ประวัติ ร.31 รอ. จากอดีตหน่วยพร้อมรบเคลื่อนที่เร็ว(RDF) สู่หน่วยพร้อมรบเฉพาะกิจ ในสงครามรูปแบบใหม่
ร.31 รอ. มีชื่อว่า กรมทหารราบที่ 31 รักษาพระองค์ มีหน่วยขึ้นตรงทั้งหมด 3 กองพันคือ กองพันทหารราบที่ 1 กองพันทหารราบที่ 2 และ กองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 31 รักษาพระองค์ ในพระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร มีตราสัญลักษณ์สลักข้อความขึ้นใจว่า “ยอมตาย ดีกว่า เป็นทาส”
ระหว่างการสู้รบชายแดนไทย-กัมพูชา ในช่วงโค้งสุดท้ายก่อนวันหยุดยิง (28 ก.ค.) พ.อ. พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก ใช้ ร.31 รอ. ร่วมกับกองทัพอากาศ บิน F‑16 โจมตีฐานยิงปืนใหญ่และเส้นทางเสริมกำลังของกัมพูชา เพื่อเปิดทางให้ทหาร ร.31 รอ. ขึ้นไปยึด ปราสาทตาควาย ได้ก่อนดีเลย์หยุดยิงในเช้าวันที่ 29 กรกฎาคม
การรบครั้งนี้ ร.31 รอ. ไม่มีเคสดำ หรือทหารเสียชีวิตเลยแม้แต่นายเดียว แสดงถึงศักยภาพทางการรบสูงสุดของหน่วย
ความเป็นมาการก่อตั้ง ร.31 รอ.
กรมทหารราบที่ 31 รักษาพระองค์ (ร.31 รอ.) เป็นหน่วยงานระดับกรมทหารราบ ขึ้นตรงของกองพลที่ 1 รักษาพระองค์ กองทัพภาคที่ 1 จัดตั้งขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2484 มีที่ตั้งหน่วยอยู่ในพื้นที่ศาลาว่าการกลาโหม กรุงเทพฯ ในปัจจุบัน และใน พ.ศ. 2489 ได้เปลี่ยนนามหน่วยเป็นกรมทหารราบที่ 21 ประกอบด้วยหน่วยรองหลัก ระดับกองพันจำนวน 2 กองพัน มีที่ตั้งหน่วยอบู่บริเวณวัดไก่ อ.เมือง จ.ลพบุรี
พ.ศ. 2491 ย้ายที่ตั้งหน่วยไปอยู่ ต.ปากเพรียว อ.เมือง จ.สระบุรี และใน พ.ศ. 2496 จึงย้ายมาอยู่ในพื้นที่ จ.ลพบุรี ซึ่งเป็นที่ตั้งหน่วยในปัจจุบัน
พ.ศ. 2512 กองทัพบกแปรสภาพหน่วยเป็นหน่วยใช้ร่ม จากนั้นใน พ.ศ. 2521 ได้รับโอนกองพันส่งทางอากาศที่ 1 ศูนย์สงครามพิเศษ มาขึ้นการบังคับบัญชากับกรมผสมที่ 31 กระทั่งปี พ.ศ. 2522 ได้แปลงสภาพจากกรมผสม เป็นกรมทหารราบ ใช้ชื่อหน่วยว่า กรมทหารราบที่ 31 กองพลที่ 1 รักษาพระองค์
ทั้งนี้ พ.ศ. 2523 ทางหน่วยได้รับโปรดเกล้าฯ ให้เป็นหน่วยรักษาพระองค์ใน ร.9 เรียกนามหน่วยว่า กรมทหารราบที่ 31 รักษาพระองค์
พ.ศ. 2540 กองทัพบกได้จัดตั้งหน่วยพร้อมรบเคลื่อนที่เร็วระดับกองพัน ของกองทัพบก โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นหน่วยต้นแบบในการพัฒนาหน่วยทหารไปสู่ความพร้อมรบและทันสมัย รวมถึงใช้เป็นหน่วยใช้รองรับสถานการณ์ภัยคุกคามต่าง ๆ โดยในส่วนของกองทัพภาคที่ 1 ได้กำหนดให้ กองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 31 รักษาพระองค์ (ร.31 พัน.3 รอ.) เป็นหน่วยหลักในการประกอบกำลัง
ต่อมา พ.ศ. 2545 กองทัพบกได้จัดตั้งหน่วยพร้อมรบเคลื่อนที่เร็วระดับกรม โดยกำหนดให้ ร.31 รอ. เป็นหน่วยหลักในการประกอบกำลัง
พ.ศ. 2561 กองทัพบกจัดให้ ร.31 รอ. เป็นหน่วยเฉพาะกิจ ทหารมหาดเล็กรักษาพระองค์ 904 (ฉก.ทม.รอ.904) เพื่อปฏิบัติภารกิจถวายพระเกียรติ ถวายความปลอดภัยพระบรมวงศานุวงศ์ และถวายงานอื่น ๆ ของหน่วยเฉพาะกิจทหารมหาดเล็กรักษาพระองค์ 904
ภารกิจปัจจุบันของ ร.31 รอ.
- ต่อสู้ในสงคราม ฐานะรบเคลื่อนที่เร็ว ทำลายกำลังรบศัตรู ยึดพื้นที่
- ของกองทัพอากาศ เป็นหน่วยร่ม โจมตีด้วยการกระโดดร่วมลงเพื่อทำลายข้าศึก
- หน่วยเคลื่อนที่เร็วของกองทัพบก
- ช่วยเหลือประชาชนคนธรรมดา เมื่อเกิดภัยพิบัติ
- สนับสนุนโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ
- รักษาพระองค์ ถวายการอารักขาพระบรมวงศานุวงศ์
ทำไมกรมทหารราบที่31 รักษาพระองค์ ไม่ค่อยถูกกล่าวถึง
ร.31 รอ. เป็นหน่วยรบในลักษณะ Rapid Deployment Force (RDF) หรือหน่วยเคลื่อนที่เร็ว จุดเด่นของหน่วยประเภทนี้คือความสามารถในการตอบสนองสถานการณ์ฉุกเฉินได้อย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในปฏิบัติการข้ามชาติ ต่างจากหน่วยตอบโต้เร็ว (QRF) ที่มีหน้าที่รับมือกับสถานการณ์เฉพาะหน้าในพื้นที่นั้น ๆ
ภารกิจหลักของหน่วย RDF อย่าง ร.31 รอ. ได้แก่ การส่งกำลังพลร่มสู่สนามรบ การลาดตระเวนพิเศษ ปฏิบัติการตรง (Direct Action) การรบระยะประชิด การลาดตระเวนรบในพื้นที่ป่าเขา และยุทธวิธีของหน่วยขนาดเล็ก ซึ่งต้องอาศัยความชำนาญเฉพาะด้านอย่างมาก
เพื่อให้เห็นภาพชัดเจน หากเกิดเหตุการณ์ความขัดแย้งระดับประเทศ เช่น สมมติไทยต้องเข้าสู่ภาวะสงครามกับประเทศเพื่อนบ้าน หน่วย RDF อย่าง ร.31 รอ. จะเป็นแนวหน้าชุดแรกที่ถูกส่งลงพื้นที่ทันที ด้วยการโดดร่มเข้าโจมตี เปรียบเสมือน Marine Expeditionary Unit ของสหรัฐฯ ที่พร้อมรบข้ามประเทศ
ขณะที่ QRF หรือ Quick Reaction Force แม้ชื่อจะคล้ายกัน แต่มีบทบาทแตกต่าง QRF จะถูกตั้งขึ้นเพื่อช่วยเหลือหน่วยรบที่ตกอยู่ในสถานการณ์วิกฤต ณ จุดปฏิบัติการ เช่น หากหน่วยรบถูกซุ่มโจมตีและไม่สามารถถอนตัวได้ หน่วย QRF ซึ่งอาจเป็นทหารในพื้นที่ใกล้เคียง ทหารพราน หรือแม้แต่ตำรวจตระเวนชายแดน จะเข้าช่วยเหลือทันที ซึ่งต้องมีการวางแผนล่วงหน้าและประสานกันอย่างใกล้ชิด
ด้วยความที่ ร.31 รอ. ถูกจัดอยู่ในหมวดหน่วย RDF ทำให้บทบาทของพวกเขามักดำเนินการในภารกิจที่ต้องใช้ความเร็ว ความแม่นยำ และบางครั้งเป็น “ภารกิจลับ” ที่ไม่จำเป็นต้องประกาศหรือเผยแพร่สู่สาธารณะ นี่จึงเป็นเหตุผลว่า ทำไมเราจึงไม่ค่อยได้ยินชื่อของหน่วยนี้ในสื่อ แม้ในความเป็นจริง พวกเขาจะเป็นอีกหนึ่งฟันเฟืองสำคัญของกองทัพบกไทย ที่พร้อมปฏิบัติการในสถานการณ์ที่ยากจะคาดเดาเสมอ.
ข้อมูลจาก เฟซบุ๊ก ศูนย์ประชาสัมพันธ์ กรมทหารราบที่ 31 รักษาพระองค์
ติดตาม The Thaiger บน Google News:
ข่าวล่าสุด
