การเงินเศรษฐกิจ

สัญญาณวิกฤติ! บิตคอยน์ ร่วงต่ำกว่า 3 ล้าน สะเทือนตลาดคริปโตทั้งกระดาน

สำรวจกราฟ บิตคอยน์ วันที่ 18 พ.ย. 68 ราคาเหรียญละราว 2.96 ล้านบาท ขณะที่ตลาดโลกดิ่งหลุด 90,000 ดอลลาร์ครั้งแรกในรอบ 7 เดือน ท่ามกลางกังวลดอกเบี้ยสหรัฐ–แรงเทขายสถาบัน

ตลาดคริปโตเคอร์เรนซีเผชิญแรงเทขายอย่างหนักเช้าวันอังคารนี้ (18 พ.ย. 68) ล่าสุด บิตคอยน์ (BTC) สกุลเงินดิจิทัลหลัก ดิ่งลงอย่างรุนแรง ราคาในตลาดโลกทรุดตัวต่ำกว่า 90,000 ดอลลาร์สหรัฐเป็นครั้งแรกในรอบ 7 เดือน ขณะที่ราคาในประเทศไทยก็ร่วงหลุดจากระดับ 3 ล้านบาท สร้างความสั่นสะเทือนไปทั่วทั้งกระดาน

เมื่อตรวจสอบกราฟราคา BTC เทียบเงินบาทในช่วงเช้าวันนี้ ราคาเคลื่อนไหวอยู่บริเวณ 2,960,262.61 บาทต่อเหรียญ (ลดลงประมาณ 1.04% จากช่วงเปิดวัน) ตลอดคืนที่ผ่านมา ราคาแกว่งตัวรุนแรงจากโซนใกล้ 3 ล้านบาท ลงไปทำจุดต่ำสุดแถว 2.92 ล้านบาท ก่อนจะดีดกลับขึ้นมาเล็กน้อย ภาพรวมสำหรับนักลงทุนไทยจึงชัดเจนว่า ราคา BTC ได้หลุดโซน 3 ล้านบาท ลงมาแล้ว

ในตลาดโลก สถานการณ์ยิ่งทวีความกดดัน สำนักข่าว Reuters รายงานว่า บิตคอยน์ไถลลงต่ำกว่า 90,000 ดอลลาร์ เป็นครั้งแรกในรอบ 7 เดือน โดยร่วงลงเกือบ 30% จากจุดสูงสุดเหนือ 126,000 ดอลลาร์ในเดือนตุลาคม ข้อมูลจาก Binance และ Investing.com ยืนยันว่าราคาเคยลงไปทำจุดต่ำสุดแถว 89,471 ดอลลาร์ ส่งผลให้เหรียญหลักอื่น ๆ เช่น Ethereum, Solana และ Cardano ปรับตัวลงพร้อมกัน ท่ามกลางบรรยากาศ “หนีความเสี่ยง” ทั่วโลก

ราคา บิตคอยน์ (BTC) ลดลงอย่างรุนแรงในตลาดโลก ต่ำกว่า 90,000 ดอลลาร์

วิเคราะห์สาเหตุ บิตคอยน์ ร่วงหนัก พิษดอกเบี้ยสหรัฐฯ นักลงทุนเตรียมรับแรงกระแทก

ตลาดกลัว “ดอกเบี้ยสหรัฐฯ” ไม่ลด ปัจจัยใหญ่ที่สุดมาจากความกังวลว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) อาจยังไม่ลดดอกเบี้ยในเร็ว ๆ นี้ เมื่อดอกเบี้ยยังอยู่ในระดับสูง นักลงทุนจึงมีแนวโน้มที่จะย้ายเงินออกจากสินทรัพย์เสี่ยง (เช่น บิตคอยน์ หรือ หุ้นเทคโนโลยี) เพื่อนำเงินไปพักในที่ปลอดภัยกว่า (เช่น พันธบัตรรัฐบาล) ทำให้เกิดแรงเทขายในสินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลก ไม่ใช่แค่บิตคอยน์เท่านั้น

สัญญาณ “รายใหญ่” เตรียมเทขาย มีข้อมูลพบว่า ในช่วงที่ผ่านมีการเคลื่อนย้ายเหรียญบิตคอยน์จำนวนมากเข้าสู่กระดานเทรด (Exchanges) ซึ่งในเชิงเทคนิค นี่เป็นสัญญาณว่าเจ้าของเหรียญ หรือ “วาฬ” (รายใหญ่) กำลังเตรียมที่จะขาย หรือกำลังเทขายเหรียญที่ถืออยู่ออกมาจริง ๆ เมื่อนักลงทุนรายย่อยเห็นสัญญาณนี้ ก็มักจะเกิดความกลัวและแห่ขายตาม

การบังคับขาย (ล้างพอร์ต) เป็นลูกโซ่ ในตลาดคริปโต มีนักลงทุนจำนวนมากที่ใช้เงินกู้ หรือ เลเวอเรจ (Leverage) เพื่อเก็งกำไรในทิศทางขาขึ้น เมื่อราคาบิตคอยน์ร่วงลงแรงถึงจุดหนึ่ง ระบบจะทำการบังคับขาย หรือล้างพอร์ต นักลงทุนกลุ่มนี้ทันที การบังคับขายที่เกิดขึ้นพร้อมกันนี้เอง ที่กลายเป็นแรงขายมหาศาลซ้ำเติมตลาด ทำให้ราคายิ่งดิ่งลงแรงเป็นทอด ๆ เหมือนโดมิโน่

ความกลัวเข้าครอบงำตลาด เมื่อทั้ง 3 ปัจจัยข้างต้นเกิดขึ้นพร้อมกัน คือ คนกลัวเศรษฐกิจ, รายใหญ่เริ่มเทขาย และคนกู้เงินมาเล่นโดนบังคับขาย จึงส่งผลให้เกิดการ “เทขายชุดใหญ่” (Panic Sell) ทั่วทั้งตลาด

เหตุการณ์นี้จึงเป็นข้อเตือนใจสำหรับนักลงทุนทั่วไปว่า บิตคอยน์ยังคงเป็นสินทรัพย์ที่มีความผันผวนสูงมาก ราคาไม่ได้ขึ้นอยู่กับปัจจัยพื้นฐานเพียงอย่างเดียว แต่ขึ้นอยู่กับอารมณ์ของตลาดโลกด้วย จึงไม่ควรนำเงินที่จำเป็นต่อการใช้ชีวิต เช่น ค่าเทอม ค่าเช่าบ้าน หรือเงินสำรองฉุกเฉิน มาเสี่ยงกับการลงทุนประเภทนี้โดยเด็ดขาด

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

ติดตาม The Thaiger บน Google News:

Thosapol

นักเขียนบทความที่ Thaiger จบการศึกษาจากคณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ เชี่ยวชาญเรื่องบทความท่องเที่ยว บันเทิง ไลฟ์สไตล์ ผ่านการค้นหาข้อมูลโดยละเอียดพร้อมด้วยประสบการณ์ตรงของตัวเอง งานอดิเรกมีความสนใจในกระแสข่าวรอบตัวต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นด้านสุขภาพ สังคม การเมือง และที่สำคัญคือเป็นทาสแมวร้อยเปอร์เซ็นต์ครับ ช่องทางติดต่อ thospol@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to top button