ข่าวภูมิภาค

ชาวเลราไวย์หวั่นโดนคดีด้วย หลังเพื่อนถูกออกหมายจับ 5 ราย ฐานบุกรุกที่ดิน

ชาวเลราไวย์หวั่นโดนคดีด้วย หลังเพื่อนถูกออกหมายจับ 5 ราย ฐานบุกรุกที่ดินพิพาท รวมตัวขอความเป็นธรรม ผู้ว่าฯ เรียกประชุมตัวแทนหาข้อสรุป ตำรวจยืนยันไม่ออกหมายจับเพิ่ม สร้างความพอใจให้กับชาเลพากันแยกย้ายกลับบ้าน

วันนี้(2 เม.ย.) ชาวเลราไวย์ ประมาณ 100 คน ได้มาปักหลักชุมนุมบริเวณศาลากลางจังหวัดภูเก็ตเพื่อขอความเป็นธรรมจากกรณีเมื่อวันที่ 1 เมษายน 2562 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนกองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ตและชุดสืบสวน สภ.ฉลอง ร่วมกับจับกุม 2 ชาวเลราไวย์ ตามหมายจับของศาลจังหวัดภูเก็ต ที่ จ/2558 คดีอาญาที่ 234/2559 และหมายจับที่ จ320/2559 หลังตกเป็นผู้ต้องหาในคดี “ร่วมกันบุกรุกอสังหาริมทรัพย์ของผู้อื่น เพื่อถือการครอบครองอสังหาริมทรัพย์นั้น ทั้งหมดหรือแต่บางส่วนหรือเข้าไปกระทำการใดๆ อันเป็นการรบกวนการครอบครองอสังหาริมทรัพย์เข้าโดยปกติสุข โดยร่วมกันกระทำความผิดตั้งแต่สองคน”

Advertisements

สำหรับคดีดังกล่าวเป็นหนึ่งในคดีพิพาทที่เกิดขึ้นระหว่างชาวเลราไวย์ กับผู้อ้างกรรมสิทธิ์ที่ดินในพื้นที่บริเวณติดกับชายหาดราไวย์และชุมชนชาวเลราไวย์ โดยเหตุเกิดเมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2559 ในที่ดินโฉนดเลขที่ 1259 เล่ม 78 หน้า 13 ม.2 ต.ราไวย์ อ.เมืองภูเก็ต

โดยกลุ่มชาวเลราไวย์ ได้ยื่นหนังสือขอความเป็นธรรม ให้เจ้าหน้าที่ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง โดยเฉพาะ สภ.ฉลอง ออกมาชี้แจงกรณีดังกล่าวในทันทีว่ามีการออกหมายจับชาวเลราไวย์ทั้งหมดกี่ราย และได้มีการดำเนินคดีกับกลุ่มชายฉกรรจ์ที่ทำร้ายร่างกายชาวเลกี่ราย คืบหน้าอย่างไร

ขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต สั่งรื้อเขื่อนกันคลื่นชายหาดหาดราไวย์โดยเร่งด่วนเนื่องจากหน่วยงานเจ้าท่าได้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้วมากว่า 3 ปีว่าก่อสร้างโดยไม่ได้รับอนุญาต หากมีการรื้อถอนเขื่อนดังกล่าวจะสามารถระบุได้ชัดเจนว่า แนวชายหาดสาธารณะถูกเอกชนอ้างสิทธิ์ครอบครองเท่าไหร่และเป็นพื้นที่ที่เกิดข้อพิพาททำให้ชาวเลราไวย์ถูกจับกุม

สุดท้าย ขอให้มีการช่วยเหลือด้านคดีชาวเลราไวย์ที่ถูกจับกุมเนื่องจากเป็นผู้ปกป้องพื้นที่สาธารณะทั้งนี้ที่ผ่านมาชาวเลราไวย์ได้ต่อสู้คดียาวนานมากว่า 10 ปีจนสามารถพิสูจน์ในชั้นศาลว่าที่ดินบริเวณชายหาดราไวย์เป็นที่ดินสาธารณะเป็นชายหาดที่ประชาชนใช้ประโยชน์ร่วมกัน

อย่างไรก็ตามทางจังหวัดภูเก็ต ได้เชิญตัวแทนกลุ่มชาวเลราไวย์ จำนวน 10 คน ประชุมร่วมกับนายภัคพงศ์ ทวิพัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ตำรวจ สภ.ฉลอง และหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง เพื่อรับทราบข้อเท็จจริงของปัญหา เพื่อหาทางออกร่วมกัน

Advertisements

นายสุพจน์ รอดเรือง ณ หนองคาย รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวภายหลังประชุมร่วมกับตัวแทนพี่น้องชาเลราไวย์ ว่า สืบเนื่องจากกรณีมีข้อพิพาทระหว่างเอกชนกับกลุ่มชาวบ้าน ซึ่งทั้งสองฝ่ายก็มีการแจ้งความกัน และล่าสุดก็มีการจับกุมผู้ต้องหาซึ่งเป็นชาวเลที่ถูกออกหมายจับ ได้เข้ามอบตัวแล้ว จำนวน 2 คน ชาวบ้านก็เกรงว่าจะได้รับผลกระทบนี้ด้วยหรือไม่ จึงได้ร้องขอความเป็นธรรม ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ยืนยันแล้วว่า มีผู้ที่เกี่ยวข้องที่ออกหมายจับ จำนวน 5 คน มอบตัวไปแล้ว 2 คน ที่เหลืออยู่ระหว่างเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งจังหวัดก็เตรียมกองทุนยุติธรรมและตั้งอัยการคุ้มครองสิทธิ์เป็นที่ปรึกษาช่วยเหลือด้านคดีให้กับชาวบ้าน

อีกเรื่องเป็นเรื่องที่ดินบางช่วง ซึ่งชาวบ้านสงสัยเรื่องการนำไปออกเอกสารสิทธิ์ ยังไม่สามารถเปิดเผยในรายละเอียดได้ในตอนนี้ เพราะยังอยู่ในขั้นตอนของการพิสูจน์สิทธิ์

ด้านนายนิรันดร์ หยังปาน ชาวเลราไวย์ หมู่ที่ 2 ต.ราไวย์ จ.ภูเก็ต กล่าวว่า “จากกรณีชาวบ้านถูกออกหมายจับ และถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมเมื่อวานนี้(1 เม.ย.) ทำให้ชาวบ้านที่เหลือรู้สึกเป็นกังวลว่า จะถูกออกหมายจับด้วยหรือไม่ ชาวบ้านพูดกันว่าการที่ผู้อ้างกรรมสิทธิ์ในที่ดิน ที่เอาชายฉกรรจ์มาทำร้ายชาวบ้าน จนเกิดการทำร้ายร่างกายกันเกิดขึ้น ชาวบ้านไม่รู้ว่าจะถูกจับกุม เพราะที่ชาวบ้านทำก็เพื่อปกป้องพื้นที่ที่ในหลวง ร.9 เคยเสด็จ และประการที่สองพื้นที่ที่มีข้อพิพาทกันนั้นคือพื้นที่สาธารณะประโยชน์ แต่กลับมองว่าชาวบ้านเป็นผู้บุกรุก และถูกออกหมายจับ ชาวบ้านจึงไม่พอใจ และได้รวมตัวกันเรียกร้องขอความเป็นธรรมดังกล่าว”

อย่างไรก็ตาม หลังจากนายนิรันดร์ หยังปาน ได้นำข้อสรุปในที่ประชุมมาแจ้งให้กับกลุ่มชาวบ้านที่มานั่งรอคำตอบอยู่บริเวณหน้าห้องประชุมได้รับทราบว่า เจ้าหน้าที่จะไม่มีการออกหมายจับเพิ่มเติมและยืนยันว่าคดีจะไม่มาถึงกลุ่มชาวบ้านที่เหลือ สร้างความพึงพอใจให้กับชาวบ้านและได้แยกย้ายกันกลับ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button