สปอนเซอร์สุขภาพและการแพทย์

ร้อยไหม ยกกระชับหน้าเรียวสวย เหมาะกับใคร ราคาเท่าไร เห็นผลภายในกี่วัน ?

ร้อยไหมยกกระชับผิว

การร้อยไหมเป็นตัวเลือกที่หลายคนให้ความสนใจ เพราะนอกจากจะช่วยยกกระชับหน้าแล้ว ยังช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ผิว เห็นผลทันทีหลังทำ ไม่ต้องพักฟื้นนาน และสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ ทำให้ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

บทความนี้จะพาไปรู้จักกับการร้อยไหมให้มากขึ้นว่า เหมาะกับใคร ? มีข้อดีอย่างไร ? ทำตำแหน่งไหนได้บ้าง ? กี่วันเห็นผล ? รวมไปถึงวิธีดูแลตัวเองหลังทำ เพื่อให้ผลลัพธ์อยู่ได้นาน

การร้อยไหม คืออะไร ?

การร้อยไหม (Thread Lifting) คือ เทคนิคยกกระชับใบหน้าโดยใช้เส้นไหมละลาย ร้อยเข้าไปในชั้นผิวหนังในตำแหน่งที่มีปัญหาหย่อนคล้อย จากนั้นเส้นไหมจะทำหน้าที่พยุงผิวให้ยกกระชับขึ้นทันที ปรับหน้าเรียว อีกทั้งยังช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ ทำให้ผิวแน่นกระชับ เต่งตึง และมีความยืดหยุ่น

เมื่อเวลาผ่านไปเส้นไหม จะค่อย ๆ สลายไปเองตามธรรมชาติ แต่ผลลัพธ์การยกกระชับจะยังคงอยู่ต่อเนื่อง โดยทั่วไปจะอยู่ได้นานหลายเดือนจนเกือบปี ขึ้นอยู่กับชนิดไหมและสภาพผิวของแต่ละบุคคล ถือเป็นหัตถการที่ได้ผลลัพธ์รวดเร็ว ไม่ต้องผ่าตัด และมีความปลอดภัยสูงเมื่อทำกับแพทย์มากประสบการณ์

ร้อยไหมเหมาะกับใครบ้าง ?

การร้อยไหม เป็นหัตถการที่สามารถตอบโจทย์ได้หลายปัญหา เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการยกกระชับผิวหรือปรับรูปหน้าให้สวยได้สัดส่วน โดยกลุ่มคนที่มักนิยมทำร้อยไหม ได้แก่

  • ผู้ที่ใบหน้าไม่ได้สัดส่วน : คนที่รู้สึกว่าใบหน้าไม่มีมิติ กรอบหน้าไม่ชัด หรือรูปหน้าไม่ได้รูป การร้อยไหม จะช่วยปรับหน้าให้เรียวขึ้น และทำให้ใบหน้าดูมีความสมดุลมากขึ้นค่ะ 
  • ผู้ที่มีแก้มหย่อนคล้อย : มักพบได้บ่อยในคนอายุ 35 ปีขึ้นไป เนื่องจากคอลลาเจน และอีลาสตินในชั้นผิวลดลง ทำให้แก้มตกหรือห้อย การร้อยไหม จะช่วยยกแก้มที่หย่อนให้กลับมาตึงกระชับ ดูอ่อนเยาว์กว่าเดิม 
  • ผู้ที่อายุยังไม่มาก แต่ผิวเริ่มหย่อนคล้อย : บางคนอาจมีผิวไม่กระชับ กรอบหน้าไม่คมชัด ก็สามารถทำร้อยไหม ได้เช่นกัน เพื่อให้รูปหน้ากลับมาตึงขึ้นโดยไม่ต้องผ่าตัดค่ะ 
  • ผู้ที่ต้องการแก้ปัญหาเฉพาะจุด : การร้อยไหมสามารถทำได้ตรงจุดและเห็นผลทันทีบางส่วนเช่น การยกมุมปากที่ตก แก้ไขริ้วรอยรอบปาก หรือแม้แต่การปรับทรงจมูกบางส่วน

อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ที่มีผิวหย่อนคล้อยมาก ๆ และมีการยุบตัวของเนื้อผิวตามวัย การร้อยไหมเพียงอย่างเดียวอาจยังไม่เพียงพอ แพทย์มักจะแนะนำให้ทำร่วมกับหัตถการอื่น ๆ เช่น โบท็อก ฟิลเลอร์ หรือ Hifu เพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาชัดเจนและอยู่ได้นานยิ่งขึ้นค่ะ

รู้จักชนิดของไหม และเส้นไหมที่ใช้ร้อยไหม

ไหมที่ใช้ในการร้อยไหม สามารถแบ่งตามวัสดุที่ใช้ผลิตออกเป็น 3 ประเภทหลัก ได้แก่ PDO, PLLA และ PCL ซึ่งแต่ละชนิดมีคุณสมบัติและจุดเด่นที่แตกต่างกัน การเลือกใช้งานจะขึ้นอยู่กับปัญหาผิวและเป้าหมายของคนไข้ โดยแพทย์จะเป็นผู้ประเมินให้เหมาะสมค่ะ

ไหมที่ใช้ร้อยไหม มีกี่ชนิด

ไหม PDO

ไหม PDO (Polydioxanone) เป็นไหมสีน้ำเงินที่มีลักษณะนิ่มและยืดหยุ่นปานกลาง ไม่เปราะง่าย ทำให้ไม่รู้สึกระคายเคืองมากขณะร้อยไหมเข้าไปใต้ผิว จุดเด่นคือช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนได้ดี และเป็นไหมชนิดแรกที่ถูกนำมาใช้ในวงการเสริมความงาม ข้อจำกัดคือผลลัพธ์อยู่ได้ไม่นาน โดยเฉลี่ยประมาณ 6 เดือน เหมาะกับผู้ที่อยากลองทำร้อยไหม ครั้งแรกหรือผู้ที่ต้องการยกกระชับแบบชั่วคราวค่ะ

ไหม PLLA

ไหม PLLA (Polylactic Acid) มีสีขาวใส พัฒนามาจากไหม PDO เพิ่มความแข็งแรง และทนต่อแรงดึงได้ดี แต่ข้อเสียคือมีความยืดหยุ่นน้อย และเปราะขาดง่าย จึงทำให้ไม่ค่อยได้รับความนิยมเท่าไหมชนิดอื่น

ไหม PCL

ไหม PCL (Polycaprolactone) เป็นไหมรุ่นใหม่ที่มีสีขาวขุ่น และมีความยืดหยุ่นสูง ไม่เปราะง่าย อีกทั้งยังผสมคุณสมบัติเด่นของไหม PLLA เข้าไป ทำให้ทั้งแข็งแรงและกระตุ้นคอลลาเจนได้ดี จุดเด่นสำคัญคือผลลัพธ์อยู่ได้นานกว่าชนิดอื่น ไหม PCL ได้รับความนิยมมากเพราะถือเป็นไหมที่ดีที่สุดในปัจจุบัน

ลักษณะเส้นไหมที่ใช้ในการร้อยไหม

นอกจากชนิดของวัสดุที่ใช้ทำเส้นไหมแล้ว การร้อยไหมยังมีการเลือกเส้นไหมที่มีลักษณะต่างกัน เพื่อให้เหมาะกับการแก้ไขปัญหาเฉพาะจุด โดยทั่วไปแบ่งได้ดังนี้ค่ะ

ลักษณะเส้นไหม

  • ไหมเรียบ : เป็นไหมพื้นฐานที่ไม่มีเงี่ยงหรือโครงสร้างเสริม เหมาะสำหรับกระตุ้นคอลลาเจน ลดริ้วรอยเล็ก ๆ ไม่เหมาะกับการยกกระชับที่ต้องการแรงดึงสูง ทำให้ปัจจุบันไม่นิยมใช้เพียงอย่างเดียวในการร้อยไหม
  • ไหมเงี่ยง (ไหมก้างปลา) : มีเงี่ยงเล็ก ๆ ยื่นออกจากเส้นไหม เพื่อเกี่ยวผิวและยกกระชับได้อย่างมีประสิทธิภาพ ถือเป็นไหมที่นิยมมากที่สุด ซึ่งมีชื่อการค้าแตกต่างกันไป เช่น ไหมกุหลาบ ไหมปากฉลาม หรือไหมเขี้ยวงู โดยมีทั้งเงี่ยงเล็กและเงี่ยงใหญ่ เพื่อปรับรูปหน้าและยกผิวกระชับผิวให้ชัดเจนค่ะ
  • ไหมเกลียว : ทำจากไหม 2 เส้นพันกัน หรือมีซิลิโคนพันรอบเส้นไหม เพิ่มแรงดึงและช่วยให้ผิวกระชับมากขึ้น เหมาะกับผู้ที่มีผิวหย่อนคล้อยเล็กน้อย มักใช้ร่วมกับไหมเงี่ยง เพื่อเสริมผลลัพธ์ของการร้อยไหม ให้ดียิ่งขึ้น
  • ไหมกรวย (Silhouette Soft) : เส้นไหมชนิดนี้มีกรวยพลาสติกเล็ก ๆ อยู่ระหว่างปมของเส้นไหม ช่วยให้แรงยกสูงขึ้น แต่ข้อจำกัดคือขั้นตอนซับซ้อน ใช้เวลานาน ราคาสูง และอาจมีอาการบวมหลังทำ ทำให้ไม่ได้รับความนิยมมากนักในการร้อยไหมปัจจุบันค่ะ
  • ไหมมิ้นท์ (Mint Lift) : เป็นไหมที่มีเงี่ยงรอบเส้นไหม 360 องศาแบบ 3 มิติ สามารถดึงได้หลายทิศทาง เส้นไหมมีความแข็งแรงและยึดเกาะผิวได้ดี เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการปรับรูปหน้าให้เรียว V-Shape อย่างชัดเจน จึงถือเป็นอีกหนึ่งไหมที่ได้รับความนิยมสูงในการทำร้อยไหม
  • ไหมตาข่าย (Tesslift Soft) : เส้นไหมชนิดนี้ถูกหุ้มด้วยโครงตาข่ายพิเศษ ทำให้ยึดเกาะผิวได้ดีกว่าไหมทั่วไปถึง 80 เท่า การใช้ไหมตาข่ายเพียงเส้นเดียวให้ผลลัพธ์เทียบเท่ากับการใช้ไหม 2 เส้น เหมาะสำหรับคนที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยมาก ๆ และต้องการแรงยกกระชับที่ชัดเจน

ในการเลือกชนิดไหมและลักษณะของเส้นไหมที่เหมาะสม ไม่ควรเลือกเองตามกระแสนิยมหรือจากการโฆษณา แต่ควรให้แพทย์ผู้มีประสบการณ์ด้านการร้อยไหม ประเมินสภาพผิวและปัญหาของแต่ละบุคคล เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ปลอดภัยและตรงตามความต้องการค่ะ

ข้อดีของการร้อยไหม

ประโยชน์ของการร้อยไหม

การร้อยไหม เป็นหนึ่งในหัตถการที่ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง เพราะสามารถช่วยยกกระชับผิวหน้าและแก้ปัญหาความหย่อนคล้อยได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยข้อดีดังนี้ค่ะ

  • ลดความหย่อนคล้อยของผิว : การร้อยไหมช่วยยกกระชับผิวที่หย่อนยาน เช่น บริเวณแก้ม มุมปาก หรือแนวกรอบหน้า ทำให้ผิวกลับมาตึงและดูอ่อนเยาว์ขึ้น
  • ปรับรูปหน้าให้เรียว V-Shape : เส้นไหมจะช่วยดึงผิวและจัดกรอบหน้าใหม่ ทำให้ใบหน้าดูเรียวเล็ก เป็นธรรมชาติ เหมาะกับคนที่อยากได้รูปหน้า V-Shape โดยไม่ต้องผ่าตัดค่ะ
  • ช่วยพยุงผิวและโครงสร้างใบหน้า : เส้นไหมที่สอดเข้าไปใต้ผิวจะทำหน้าที่คล้ายเส้นเอ็น ช่วยพยุงผิวและปรับสมดุลโครงหน้า ทำให้รูปหน้าชัดเจนขึ้นทันทีหลังทำบางส่วน
  • กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน : นอกจากการยกผิวแล้ว การร้อยไหมยังช่วยกระตุ้นสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินใหม่ใต้ผิว ส่งผลให้ผิวค่อย ๆ เต่งตึง แน่นกระชับ
  • ปลอดภัยและสลายได้เอง : เส้นไหมที่ใช้ในการร้อยไหม ผลิตจากวัสดุที่สามารถละลายได้ 100% โดยไม่มีสารตกค้างในร่างกาย

ร้อยไหม ตำแหน่งไหนได้บ้าง ?

ตำแหน่งร้อยไหม

การร้อยไหมสามารถทำได้หลายตำแหน่งบนใบหน้า ขึ้นอยู่กับปัญหาผิวและความต้องการของแต่ละคน โดยแพทย์จะเป็นผู้ประเมินและเลือกเทคนิคที่เหมาะสมให้ ซึ่งตำแหน่งยอดนิยมในการร้อยไหม ได้แก่

  • ร้อยไหมหน้าเรียว : เป็นตำแหน่งที่ได้รับความนิยมมาก ช่วยยกกระชับแก้ม ลดความหย่อนคล้อย และปรับกรอบหน้าให้ชัดเจนขึ้น
  • ร้อยไหมยกมุมปาก : ใช้แก้ปัญหามุมปากตกหรือมีริ้วรอยเล็ก ๆ รอบปาก ทำให้รอยยิ้มดูสดใส
  • ร้อยไหมหน้าผาก : ช่วยยกกระชับผิวบริเวณหน้าผาก ในเคสที่ดื้อโบท็อก ลดริ้วรอย และทำให้หน้าผากดูเรียบเนียนขึ้น
  • ร้อยไหมหางตา : ร้อยไหม (Foxy Eyes) เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาหางตาตก คิ้วตก หรือมีริ้วรอยรอบดวงตา การร้อยไหมจะช่วยยกหางตาให้ดูเฉี่ยว ดวงตาดูคมขึ้น
  • ร้อยไหมจมูก : เป็นเทคนิคที่ช่วยปรับทรงจมูกให้โด่งและคมชัดมากขึ้น โดยไม่ต้องผ่าตัดศัลยกรรม
  • ร้อยไหมคอลลาเจน : เน้นกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนทั่วใบหน้า เหมาะกับผู้ที่ต้องการฟื้นฟูผิวให้ดูอิ่มฟู เต่งตึงขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ

ในบางกรณี แพทย์อาจแนะนำให้ร้อยไหมหลายตำแหน่งร่วมกัน เพื่อแก้ปัญหาอย่างครอบคลุมและให้ผลลัพธ์ที่สวยงามเป็นธรรมชาติยิ่งขึ้นค่ะ

ร้อยไหมราคาเท่าไหร่ ?

ราคาของการร้อยไหมโดยทั่วไปจะอยู่ในช่วงประมาณ 8,000 – 40,000 บาท ขึ้นอยู่กับชนิดไหมที่เลือกใช้ จำนวนเส้นไหม เทคนิคเฉพาะของแพทย์ รวมถึงมาตรฐานของคลินิก

สำหรับที่ V Square Clinic ราคาร้อยไหมเริ่มต้นที่ 8,900 บาท ก่อนทำแพทย์จะประเมินสภาพผิวและปัญหาของแต่ละบุคคล เพื่อเลือกชนิดไหมและจำนวนเส้นที่เหมาะสมที่สุด ผลลัพธ์ที่ได้จึงดูเป็นธรรมชาติ คุ้มค่า และปลอดภัยค่ะ

ร้อยไหม กี่วันเห็นผล ?

