่อวงตระกูล รวมถึงสถาบันที่เคยศึกษาและในสถาบันที่กำลังศึกษาอยู่ในปัจจุบัน ต้องมาตกเป็นผู้กระทำความผิด และถูกสำนักข่าวข้างต้น
เขียนข่าวว่ากระผมหนีคดี ในขณะที่กระผมไม่ได้แหกคุก ไม่ได้หนีไปต่างประเทศ ไม่ได้ถูกไล่ล่า ขอให้สังคมช่วยพิจารณาว่า สำนักข่าวข้างต้นรายงานข่าวว่ากระผมหนีคดีนั้นเป็นการสมควรและเหมาะสมหรือไม่ครับ
#ขอบคุณครับ