ข่าว

ปักธงชาติไทยแล้ว 11 จุด ทหารไทย คุมพื้นที่ชายแดนสำเร็จ มีที่ไหนบ้าง

กองทัพไทยประกาศเข้าควบคุมพื้นที่ยุทธศาสตร์สำคัญตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชาได้ทั้งหมด 11 จุดแล้ว ซึ่งรวมถึงภูมะเขือ ช่องอานม้า ปราสาทตาเมือนธม และแนวเขตแดนช่องบก

29 กรกฎาคม 2568 – ศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) ได้แถลงสรุปสถานการณ์ล่าสุด โดยเปิดเผยว่าก่อนข้อตกลงหยุดยิงจะมีผลบังคับใช้เมื่อเวลา 24.00 น. ของคืนที่ผ่านมา กองทัพไทยสามารถเข้าควบคุมพื้นที่การรบที่สำคัญตามแนวชายแดนได้ทั้งหมด 11 พื้นที่ อย่างไรก็ตาม เป็นที่น่าเสียดายว่าฝ่ายกัมพูชาได้ละเมิดข้อตกลงและยังคงใช้อาวุธยิงก่อกวนเข้ามาในฝั่งไทยอย่างต่อเนื่องตลอดคืน

พลเรือตรี สุรสันต์ คงสิริ โฆษก ศบ.ทก. แถลงว่า จากการปฏิบัติการตอบโต้เพื่อปกป้องอธิปไตย กองทัพไทยสามารถเข้าควบคุมพื้นที่ยุทธศาสตร์สำคัญไว้ได้ ณ เวลา 24.00 น. ของวันที่ 28 กรกฎาคม รวม 11 พื้นที่ ประกอบด้วย

  • ภูมะเขือ
  • ช่องอานม้า
  • ปราสาทตาเมือนธม
  • ปราสาทตาควาย
  • แนวเขตแดนช่องบก
  • โดนตวล
  • สัตตะโสม
  • ช่องจอม
  • ช่องสายตะกู
  • พื้นที่ปราสาทพระวิหาร
  • พลาญยาว
แผนที่แสดง 11 พื้นที่ชายแดนที่ไทยควบคุมแล้ว
ภาพจาก: FB/ ศูนย์เฉพาะกิจฯ ชายแดนไทย-กัมพูชา – Team Thailand

โฆษกกองทัพบก พลตรี วินธัย สุวารี ได้ออกแถลงการณ์ประณามการกระทำของฝ่ายกัมพูชา โดยระบุว่าแม้ฝ่ายไทยจะปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด แต่กลับตรวจพบว่าฝ่ายกัมพูชาได้ใช้อาวุธยิงสนับสนุนเข้ามาในพื้นที่ช่องบก, ช่องอานม้า, ปราสาทตาควาย และภูมะเขือ ซึ่งถือเป็นการละเมิดข้อตกลงอย่างจงใจและทำลายความไว้เนื้อเชื่อใจ นอกจากนี้ยังพบว่าฝ่ายกัมพูชาได้ใช้โบราณสถานเป็นโล่กำบัง ซึ่งเป็นการละเมิดอนุสัญญาระหว่างประเทศอีกด้วย

อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางสถานการณ์ที่ยังคงตึงเครียด ได้มีความพยายามในการเจรจาเกิดขึ้น โดยเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ผู้บังคับบัญชาระดับสูงในพื้นที่ของทั้งสองฝ่ายได้มีการหารือกัน และได้ข้อตกลงเบื้องต้นร่วมกัน 5 ข้อ คือ 1.หยุดยิง 2.ห้ามยิงใส่ประชาชน 3.หยุดการเพิ่มเติมกำลัง 4.ห้ามเคลื่อนย้ายกำลัง และ 5.แนวทางการส่งกลับผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต ซึ่งข้อตกลงนี้จะต้องรอการรับรองในการประชุมระดับสูงต่อไป

สำหรับผลกระทบต่อประชาชน มีรายงานยอดรวมผู้อพยพทั้งสิ้น 188,729 คน ขณะที่ยอดพลเรือนผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 15 คน และมีผู้บาดเจ็บรวม 38 คน สถานพยาบาลได้รับผลกระทบ 20 แห่ง และโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพสต.) ได้รับผลกระทบอีก 175 แห่ง

ด้านกระทรวงการต่างประเทศย้ำว่า การเจรจาที่มาเลเซียคือความพยายามดึงกัมพูชากลับสู่โต๊ะเจรจา และไทยพร้อมหาทางออกร่วมกันอย่างสันติ ขณะที่โฆษก ศบ.ทก. ได้ฝากเตือนประชาชนให้ใช้วิจารณญาณในการรับข่าวสาร เนื่องจากพบว่ามีการโจมตีทางไซเบอร์และใช้ข่าวปลอมเพื่อสร้างความสับสนในสถานการณ์นี้

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

ติดตาม The Thaiger บน Google News:

0 0 โหวต
Article Rating
สมัครรับข้อมูล
แจ้งเตือนเกี่ยวกับ
0 Comments
เก่าแก่ที่สุด
ใหม่ล่าสุด ถูกโหวตมากที่สุด
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

Suriyen J.

นักเขียนบทความข่าว จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ สาขาปรัชญาและศาสนา มีประสบการณ์กับสำนักข่าวระดับประเทศ ชื่นชอบด้านสังคม การเมือง ต่างประเทศ ทำให้สามารถสร้างคุณค่าผ่านงานเขียน เพื่อให้ผู้อ่านได้ประโยชน์ครบทุกมิติ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to top button
0
เราอยากทราบความคิดเห็นของคุณ โปรดแสดงความคิดเห็นx