หลังทำร้อยไหมสามารถเห็นความเปลี่ยนแปลงได้ทันที ใบหน้าจะดูตึง ยกกระชับขึ้น กรอบหน้าชัดเจน และผิวโดยรวมดูกระชับกว่าเดิม อาการบวมที่มักเกิดขึ้นในช่วงแรกจะค่อย ๆ ดีขึ้นภายในประมาณ 1–2 สัปดาห์ โดยผลลัพธ์จะเริ่มเข้าที่ และเห็นความชัดเจนที่สุดในช่วงประมาณ 1 เดือนหลังทำค่ะ

หลังร้อยไหม อยู่ได้นานไหม ?

ผลลัพธ์หลังการร้อยไหมจะอยู่ได้นานประมาณ 4 เดือนถึง 2 ปี ขึ้นอยู่กับชนิดไหมที่ใช้ และสภาพผิวของแต่ละคนค่ะ โดยผลลัพธ์มีดังนี้

  • ร้อยไหม PDO : อยู่ได้ประมาณ 4–6 เดือน 
  • ร้อยไหม PLLA : อยู่ได้ประมาณ 12-18 เดือน 
  • ร้อยไหม PCL : อยู่ได้ 18-24 เดือน หรืออาจนานกว่านั้น

หากต้องการให้ผลลัพธ์อยู่ได้นานขึ้น สามารถร้อยไหมซ้ำตามแนวเดิมได้ ผิวจะยึดเกาะเส้นไหนได้ดีขึ้น ทำให้ผิวแข็งแรงและคงความกระชับได้นานขึ้นค่ะ

หลังร้อยไหม ควรดูแลตัวเองอย่างไร ?

หลังร้อยไหมดูแลตัวเองอย่างไร

หลังร้อยไหมควรหลีกเลี่ยงการนวดหน้าหรือขัดผิวแรง ๆ

ดูแลตัวเองหลังร้อยไหมมีความสำคัญมาก เพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาสวยและลดความเสี่ยงของภาวะแทรกซ้อน ควรปฏิบัติดังนี้ค่ะ

  • หลีกเลี่ยงการแตะ เกา กดนวด หรือถูหน้าแรง ๆ ในบริเวณที่ทำ 
  • รับประทานยาตามที่แพทย์สั่ง เช่น ยาฆ่าเชื้อ ยาแก้อักเสบ หรือยาแก้ปวด 
  • งดทำหัตถการอื่น เช่น เลเซอร์ ทรีทเมนต์ นวดหน้า หรือขัดผิว อย่างน้อย 2 สัปดาห์ และควรงดเลเซอร์พลังงานความร้อนลึกเป็นเวลา 1 เดือน 
  • หลีกเลี่ยงการนวดหน้าหรือขัดผิวแรง ๆ ในช่วง 2 เดือนแรก เพื่อให้เส้นไหมยึดเกาะกับผิวได้ดี 
  • ระวังการขยับใบหน้ามากเกินไป เช่น ยิ้มกว้าง อ้าปากกว้าง โดยเฉพาะในช่วงสัปดาห์แรก 
  • ควรนอนหงาย งดนอนตะแคงหรือนอนคว่ำ เพื่อป้องกันการกดทับใบหน้า 
  • งดดื่มแอลกอฮอล์และงดสูบบุหรี่ อย่างน้อย 48 ชั่วโมงหลังทำ เพื่อลดอาการบวมและช่วยให้แผลฟื้นตัวเร็ว 
  • หากมีอาการผิดปกติ เช่น บวมมาก เจ็บมาก หรือรอยช้ำไม่ยุบภายในเวลาเหมาะสม ควรรีบพบแพทย์ทันที

ร้อยไหมที่ V Square Clinic ดีอย่างไร ?

ที่ V Square Clinic การร้อยไหมถูกออกแบบให้เน้นทั้งความปลอดภัยและผลลัพธ์ด้านความงามอย่างลงตัว ทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะประเมินรูปหน้าและสภาพผิวของแต่ละบุคคลอย่างละเอียด เพื่อเลือกชนิดและจำนวนเส้นไหมที่เหมาะสมที่สุด พร้อมใช้วัสดุที่ได้มาตรฐาน และมีการติดตามผลหลังทำอย่างใกล้ชิด เพื่อให้ทุกเคสได้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติและมั่นใจได้ในความปลอดภัย

เหตุผลที่การร้อยไหมที่ V Square Clinic มั่นใจได้ทั้งความปลอดภัยและผลลัพธ์สวยงาม

  • ทีมแพทย์มากประสบการณ์ : แพทย์ของ V Square Clinic มีประสบการณ์ด้านการปรับรูปหน้าและร้อยไหมมากกว่า 15 ปี พร้อมพัฒนาทักษะอย่างต่อเนื่อง ผ่านการอบรมเทคนิคใหม่ ๆ อยู่เสมอ ทำให้การวางแผนการรักษาแม่นยำและตอบโจทย์ปัญหาของคนไข้แต่ละราย
  • การประเมินและวางแผนเฉพาะบุคคล : ก่อนทำหัตถการ แพทย์จะตรวจประเมินปัญหาและสภาพผิวอย่างละเอียด เพื่อเลือกชนิดเส้นไหมและจำนวนเส้นที่เหมาะสมที่สุด ส่งผลให้ได้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติและแก้ไขปัญหาได้ตรงจุด
  • ไหมคุณภาพสูง ได้มาตรฐานสากล : ใช้เส้นไหมละลายที่ผ่านการรับรองด้านความปลอดภัย ช่วยยกกระชับผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสามารถสลายตัวได้เองตามธรรมชาติ โดยไม่ทิ้งสารตกค้างในร่างกาย
  • ติดตามผลหลังทำอย่างใกล้ชิด : หลังร้อยไหม คนไข้จะได้รับการดูแลต่อเนื่อง หากมีข้อสงสัยหรืออาการผิดปกติสามารถปรึกษาแพทย์ได้ทันที เพื่อให้มั่นใจว่าผลลัพธ์ที่ได้สวยงามและปลอดภัย
  • คลินิกได้มาตรฐาน ปลอดภัยทุกขั้นตอน : การรักษาทำในสถานที่ที่สะอาด ได้มาตรฐาน พร้อมเครื่องมือและอุปกรณ์ที่ปลอดภัย เพื่อให้ทุกเคสได้รับประสบการณ์การรักษาที่ดีที่สุด

รีวิวความประทับใจจากผู้ใช้บริการร้อยไหม

รีวิวร้อยไหม ร้อยไหมรีวิว

สรุปการร้อยไหม ตัวช่วยปรับหน้าเรียวสวย ดีไหม ?

ร้อยไหมเป็นหัตถการที่ช่วยยกกระชับผิวหน้าโดยไม่ต้องผ่าตัด เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวหย่อนคล้อย ร่องแก้มลึก หรือกรอบหน้าไม่ชัด และอยากปรับรูปหน้าให้เรียวขึ้น ผลลัพธ์หลังทำดูเป็นธรรมชาติ พร้อมกระตุ้นคอลลาเจนให้ผิวอิ่มฟู และอ่อนเยาว์ อีกทั้งยังไม่ต้องพักฟื้นนาน อย่างไรก็ตามควรเลือกทำกับแพทย์ที่มีประสบการณ์และคลินิกที่ได้มาตรฐาน เพื่อความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่สวยงามค่ะ



ติดตาม The Thaiger บน Google News:

Thaiger

The Thaiger นำเสนอข่าวสารล่าสุดและอัปเดตจากทั่วประเทศไทย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to top button