ช็อก จับเจ้าอาวาสวัดเส้าหลิน ยักยอกเงิน มีเมีย-ลูกนอกสมรส เปิดประวัติ พระนักพุทธพาณิชย์

ลือสะพัด ชิ หยงซิน เจ้าอาวาสวัดเส้าหลินถูกจับ ข้อหายักยอกเงิน มีหลายเมีย มีลูกนอกสมรส เปิดประวัติ เส้นทางพระนักพัฒนา สู้ธุรกิจพุทธพาณิชย์
เมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2025 สำนักวัดเส้าหลิน ซึ่งมีอายุกว่า 1,500 ปีในมณฑลเหอหนาน ประเทศจีน เปิดเผยว่า “ท่านชิ หยงซิน” (Shi Yongxin) เจ้าอาวาสวัดเส้าหลิน กำลังถูกหน่วยงานหลายแห่งสอบสวนในข้อกล่าวหายักยอกทรัพย์ “มีความสัมพันธ์ไม่เหมาะสมกับหญิงหลายคน” และ “มีบุตรนอกสมรส” ขณะนี้ สมาคมพุทธศาสนาแห่งประเทศจีนได้ประกาศถอนใบสุทธิการบวชของท่านแล้ว
สมาคมพุทธฯ แถลงว่า “การกระทำของท่านชิ หยงซินเลวร้ายอย่างยิ่ง สร้างความเสียหายร้ายแรงต่อชื่อเสียงของวงการสงฆ์และภาพลักษณ์ของพระภิกษุ”
ชิ หยงซิน วัย 59 ปี ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดเส้าหลินมาตั้งแต่ปี 1999 ถูกขนานนามว่า “พระซีอีโอ” เนื่องจากเปลี่ยนวัดแห่งนี้ให้กลายเป็นแบรนด์ระดับโลก เปิดโรงเรียนสอนศิลปะการต่อสู้นอกประเทศจีน และตั้งคณะการแสดง กังฟูเส้าหลิน ที่ตระเวนแสดงทั่วโลก โดยมีการสาธิตกังฟู ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของวัด

ข่าวการสอบสวนชิ หยงซินกลายเป็นหัวข้อที่ถูกพูดถึงมากที่สุดในแพลตฟอร์มเว่ยป๋อ (Weibo) เช้าวันจันทร์ที่ผ่านมา ขณะที่บัญชีเว่ยป๋อของท่านเอง ซึ่งมีผู้ติดตามมากกว่า 880,000 คน เคยโพสต์คำสอนทางพุทธศาสนาเป็นประจำ หยุดอัปเดตครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ชิ หยงซินตกเป็นเป้าสงสัย ในปี 2015 เขาเคยถูกกล่าวหาว่ามีความสัมพันธ์เชิงชู้สาวกับสตรีหลายคน และยักยอกเงินของวัด อีกทั้งยังรับของขวัญมีค่าจากบริษัทเอกชนและหน่วยงานรัฐ เช่น รถโฟล์กสวาเกน SUV จีวรปักด้วยด้ายทองคำ อย่างไรก็ตาม เขาได้รับการเคลียร์ข้อกล่าวหาในเวลาต่อมา
นอกจากตัวชิ หยงซินแล้ว วัดเส้าหลินเองก็เคยถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักเช่นกัน เมื่อในปีเดียวกันมีแผนสร้างโครงการวัดเส้าหลินมูลค่าเกือบ 300 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งจะประกอบด้วยโรงแรม โรงเรียนสอนกังฟู และสนามกอล์ฟ จนถูกประชาชนตั้งคำถามถึงความเหมาะสม
วัดเส้าหลิน รู้จักอย่างกว้างขวางในวัฒนธรรมป๊อปของโลก เช่น ภาพยนตร์เรื่อง “Shaolin Temple” ที่นำแสดงโดยเจ็ต ลี ในปี 1982 รวมถึงเพลงของวงฮิปฮอปอเมริกัน Wu-Tang Clan และเป็นแรงบันดาลใจให้กับวิดีโอเกม Mortal Kombat
แม้ตามหลักคำสอนของพุทธศาสนา การมีภรรยา รับประทานเนื้อสัตว์ หรือใช้ชีวิตไม่สำรวมจะถือเป็นเรื่องต้องห้าม แต่สำหรับสังคมจีนในปัจจุบัน บางครั้งก็อาจมองเรื่องนี้ด้วยความยืดหยุ่น โดยเฉพาะกับพระสายกังฟูที่อุทิศตนฝึกฝนร่างกายมากกว่าปฏิบัติศีลอย่างเคร่งครัด
หากพบว่าท่านชีหย่งซินมีความผิดจริงในข้อหาทุจริตและฉ้อโกง จะถือเป็นความเสียหายอย่างใหญ่หลวงต่อชื่อเสียงของเขาและวงการสงฆ์จีนโดยรวม

ชีวประวัติ “ชิ หยงซิน” พระซีอีโอแห่งวัดเส้าหลิน จากนักบวชสู่มหาเศรษฐีธรรมะ และบทสรุปที่โลกต้องจับตามอง
ชิ หยงซิน ชื่อเดิม หลิว อิงเฉิง เกิดเมื่อปี พ.ศ. 2508 ในมณฑลอานฮุย ประเทศจีน บวชเป็นพระภิกษุเมื่ออายุเพียง 16 ปี ณ วัดเส้าหลิน มณฑลเหอหนาน ในปี พ.ศ. 2524 ก่อนจะได้รับตำแหน่งเจ้าอาวาสในปี พ.ศ. 2542
ชิ หยงซิน ไม่ใช่พระสงฆ์ธรรมดา เขาคือ พระนักธุรกิจรุ่นบุกเบิกของจีน ถือเป็นพระภิกษุรูปแรกในประเทศที่สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโทด้านบริหารธุรกิจ (MBA) เริ่มขยายกิจกรรมเชิงพาณิชย์ของวัดเส้าหลินผ่านบริษัทในเครือตั้งแต่ปี พ.ศ. 2541 โดยครอบคลุมหลากหลายอุตสาหกรรม เช่น การท่องเที่ยว วัฒนธรรม สมุนไพร การพิมพ์ อีคอมเมิร์ซ และอื่น ๆ
หนึ่งในความสำเร็จที่น่าจับตาคือการฟื้นฟู “ร้านยาวัดเส้าหลิน” ในปี พ.ศ. 2547 ซึ่งหยงซินนำตำรับยาสมุนไพรโบราณมาต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ เช่น ยาแปะเส้น เห็ดหลินจือ และชาเส้าหลิน โดยในปี พ.ศ. 2562 ธุรกิจนี้สร้างรายได้กว่า 80 ล้านหยวน หรือประมาณ 400 ล้านบาท
ไม่เพียงเท่านั้น หยงซินยังพาวัดเข้าสู่ยุคดิจิทัลด้วยการเปิดร้านค้าออนไลน์บนแพลตฟอร์ม Taobao ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2551 จำหน่ายเครื่องใช้ทางศาสนาและสินค้าแนว “วิถีชีวิตแบบเซ็น” เช่น น้ำมันหอม วัตถุมงคล และตุ๊กตาพระกวาดลาน ซึ่งทำยอดขายทะลุ 23 ล้านหยวนในปี พ.ศ. 2563 ต่อมาในปี พ.ศ. 2564 ชิ หยงซินยังขยายสู่แพลตฟอร์ม “โต่วอิน” (TikTok จีน) โดยลงมือถ่ายคลิปให้ความรู้ด้านศิลปะการต่อสู้และไลฟ์สดขายสินค้าด้วยตนเอง
