เด็กหญิงบังกลาเทศถูกเผาทั้งเป็น หลังแจ้งความถูกผอ.รร.สอนศาสนาล่วงละเมิดทางเพศ
เด็กหญิงบังกลาเทศถูกเผาทั้งเป็นจนตาย หลังแจ้งความถูกครูใหญ่โรงเรียนสอนศาสนาล่วงละเมิดทางเพศ
วันที่ 19 เม.ย. เว็บไซต์ BBC รายงานเหตุสลดที่ประเทศบังกลาเทศ Nusrat Jahan Rafi หญิงสาวอายุ 19 ปี จากเมืองเล็กๆ ชื่อว่าเฟนี ทางใต้ของธากา เด็กสาวผู้กล้าหาญที่ลุกขึ้นมาต่อสู้เพื่อสิทธิบนร่างกายของเธอ เมื่อเธอถูกครูใหญ่โรงเรียนสอนศาสนาซึ่งเธอเรียนอยู่ล่วงละเมิดทางเพศ ครูใหญ่ได้เรียกเธอเข้าไปในห้องทำงานก่อนลวนลาม แต่เธอวิ่งหนีออกมาได้
Nusrat นำเรื่องที่เกิดขึ้นไปบอกครอบครัวและแจ้งตำรวจ แต่ทว่าเมื่อเธอไปให้ปากคำที่สถานีตำรวจซึ่งควรมีสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยแก่เหยื่อ ขณะเธอเล่าประสบการณ์ซึ่งสร้างความบอบช้ำทางจิตใจ เจ้าหน้าที่กลับใช้โทรศัพท์ถ่ายคลิปขณะที่เธอเล่าเหตุการณ์ในคลิปวิดีโอ เห็นได้ชัดว่า Nusrat ไม่พอใจ และพยายามใช้มือปิดบังใบหน้า ตำรวจบอกว่าการร้องทุกข์ของเธอ “ไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไร” และบอกเธอให้เอามือออกจากหน้า
ต่อมาครูใหญ่ผู้ก่อเหตุถูกจับกุม แต่ได้มีกลุ่มคนรวมตัวกันบนท้องถนน นักการเมืองท้องถิ่นหลายคนก็เข้าร่วมการประท้วงนี้ด้วย พวกเขาเรียกร้องให้ปล่อยตัวครูใหญ่ ผู้คนเริ่มตำหนิเหยื่อและครอบครัวของเธอ จนเกิดความกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของเธอ ซึ่งก็เกิดขึ้นจริง ๆ…
ผู้คนจำนวนมากได้ออกมาร่วมงานศพของ Nusrat
11 วันต่อมาหลังเกิดเหตุล่วงละเมิดทางเพศ Nusrat กลับไปโรงเรียนเพื่อสอบปลายภาค “ผมพยายามพาน้องสาวไปโรงเรียน และพยายามเข้าไปข้างใน แต่มีคนมาห้ามไม่ให้ผมเข้าไป” มาห์มูดัล ฮาซัน โนมัน พี่ชายของ Nusrat เล่า “ถ้าไม่มีคนมาห้ามผม เรื่องแบบนั้นคงไม่เกิดขึ้นกับน้องสาวผม”
แล้วเรื่องเลวร้ายก็เกิดขึ้น เพื่อนนักเรียนหญิงคนหนึ่งได้พาเธอขึ้นไปบนดาดฟ้าโรงเรียน โดยบอกว่าเพื่อนอีกคนกำลังถูกทุบตีอยู่ เมื่อไปถึงข้างบน ก็มีคน 4-5 คนในชุดคลุมทั้งตัวหรือที่เรียกว่า บูร์กา (burqa) เข้ามาล้อมเธอไว้ และกดดันให้เธอถอนแจ้งความอาจารย์ใหญ่ เมื่อเธอปฏิเสธ คนเหล่านั้นก็จุดไฟเผาเธอด้วยน้ำมันก๊าดและจะทำให้ดูเหมือนเป็นการฆ่าตัวตาย แต่แผนการของพวกเขาล้มเหลว
Nusrat ได้รับการช่วยเหลือ แต่เสียชีวิตในอีกหลายวันต่อมา เนื่องจากร่างกายของเธอถูกไฟไหม้ทำลายไปถึง 80% ขณะอยู่ในรถพยาบาล เธอกลัวว่าจะเสียชีวิตก่อน จึงบันทึกเสียงใส่โทรศัพท์ของพี่ชายเธองครั้งสุดท้ายว่า
“ครูแตะเนื้อต้องตัวฉัน ฉันจะต่อสู้กับอาชญากรรมนี้จนลมหายใจสุดท้าย”
ครอบครัวของ Nusrat ต้องประสบความสูญเสียแสนสาหัส
ที่มา : BBC