ก.ต.ลงดาบ! อธิบดีศาลฯ คุกคามหญิงบนรถไฟ อีกรายฟันผู้พิพากษา เรียกรับเงิน 175 ล้าน

คณะกรรมการตุลาการศาลยุติธรรม (ก.ต.) มีมติไล่ออกอดีตอธิบดีผู้พิพากษาฯ ปมคุกคามทางเพศบนรถไฟ และไล่ออกผู้พิพากษาอีกรายที่เรียกรับเงิน 175 ล้านบาทจากแกนนำ กปปส.
เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 2568 ที่อาคารศาลยุติธรรม สนามหลวง นางชนากานต์ ธีรเวชพลกุล ประธานศาลฎีกา ได้เป็นประธานในการประชุมคณะกรรมการตุลาการศาลยุติธรรม (ก.ต.) ครั้งที่ 20/2568 ซึ่งที่ประชุมได้พิจารณาวาระสำคัญเกี่ยวกับผลการสอบสวนวินัยข้าราชการตุลาการหลายราย และได้มีมติในคดีที่น่าสนใจดังนี้
ไล่ออก อดีตอธิบดีฯ คดีฉาวบนรถไฟ
ที่ประชุม ก.ต. ได้พิจารณารายงานผลการสอบสวนข้าราชการตุลาการระดับ อธิบดีผู้พิพากษาศาลชั้นต้น ท่านหนึ่ง กรณีมีพฤติการณ์คุกคามทางเพศ ทำร้ายร่างกาย และสร้างความเสียหายต่อทรัพย์สินของผู้ใต้บังคับบัญชาหญิง เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นบนขบวนรถไฟตู้นอนสายกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ ซึ่งเป็นตู้โดยสารที่ถูกเหมาเพื่อเดินทางไปสัมมนา
ก.ต. มีมติเห็นว่าพฤติการณ์ดังกล่าวเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสม ทำให้เสียเกียรติศักดิ์แห่งตำแหน่งหน้าที่ราชการ และถือเป็นการ กระทำความผิดวินัยอย่างร้ายแรง จึงมีมติให้ลงโทษไล่ออกจากราชการ
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้พิจารณาอีกกรณีหนึ่งของผู้พิพากษารายเดียวกันนี้ เกี่ยวกับการมีคำสั่งอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวผู้ต้องหาในชั้นอุทธรณ์ ทั้งที่ศาลอุทธรณ์เคยมีคำสั่งไม่อนุญาตไปแล้ว ซึ่ง ก.ต. เห็นควรให้มีการ สอบสวนเส้นทางการเงินของผู้ถูกกล่าวหาและบุคคลใกล้ชิดเพิ่มเติม เพื่อตรวจสอบว่าการกระทำดังกล่าวเกี่ยวข้องกับการรับผลประโยชน์ใด ๆ หรือไม่

ฟันไม่เลี้ยง ผู้พิพากษาเรียกรับเงิน 175 ล้านบาท
อีกกรณีหนึ่งที่น่าสนใจคือผลการสอบสวนวินัยผู้พิพากษาอีก 1 ราย ที่ถูกกล่าวหาว่ามีพฤติการณ์เรียกรับเงินจากคู่ความ สืบเนื่องจากแกนนำ กปปส. ซึ่งเป็นอดีตรัฐมนตรีรายหนึ่งได้ร้องเรียนว่า ถูกผู้พิพากษารายดังกล่าว เรียกรับเงินจำนวน 175 ล้านบาท ซึ่งต่อมาได้ลดจำนวนลงเหลือหลักสิบล้านบาท เพื่อช่วยเหลือทางคดีในชั้นอุทธรณ์ หลังจากที่ศาลอาญาได้มีคำพิพากษาลงโทษจำคุกโดยไม่รอลงอาญา
ก.ต. พิจารณาแล้วเห็นว่า การกระทำดังกล่าวเป็นการไม่ปฏิบัติหน้าที่ราชการด้วยความซื่อสัตย์สุจริต และทำให้เสียเกียรติศักดิ์แห่งตำแหน่งหน้าที่อย่างร้ายแรง จึงมี มติให้ลงโทษไล่ออกจากราชการ และเห็นควร ส่งข้อมูลการสอบสวนวินัยทั้งหมดให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อพิจารณาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ภาคทัณฑ์ผู้พิพากษาฟ้อง ก.ต. – แต่ให้งดโทษ
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้พิจารณากรณีผู้พิพากษาระดับสูงอีก 1 ราย ที่เคยถูกสอบสวนวินัยร้ายแรงกรณีแทรกแซงการพิจารณาคดีมรดกที่ศาลจังหวัดฉะเชิงเทรา ได้ยื่นฟ้องกรรมการตุลาการศาลยุติธรรมผู้ทรงคุณวุฒิ ซึ่ง ก.ต. เห็นว่าเป็นการกระทำที่กระทบกระเทือนต่อความเป็นอิสระของ ก.ต. และเป็นการฟ้องร้องโดยปราศจากเหตุผลอันสมควร ถือเป็นความผิดวินัยไม่ร้ายแรง เห็นควร ลงโทษภาคทัณฑ์ แต่เนื่องจากผู้พิพากษาคนดังกล่าวได้พ้นจากราชการไปแล้ว จึงให้ งดโทษ ดังกล่าว
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ด่วน! ‘สิระ เจนจาคะ’ ศาลฎีกา จำคุก 6 เดือน 20 วัน ไม่รอลงอาญา คดีหมิ่นประมาท หมอเรียญทอง บุกรุก รพ.
- ชาวเน็ตอึ้ง ผู้พิพากษาแม่สอดขอลาออก เพื่อปฏิบัติธรรม หวังหลุดพ้นจากวัฏสงสาร
- มท. ชงเด้ง 2 อธิบดีมหาดไทย ‘ขจรเกียรติ’ ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดอธิบดีกรมที่ดิน
ติดตาม The Thaiger บน Google News: