สดุดี 3 ทหารกล้า พลีชีพปกป้องอธิปไตย ยอดเสียชีวิตไทยพุ่ง 14 นาย

กองทัพภาคที่ 2 สดุดี 3 ทหารกล้า พลีชีพปกป้องอธิปไตยจนวาระสุดท้าย เหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา ล่าสุด 3 พื้นที่ บรรลุข้อตกลงหยุดยิงทันที ยอดทหารไทยดับสะสม 14 นาย
อาลัย กองทัพภาคที่ 2 แถลงการณ์แสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อการสูญเสียวีรชนทหารกล้าอีก 3 นาย ผู้สละชีวิตในระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ปกป้องอธิปไตยของชาติจากเหตุการณ์การสู้รบบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา เมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 ที่ผ่านมา ทำให้ยอดกำลังพลผู้เสียชีวิตจากการปะทะนับตั้งแต่วันที่ 24 กรกฎาคม ที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน รวมเป็น 14 นาย
ท่ามกลางสถานการณ์ความตึงเครียดปมข้อพิพาทชายแดนไทย-กัมพูชา ล่าสุด กองทัพบกได้รับรายงานความสูญเสียเพิ่มเติมของกำลังพลผู้กล้าหาญ ผู้ที่ปฏิบัติภารกิจอย่างเข้มแข็งจนถึงวาระสุดท้ายของชีวิต โดยกองทัพบกขอประกาศรายนามเพื่อเชิดชูเกียรติวีรชนทั้ง 3 นายให้เป็นที่ประจักษ์ ได้แก่
1. จ่าสิบเอก ธีระยุทธ สีจุ้ยจ้าย สังกัด กองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารทหารราบที่ 3
2. จ่าสิบเอก อภิรมย์ ทรงพุฒิ สังกัด กองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารทหารราบที่ 8
3. พลทหาร ธีรยุทธ กระจ่างทอง สังกัด กองพันทหารปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยานที่ 2 กรมทหารปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยานที่ 2
กองทัพบกออกแถลงการณ์ยกย่องวีรกรรมของทหารกล้าทั้ง 3 นาย ที่ได้อุทิศชีวิตเพื่อปกป้องอธิปไตยและแผ่นดินไทย พร้อมทั้งให้คำมั่นสัญญาว่าจะดำเนินการดูแลด้านสิทธิและสวัสดิการแก่ครอบครัวและทายาทของผู้เสียสละอย่างเต็มกำลังและดีที่สุด เพื่อเป็นการเชิดชูเกียรติยศอันสูงสุดต่อคุณงามความดีและความเสียสละของวีรชนเหล่านี้

สำหรับรายงานสถานการณ์ล่าสุด กองทัพภาคที่ 2 รายงานว่า พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก แถลงผลการประชุมหารือของผู้บังคับบัญชาหน่วยทหารชายแดนไทย–กัมพูชา ทั้ง 3 พื้นที่หลักในวันนี้ (29 ก.ค. 68) เวลา 10.00 น. ทั้งสองฝ่ายมีจุดยืนร่วมกัน เพื่อลดความตึงเครียดและป้องกันเหตุปะทะซ้ำ ก่อนถึงการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) ในวันที่ 4 สิงหาคม 2568
1. พื้นที่กองทัพภาคที่ 1 ณ คลองลึก จ.สระแก้ว แม่ทัพภาคที่ 1 หารือกับฝ่ายกัมพูชาภูมิภาคทหารที่ 5 เห็นชอบให้งดเคลื่อนไหวกำลังเพื่อลดความหวาดระแวง รวมทั้งอนุญาตให้ผู้บังคับบัญชาในแต่ละระดับติดต่อกันโดยตรงได้เมื่อมีเหตุจำเป็น
2. พื้นที่กองทัพภาคที่ 2 บริเวณช่องจอม จ.สุรินทร์ แม่ทัพภาคที่ 2 เจรจากับภูมิภาคทหารที่ 4 (ฝ่ายกัมพูชา) ให้ยุติการยิงทันที ไม่ใช้อาวุธหรือกำลังกับพลเรือน หรือใช้เสริมกำลัง รวมทั้งห้ามเคลื่อนย้ายกำลังในลักษณะยั่วยุ พร้อมอำนวยความสะดวกในการส่งกลับผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิต และจัดตั้งชุดประสานงานระดับพื้นที่ฝ่ายละ 4 คน
3. พื้นที่กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด (กปช.จต.) ผู้บัญชาการ กปช.จต. ประชุมผ่านระบบออนไลน์กับภูมิภาคทหารที่ 3 (ฝ่ายกัมพูชา) เห็นชอบแนวทางเดียวกับกองทัพภาคที่ 1 พร้อมเน้นย้ำว่า ก่อนและระหว่างการประชุม ทั้ง 3 พื้นที่ได้หยุดยิงตลอดแนวชายแดนแล้วเป็นที่เรียบร้อย เพื่อเจตนาลดความรุนแรง และพูดคุยทางทหารอย่างจริงใจ




อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- รายชื่อ 11 วีรบุรุษ ทหารไทย แลกชีวิตเพื่อชาติ หลังเหตุปะทะทหารกัมพูชา
- สมศักดิ์ เดือด กัมพูชาไร้มนุษยธรรม โจมตี รพ.-พลเรือน ดับรวม 11 เจ็บ 35
- เชิดชู ‘น้องโซ่’ ทหารกล้า LGBTQ ผู้ไม่กลัวกระสุนศัตรู โซเชียลแห่ชื่นชม
ติดตาม The Thaiger บน Google News: