ตำรวจเกาะพีพีจับหนุ่มเรือหางยาว วัย 23 ล่วงละเมิดทางเพศนักท่องเที่ยวสาวชาวอังกฤษ วัย 21ปี
เจ้าหน้าที่ตำรวจเกาะพีพี จับกุมตัวหนุ่มเรือหางยาว วัย 23 ปี ก่อเหตุล่วงละเมิดทางเพศนักท่องเที่ยวสาวชาวอังกฤษ วัย 21ปี ขณะเดินทางท่องเที่ยวสงกรานต์เกาะพีพีเพียงลำพัง ขณะที่ผู้ต้องหายังให้การปฏิเสธ
วันที่ 18 เม.ย. 62 พ.ต.ท.ธงชัย มติธรรม รองผกก.สภ.เกาะพีพี จ.กระบี่ พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ได้ควบคุมตัวนายไตรรัตน์ ช่างสนั่น อายุ 23 ปี หนุ่มเรือหางยาว เกาะพีพี อยู่บ้านเลขที่ 70 ม.4 ต.เกาะศรีบอยา อ.เหนือคลอง จ.กระบี่ ผู้ต้องหาข่มขืนกระทำชำเรา น.ส.มีเกน เพนนี นักท่องเที่ยวสาวชาวอังกฤษ อายุ 21 ปี ขณะเดินทางมาเที่ยวสงกรานต์ที่เกาะพีพี มาทำการ สอบสวนที่ สภ.เกาะพีพี ตำบลอ่าวนาง อำเภอเมืองกระบี่ หลังจากถูกจับกุมตัวได้เมื่อวานนี้ ที่บริเวณชายหาดอ่าวโล๊ะดาลัม เกาะพีพี ม.7 ต.อ่าวนาง เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับว่า ไม่ได้ลงมือข่มขืน เพียงแต่ลูบๆคลำเท่านั้น เพราะถูกผู้เสียหายผลักออกจึงรีบหนีไป
พ.ต.อ.กฤตภาส เดชอินทรศร ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเกาะพีพี เปิดเผยว่า เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลา ตี 3 วันที่ 15 เมษายน ที่ผ่านมา โดยนักท่องเที่ยวสาว เดินทางมาท่องเที่ยวบนเกาะพีพี เพียงลำพัง เข้าพักที่โรงแรม ไฮบีซ่า โฮเต็ล บริเวณชายหาดโละดาลัม จากนั้นออกไปเที่ยวตามบาร์เบียร์ รู้จักกับนักท่องเที่ยวชาย ชาว ไอแลนด์ ได้ดื่มกิน เครื่องดื่มผสม ใส่ถังพลาสติก หรือบาสเก็ต คนละ 2 ถัง จนกระทั่งเวลาเที่ยงคืนทั่งสองคนเมาไม่ได้สติ เดินกลับที่พัก แต่เดินต่อไปไม่ไหวจึงหยุดพัก ที่ร้านอาหารของโรงแรมกรีนเฮ้า บริเวณชายหาดโล๊ะดาลัม นอนหลับไปทั่งคู่
จนกระทั่งเวลาประมาณ ตี 3 ผู้ต้องหา ซึ่งมีอาชีพเป็นเด็กท้ายเรือ มีบ้านพัก ใกล้กับที่เกิดเหตุ ได้ ใช้ มีคัตเตอร์กรีด เป้ากางเกงยีนต์ขาสั้นของผู้เสียหาย หวังทำการล่วงละเมิดทางเพศ ผู้เสียหายรู้สึกตัว โวยวาย ผู้ต้องหาจึงวิ่งหลบหนี ผู้เสียหายจึงได้เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลเกาะพีพี อยู่ระหว่างรอผลตรวจ
จากนั้น เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ออกติดตามตัวผู้ต้องหา ซึ่งจากการสืบพยานต่างๆ ทราบว่า ผู้ต้องหาเป็นผู้ก่อเหตุ เจ้าหน้าที่ด่านตรวจค้นเข้าเมืองจังหวัดกระบี่ เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรเกาะพีพี ติดตามจับกุมผู้ตัวมาทำการสอบสวน ดำเนินคดี
อย่างไรก็ตาม พ.ต.ท.ธงชัย มติธรรม รองผกก.สภ.เกาะพีพี เปิดเผยว่า จาการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดบริเวณที่เกิดเหตุ พบว่า ขณะเกิดเหตุผู้ต้องหา ได้เข้าไปที่ผู้เสียหายจริง แต่จากการตรวจสอบเบื้องต้นยังไม่ได้ทำการข่มขืน ก่อนรับลุกขึ้นหนีไปจากที่เกิดเหตุ ซึ่งจะได้สอบสวนอย่างละเอียดอีกครั้ง
