จีนตรึงกำลัง ซ้อมรบรอบเกาะไต้หวันเข้าวันที่ 2 ระดมยิงจรวดขู่ชาติพันธมิตร สหรัฐฯเชื่อยังไม่บุกเร็วๆนี้

เข้าสู่วันที่ 2 ที่กองทัพจีนทำการซ้อมรบใหญ่รอบเกาะไต้หวัน มีการระดมยิงจรวดพิสัยไกล จำลองสถานการณ์ ด้านผู้นำสหรัฐฯ ไม่กังวล เชื่อจีนไม่บุกไต้หวันเร็วๆนี้
สถานการณ์ในช่องแคบไต้หวันทวีความตึงเครียดขึ้นในวันอังคารที่ 30 ธันวาคม 2568 เมื่อกองทัพปลดปล่อยประชาชนจีน (PLA) ดำเนินการซ้อมรบด้วยกระสุนจริงต่อเนื่องเป็นวันที่สอง โดยมุ่งเน้นไปที่การปิดล้อมเกาะและสกัดกั้นการเข้ามาช่วยเหลือจากพันธมิตรของไต้หวัน
กองทัพจีนได้เผยแพร่วิดีโอการใช้ระบบยิงจรวดหลายลำกล้อง PCH-191 ที่ทันสมัย ยิงถล่มเป้าหมายในทะเลทั้งทางตอนเหนือและตอนใต้ของไต้หวัน ซึ่งเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญของเส้นทางขนส่งพลังงานและทรัพยากรที่จำเป็นต่อเกาะไต้หวัน โดยทางการจีนใช้เครื่องบินรบ 130 ลำ (สูงสุดเป็นอันดับ 2 ในประวัติศาสตร์), เรือรบ 14 ลำ และเรือหน่วยยามฝั่งอีก 8 ลำ และยังเป็นครั้งแรกที่มีการนำเรือโจมตีสะเทือนน้ำสะเทือนบก Type 075 ขนาดมหึมามาร่วมซ้อมรบ
ขณะที่ไต้หวันตรวจพบเศษซากจากการยิงจรวดตกห่างจากชายฝั่งเพียง 44 กิโลเมตร ขณะที่เครื่องบินรบจีนกว่า 90 ลำ บินข้ามเส้นกึ่งกลางช่องแคบไต้หวัน

การซ้อมรบครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจาก นายกรัฐมนตรีซานาเอะ ทากาอิชิ ของญี่ปุ่น เคยระบุว่าญี่ปุ่นอาจแทรกแซงทางทหารหากเกิดวิกฤตการณ์ในไต้หวัน ซึ่งสร้างความโกรธเคืองให้กับปักกิ่งอย่างมาก
ด้าน ประธานาธิบดีไล่ ชิงเต๋อ ของไต้หวัน ออกมาประณามการซ้อมรบว่าไม่สอดคล้องกับพฤติกรรมของมหาอำนาจที่มีความรับผิดชอบ แต่ยืนยันว่าไต้หวันจะรับมืออย่างอดทนและไม่ยั่วยุ
ฟากของ โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ เผยว่าไม่มีอะไรน่ากังวล และเชื่อมั่นในความสัมพันธ์ที่ดีกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง โดยไม่เชื่อว่าจีนจะบุกไต้หวันจริง พร้อมมองว่าการซ้อมรบทางเรือเป็นเรื่องที่จีนทำมาตลอด 20 ปี
ทั้งนี้ สำนักงานการบินพลเรือนไต้หวันเผยว่า เส้นทางบิน 11 จาก 14 เส้นทางถูกรบกวน ส่งผลกระทบต่อผู้โดยสารกว่า 100,000 คน

นักวิชาการจากมหาวิทยาลัยป้องกันประเทศของจีนระบุว่า ไต้หวันเป็นเกาะที่ขาดแคลนทรัพยากรและต้องพึ่งพาการนำเข้าพลังงานและอาหารเกือบทั้งหมด หากเส้นทางขนส่งเหล่านี้ถูกตัดขาด ศักยภาพในการสู้รบจะลดลงอย่างรวดเร็วและจะเกิดความวุ่นวายขึ้นภายในเกาะทันที
อ้างอิง : www.japantimes.co.jp
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
ติดตาม The Thaiger บน Google News:



