ข่าว

สอบสวนกลาง เตือน แก๊งคอลฯ ดูดคลิปนักข่าว หลอกสแกน QR Code โอนเงินซ้ำ

ตำรวจสอบสวนกลาง เตือนภัยกลโกงใหม่ของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่ ดูดคลิปนักข่าวมาตัดต่อใส่ QR Code ปลอมเพื่อหลอกลวงผู้เสียหาย

ตำรวจสอบสวนกลาง เตือนภัยประชาชน ให้ระวังกลโกงรูปแบบใหม่ของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่ยกระดับความน่าเชื่อถือด้วยการ “ดูดคลิป” ของนักข่าวและผู้ประกาศข่าวชื่อดังที่กำลังรายงานข่าวเตือนภัย มาตัดต่อใส่ QR Code และไลน์ไอดีปลอม เพื่อหลอกลวงผู้เสียหายซ้ำสอง อ้างว่าเป็นศูนย์ช่วยเหลือในการยื่นขอรับเงินคืน

ด้วยปัจจุบันแก๊งคอลเซ็นเตอร์มีการปรับเปลี่ยนรูปแบบกลโกงในการหลอกลวงประชาชนอยู่เสมอ ทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) จึงได้มีกวดขันเร่งปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์มาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งนอกจากนโยบายการปราบปรามอาชญากรรมที่ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ให้ความสำคัญแล้ว พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ยังเน้นย้ำให้มีการเฝ้าระวังรูปแบบภัยอาชญากรรมที่เกิดขึ้นเพื่อนำมาประชาสัมพันธ์เตือนภัยให้กับประชาชน เพื่อเป็นการเสริมสร้างเกราะป้องกันภัยให้ประชาชนจะได้ไม่ตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ

โดยในช่วงที่ผ่านมา ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) พบพฤติการณ์การกระทำของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่มีการดูดคลิปวิดีโอของนักข่าว และผู้ประกาศข่าว ที่มีเนื้อหาเตือนภัยกลโกงมิจฉาชีพ รวมถึงการให้ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับวิธีการขอรับเงินคืนกรณีได้รับความเสียหายจากการถูกหลอกลวง โดยแก๊งคอลเซ็นเตอร์ได้นำ QR Code ซึ่งอ้างว่าเป็น “ศูนย์ยื่นสิทธิเฉลี่ยทรัพย์” หรือ “ทนาย ที่ปรึกษาด้านกฎหมาย” มาแปะไว้ในคลิปดังกล่าว พร้อมแนบช่องทางการติดต่อผ่านทางแอปพลิเคชันไลน์ โดยระบุข้อความ “ให้ติดต่อเจ้าหน้าที่เพื่อขอยื่นสิทธิรับเงินคืน”

ภาพจาก: FB/ ตำรวจสอบสวนกลาง

การกระทำของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในลักษณะนี้ ทำให้ประชาชนหรือผู้ที่เห็นคลิปเข้าใจว่า ช่องทางดังกล่าวสามารถช่วยเหลือผู้เสียหายจากการถูกหลอกลวงได้จริง จนทำให้มีประชาชนหลายรายหลงเชื่อ สแกนคิวอาร์โค๊ดติดต่อเข้ากลุ่มไลน์ของมิจฉาชีพได้รับความเสียหาย

จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า มีผู้ประกาศจากสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส และ ไทยรัฐทีวี ถูกนำคลิปไปใช้ในการหลอกลวงประชาชนในลักษณะดังกล่าวข้างต้นแล้ว

ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ขอประชาสัมพันธ์เตือนภัยประชาชน หากพบคลิปในลักษณะข้างต้น อย่าหลงเชื่อสแกน QR code หรือ แอดไลน์ใดๆ ทั้งสิ้น เนื่องจากช่องทางดังกล่าวเป็นกลวงที่มิจฉาชีพสร้างขึ้นมาเพื่อหลอกลวงซึ่งจะนำไปสู่การหลอกให้โอนเงินจนทำให้ท่านได้รับความเสียหาย

นอกจากนี้ ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ขอแนะนำประชาชนที่ต้องการขอรับเงินคืนในกรณีที่ได้รับความเสียหายจากการถูกหลอกลวง ขอให้ท่านตรวจสอบข้อมูลก่อนว่า คดีของท่านมีสิทธิยื่นเฉลี่ยทรัพย์คืนหรือไม่ โดยสามารถเข้าไปตรวจสอบได้ที่ เว็บไซต์ www.amlo.go.th สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือ ป.ป.ง. โดยหากท่านพบว่ามีสิทธิในการขอเฉลี่ยทรัพย์คืนตามข้างต้น ให้ติดต่อและดำเนินการกับเจ้าหน้าที่ ป.ป.ง. โดยตรง หรือติดต่อผ่านเว็บไซต์ของ ป.ป.ง. เท่านั้น

ทั้งนี้ ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ได้มีการประสานงานกับทาง TIKTOK และ บริษัทไลน์ เพื่อดำเนินการปิดกั้นการกระทำของมิจฉาชีพเหล่านี้ไปแล้วในเบื้องต้น และสำหรับประชาชนท่านใดที่ตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพทางออนไลน์ หรือต้องการปรึกษาปัญหาอาชญากรรมทางไซเบอร์ สามารถโทรติดต่อได้ที่ ศูนย์ AOC 1441

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

ติดตาม The Thaiger บน Google News:

0 0 โหวต
Article Rating
สมัครรับข้อมูล
แจ้งเตือนเกี่ยวกับ
0 Comments
เก่าแก่ที่สุด
ใหม่ล่าสุด ถูกโหวตมากที่สุด
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

Suriyen J.

นักเขียนบทความข่าว จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ สาขาปรัชญาและศาสนา มีประสบการณ์กับสำนักข่าวระดับประเทศ ชื่นชอบด้านสังคม การเมือง ต่างประเทศ ทำให้สามารถสร้างคุณค่าผ่านงานเขียน เพื่อให้ผู้อ่านได้ประโยชน์ครบทุกมิติ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to top button
0
เราอยากทราบความคิดเห็นของคุณ โปรดแสดงความคิดเห็นx