กัมพูชาประณามไทย อ้างยิงถล่มปราสาทพระวิหารเสียหายหนัก จ่อฟ้อง-เรียกค่าชดใช้

กัมพูชาออกแถลงการณ์ประณามไทย กล่าวหาก่ออาชญากรรมสงคราม อ้างถูกยิงถล่มปราสาทพระวิหารเสียหายหนัก วอนประชาคมโลกกดดัน เรียกร้องกองทัพไทยยุติการรบ
จากกรณีความรุนแรงบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชาที่ยังรุนแรงอย่างต่อเนื่อง ส่งผลต่อชีวิตพลเรือน ทหาร สถานที่ต่าง ๆ รวมทั้งโบราณสถาน ล่าสุด กระทรวงวัฒนธรรมและวิจิตรศิลป์แห่งราชอาณาจักรกัมพูชาออกแถลงการณ์ด่วน ขอประณามอย่างรุนแรงต่อการยิงถล่มปราสาทพระวิหารอย่างต่อเนื่องและทวีความรุนแรงขึ้น โดยกองทัพแห่งราชอาณาจักรไทย เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2568
วันนี้ (27 ก.ค. 68) เพจเฟซบุ๊ก Neth Pheaktra เผยแพร่แถลงการณ์จากกระทรวงวัฒนธรรมและวิจิตรศิลป์แห่งราชอาณาจักรกัมพูชา ระบุว่า การกระทำอันเป็นการรุกรานที่เกิดขึ้นอีกครั้งนี้ทำให้ปราสาทตกอยู่ในอันตรายร้ายแรงอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน ส่วนสำคัญของโครงสร้างและภูมิทัศน์ศักดิ์สิทธิ์โดยรอบได้รับความเสียหายอย่างรุนแรงหรือถูกทำลาย
ในฐานะมรดกโลกของยูเนสโก ปราสาทพระวิหารเป็นสัญลักษณ์แห่งอัตลักษณ์ของชาติ ความต่อเนื่องทางประวัติศาสตร์ และมรดกทางจิตวิญญาณของกัมพูชา การโจมตีเหล่านี้ละเมิดอธิปไตยของกัมพูชาและเป็นอันตรายต่อมรดกทางวัฒนธรรมร่วมกันของมวลมนุษยชาติอีกด้วย
การจงใจพุ่งเป้าโจมตีโบราณสถานทางวัฒนธรรมและศาสนาที่มีชื่อเสียงระดับโลก ถือเป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศอย่างโจ่งแจ้ง ได้แก่
- อนุสัญญากรุงเฮก ปี ค.ศ. 1954 ว่าด้วยการคุ้มครองทรัพย์สินทางวัฒนธรรมในกรณีที่เกิดความขัดแย้งทางอาวุธ
- พิธีสารฉบับที่สองของอนุสัญญากรุงเฮก ปี ค.ศ. 1999
- อนุสัญญาว่าด้วยการคุ้มครองมรดกโลก ปี ค.ศ. 1972 ของยูเนสโก
- ธรรมนูญกรุงโรมของศาลอาญาระหว่างประเทศ ซึ่งภายใต้ธรรมนูญนี้ การจงใจทำลายมรดกทางวัฒนธรรมอาจถือเป็นอาชญากรรมสงคราม
- ความรับผิดชอบของประเทศไทยในฐานะรัฐภาคีของคณะกรรมการประสานงานระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์และส่งเสริมปราสาทพระวิหาร (ICC-Preah Vihear) ตามที่จัดตั้งขึ้นโดยมติของยูเนสโก ปี ค.ศ. 2014
กระทรวงฯ ขอเรียกร้องอย่างเร่งด่วนให้ราชอาณาจักรไทยยุติปฏิบัติการทางทหารทั้งหมดที่พุ่งเป้าไปยังปราสาทพระวิหารและเขตคุ้มครองโดยทันที และปฏิบัติตามพันธกรณีทางกฎหมายระหว่างประเทศภายใต้อนุสัญญาและข้อตกลงที่กล่าวมาข้างต้นอย่างเต็มที่
รวมทั้งเรียกร้องต่อประชาคมระหว่างประเทศรวมถึงยูเนสโก, สหประชาชาติ และองค์กรด้านวัฒนธรรมและสิทธิมนุษยชนทุกแห่งเรียกร้องให้รัฐบาลและกองทัพไทยยุติการสู้รบ, ยุติความเป็นปรปักษ์ และเคารพอธิปไตยของกัมพูชา ประณามต่อสาธารณะต่อการรุกรานอย่างต่อเนื่องของไทยต่อมรดกทางวัฒนธรรม ดำเนินการทางการทูตและทางกฎหมายในทันทีเพื่อให้ผู้รับผิดชอบต้องรับผิด และส่งผู้สังเกตการณ์ระหว่างประเทศเข้าประเมินขอบเขตของความเสียหายและช่วยปกป้องสถานที่
กระทรวงวัฒนธรรมและวิจิตรศิลป์บันทึกหลักฐานการทำลายล้างทุกกรณี และดำเนินการตามช่องทางกฎหมายที่ศาลอาญาระหว่างประเทศ (ICC) และองค์กรระหว่างประเทศอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อแสวงหาความยุติธรรมและการชดใช้ค่าเสียหาย
ราชอาณาจักรกัมพูชายังคงยืนหยัดอย่างมั่นคงในพันธสัญญาที่จะปกป้องมรดกทางวัฒนธรรมของตน และยึดมั่นในหลักการแห่งสันติภาพ ความยุติธรรม และกฎหมายระหว่างประเทศ





อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- สื่อนอกแฉ กัมพูชา เล่นสกปรกใช้โล่มนุษย์ แอบขนอาวุธหนักมากับผู้อพยพ
- กัมพูชาปัดโจมตีพลเรือน-รพ. ทำตามหลักมนุษยธรรม อ้างไทยบิดเบือนความจริง
- รู้แล้ว เบื้องหลังขัดแย้งกัมพูชา อิ๊งค์ยันไม่ใช่เรื่อง 2 ตระกูล อาจเพราะปราบแก๊งคอลฯ
ติดตาม The Thaiger บน Google News: