การตั้งราคาสินค้าเป็นหัวใจสำคัญของการทำธุรกิจร้านโชห่วย ถ้าตั้งราคาสูงเกินไปลูกค้าจะหนี แต่ถ้าตั้งต่ำเกินไปก็จะขาดทุน การเรียนรู้กลยุทธ์การตั้งราคาที่เหมาะสมจะช่วยให้ร้านมีกำไรที่ดี แข่งขันได้ในตลาด และสร้างความพอใจให้กับลูกค้าไปพร้อม ๆ กัน
เริ่มต้นด้วยการรู้จักต้นทุนสินค้าให้ลึกที่สุด
วิธีคำนวณต้นทุนสินค้าที่แท้จริงไม่ได้มีเพียงราคาซื้อสินค้าเท่านั้น แต่ยังรวมค่าใช้จ่ายแฝงต่าง ๆ เช่น ค่าขนส่ง ค่าเช่าร้าน ค่าไฟฟ้า ค่าน้ำ เงินเดือนพนักงาน ค่าถุงพลาสติก และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่เกิดขึ้นในการดำเนินธุรกิจ
ตัวอย่างการคำนวณต้นทุนสินค้าในร้านโชห่วย สมมติขายน้ำอัดลม ซื้อมาขวดละ 12 บาท ค่าขนส่งเฉลี่ย 0.5 บาทต่อขวด ค่าใช้จ่ายร้าน (ค่าเช่า ค่าไฟ เงินเดือน) เฉลี่ย 1.5 บาทต่อขวด รวมต้นทุนจริง 14 บาทต่อขวด การรู้ต้นทุนที่แท้จริงนี้จะช่วยให้ตั้งราคาขายได้อย่างแม่นยำและไม่ขาดทุน
การจัดทำบัญชีรายรับ-รายจ่ายอย่างละเอียดจะช่วยให้ทราบต้นทุนที่แท้จริง และสามารถนำมาใช้เป็นพื้นฐานในกลยุทธ์การตั้งราคาได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ตั้งราคาให้ได้กำไร แต่ยังอยู่ในตลาด
วิธีการตั้งราคาแบบ Cost-Plus คือการเอาต้นทุนจริงมาบวกกำไรที่ต้องการ เช่น ต้นทุนจริง 14 บาท ต้องการกำไร 30% ราคาขายจึงเป็น 18.20 บาท ส่วนวิธี Market-Based คือการดูราคาตลาดแล้วปรับให้เหมาะกับร้านตัวเอง
วิธีดูราคาคู่แข่งและราคาตลาดให้สำรวจร้านใกล้เคียง ร้านสะดวกซื้อ และตลาดออนไลน์ว่าขายในราคาเท่าไหร่ จากนั้นปรับราคาให้เหมาะสม หากบริการดีกว่าอาจตั้งสูงกว่าเล็กน้อยได้ แต่ถ้าต้องการแข่งด้วยราคาก็ตั้งให้เท่าหรือต่ำกว่าเล็กน้อย สินค้าจำเป็นอาจตั้งราคาแข่งขันได้ เพื่อดึงลูกค้ามาร้าน ส่วนสินค้าเสริมหรือของว่างอาจตั้งกำไรสูงกว่าได้
เทคนิคตั้งราคาแบบจิตวิทยา ทำให้ลูกค้ารู้สึกว่า “คุ้ม”
การตั้งราคาลงท้ายด้วยเลข 9 หรือ 5 เป็นเทคนิคคลาสสิค เช่น แทนที่จะขาย 20 บาท ให้ขาย 19 บาท หรือ 15 บาท ลูกค้าจะรู้สึกว่าถูกกว่า แม้ว่าจริง ๆ แล้วต่างกันไม่มาก
การใช้กลยุทธ์ Decoy Pricing หรือการตั้งราคาหลอกล่อ เช่น มีน้ำอัดลม 3 ขนาด เล็ก 15 บาท กลาง 18 บาท ใหญ่ 19 บาท ลูกค้าจะเลือกซื้อขนาดใหญ่เพราะรู้สึกคุ้มกว่าขนาดกลาง
การตั้งราคาแบบ “ยิ่งซื้อเยอะยิ่งถูก” เช่น ซื้อ 1 ชิ้นราคา 25 บาท ซื้อ 3 ชิ้นราคา 70 บาท จะกระตุ้นให้ลูกค้าซื้อมากขึ้น และเพิ่มยอดขายต่อลูกค้าได้
วิธีใช้ป้ายสีแดงหรือลดขนาดตัวอักษร เช่น เขียนราคาเก่า 30 บาท ขีดฆ่า แล้วเขียนราคาใหม่ 25 บาท ด้วยตัวอักษรใหญ่สีแดง จะทำให้ลูกค้ารู้สึกได้ดีลดี
วิธีทำโปรโมชั่นให้ได้ผล ไม่ทำให้ขาดทุน
ตัวอย่างโปรโมชั่นที่เหมาะกับร้านโชห่วย เช่น “ซื้อ 1 แถม 1” สำหรับสินค้าที่ต้นทุนต่ำ หรือ “ลดราคา 20%” ในช่วงเทศกาลสำหรับสินค้าที่มีกำไรสูง การทำโปรโมชั่นต้องคำนวณให้แน่ใจว่ายังได้กำไร
วิธีวางแผนโปรโมชั่นให้ได้ทั้งยอดขายและกำไร เริ่มจากการเลือกสินค้าที่มีกำไรพอสมควร กำหนดเป้าหมายยอดขาย และคำนวณว่าการลดราคาเท่าไหร่จึงจะคุ้มทุน นอกจากนี้ควรกำหนดระยะเวลาโปรโมชั่นให้ชัดเจน เพื่อสร้างความเร่งด่วนให้ลูกค้า สำหรับโปรโมชั่น รวมถึงการทำ “Flash Sale” สินค้าราคาพิเศษในช่วงเวลาสั้น ๆ หรือการขายสินค้าคู่ที่เสริมกันเป็น Package Deal
ข้อควรระวังในการตั้งราคาสินค้า
อย่าตั้งราคาสูงเกินไปจนลูกค้าหนีไปซื้อที่อื่น หรือต่ำเกินไปจนขาดทุนและทำลายภาพลักษณ์สินค้า การตั้งราคาต้องสมเหตุสมผลและสอดคล้องกับคุณภาพสินค้าและบริการที่ให้
วิธีตรวจสอบว่าราคาที่ตั้งเหมาะสมหรือไม่ ดูจากการตอบสนองของลูกค้า ถ้าสินค้าขายดีมาก อาจตั้งราคาต่ำเกินไป ถ้าไม่มีใครซื้อ อาจสูงเกินไป นอกจากนี้ต้องติดตามยอดขายและกำไรอย่างสม่ำเสมอ
การปรับราคาควรทำอย่างค่อยเป็นค่อยไป และแจ้งให้ลูกค้าทราบล่วงหน้า เพื่อรักษาความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้า
ตัวอย่างการตั้งราคาสินค้าจริงในร้านโชห่วย
ตัวอย่างการตั้งราคาน้ำอัดลม ต้นทุน 14 บาท ราคาตลาด 18-20 บาท เลือกตั้งราคา 19 บาท เพื่อแข่งขันได้และมีกำไร 35% สำหรับขนมขบเคี่ยว ต้นทุน 8 บาท ตั้งราคา 15 บาท เพราะเป็นสินค้าของว่างที่ลูกค้ายอมจ่ายในราคาสูงกว่า
วิธีปรับราคาตามฤดูกาลหรือความต้องการของลูกค้า เช่น เครื่องดื่มเย็นในฤดูร้อนอาจขึ้นราคาเล็กน้อย ขณะที่สินค้าใกล้หมดอายุควรลดราคาเพื่อขายให้หมด
กลยุทธ์การตั้งราคาตามโอกาส เช่น ช่วงเทศกาลสำคัญอาจขึ้นราคาสินค้าที่เกี่ยวข้องเล็กน้อย แต่ต้องระวังไม่ให้สูงเกินไปจนลูกค้าไม่พอใจ
เคล็ดลับเพิ่มเติมจากมิตรแท้โชห่วย
วิธีใช้เครื่องมือช่วยคำนวณราคา เช่น โปรแกรมบัญชีง่าย ๆ หรือตารางคำนวณใน Excel ที่ช่วยคำนวณต้นทุนจริง กำไรที่ต้องการ และราคาขายที่เหมาะสม การมีเครื่องมือเหล่านี้จะช่วยให้การตั้งราคาแม่นยำและประหยัดเวลา
วิธีติดป้ายราคาให้ชัดเจนและสร้างความมั่นใจให้ลูกค้า ใช้ป้ายราคาที่อ่านง่าย เขียนตัวเลขชัดเจน และระบุหน่วยที่ถูกต้อง การติดป้ายราคาแบบมืออาชีพจะทำให้ลูกค้าเกิดความไว้วางใจและตัดสินใจซื้อง่ายขึ้น
กลยุทธ์การตั้งราคามีอะไรบ้าง ยังรวมถึงการทบทวนราคาสินค้าเป็นประจำ อย่างน้อยเดือนละครั้ง เพื่อปรับให้เข้ากับต้นทุนที่เปลี่ยนแปลงและสภาวะตลาดที่เปลี่ยนไป
การติดตามและปรับปรุงราคาอย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้ร้านมีกำไรที่เหมาะสมและแข่งขันได้ในระยะยาว การเรียนรู้และใช้กลยุทธ์การตั้งราคาอย่างถูกต้องจะเป็นรากฐานสำคัญของความสำเร็จในการทำธุรกิจร้านโชห่วย
ติดตาม The Thaiger บน Google News:
ข่าวล่าสุด