อีกหนึ่งความสำเร็จคือการส่งพระนักกังฟูเส้าหลินไปแสดงในต่างประเทศมากกว่า 200 รอบต่อปี แต่ละรอบมีค่าตัวเฉลี่ยสูงถึง 50,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 1.8 ล้านบาท หยงซินยังเปิดให้ใช้ชื่อ “เส้าหลิน” กับผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ตั้งแต่เกมออนไลน์ เพลง ไปจนถึงเบอร์โทรศัพท์ที่ผ่านการอธิษฐานเสริมสิริมงคลเพื่อสร้างรายได้ให้แก่วัด

ในช่วงสูงสุดของอำนาจทางธุรกิจ ชิ หยงซินเคยควบคุมบริษัทในเครือถึง 18 แห่ง เน้นด้านการบริหารสินทรัพย์ทางวัฒนธรรม การวางแผนท่องเที่ยว การแลกเปลี่ยนศิลปวัฒนธรรม รวมถึงการลงทุนในสินค้าและบริการที่เกี่ยวข้องกับชา ศิลปะ และวิถีชีวิตจีน
แต่ความทะเยอทะยานของหลวงพ่อเริ่มถูกตั้งคำถามในปี พ.ศ. 2565 เมื่อหนึ่งในบริษัทในเครือเข้าประมูลที่ดินในเมืองเจิ้งโจวมูลค่าถึง 452 ล้านหยวน จนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในวงกว้างและนำไปสู่การถอนชื่อของเขาออกจากการเป็นผู้ถือหุ้นในเดือนเมษายนปีเดียวกัน
หลังจากนั้น ชิ หยงซินเริ่มทยอยถอนตัวจากตำแหน่งในบริษัทต่าง ๆ จนปัจจุบันเขาเหลือเพียงบทบาทตัวแทนทางกฎหมายขององค์กรศาสนาและวัด 5 แห่ง เช่น สมาคมพุทธศาสนาเมืองเจิ้งโจว วัดเซียนเซิ่ง และวัดในเมืองซานเหมินเสีย โดยไม่มีตำแหน่งผู้บริหารในภาคธุรกิจอีกต่อไป ทั้งนี้ บริษัทที่เคยเกี่ยวข้องกับเขากว่าครึ่งได้ถูกเพิกถอนหรือยุบกิจการลงแล้ว
แม้ในปี พ.ศ. 2558 ชิ หยงซินจะเคยตกเป็นข่าวฉาวจากข้อกล่าวหาว่ามีภรรยาและลูก แต่ภายหลังทางการจีนได้สรุปว่าไม่มีมูลความจริง ทว่า กระแสได้หวนกลับมาอีกครั้งในปี พ.ศ. 2568 เมื่อหน่วยงานหลายแห่งเริ่มสอบสวนเขาอย่างเป็นทางการในข้อหายักยอกเงิน มีความสัมพันธ์ไม่เหมาะสมกับหญิงหลายคน และมีบุตรนอกสมรส นำไปสู่การถอดถอนใบสุทธิการบวช และกลายเป็นข่าวร้อนที่ประชาชนจีนและชาวพุทธทั่วโลกต้องจับตา
จากนักบวชในวัดบนภูเขา สู่พระนักธุรกิจระดับโลกที่แปรชื่อวัดเส้าหลินให้กลายเป็นแบรนด์มูลค่าหลายร้อยล้าน ชิ หยงซิน คือภาพสะท้อนความเปลี่ยนแปลงของพุทธศาสนาในจีนยุคทุนนิยม และคดีของเขาอาจกลายเป็นบททดสอบครั้งสำคัญของแนวทาง “พระนักบริหาร” ที่โลกต้องขบคิด.
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- อาลัย พระสุดหล่อแห่งวัดเส้าหลิน เสียชีวิตแล้ว วัยเพียง 21 ปี จากอุบัติเหตุรถยนต์
- เสื่อม! หลวงพ่อ อ้อน สีกา ส่งภาพของลับ ตอบกลับแชตสยิว ลั่น “มีของดีแต่ไม่แข็ง”
- หลวงพ่อมหาน้อย ชี้แจงครั้งแรก ยันไม่ใช่ตน เป็นภาพตัดต่อ ไม่เสพเมถุน
ติดตาม The Thaiger บน Google News: