เจาะลึกวิกฤตในรอบ 20 ปี “บอย พิษณุ” เผยที่มาของรายได้ 35,000 บาท จาก 2 งานในเดือนเดียว หลังละครหด-แพลตฟอร์มเปลี่ยน สวนกลับเกรียนคีย์บอร์ดซ้ำเติมยามล้ม “คนล้มต้องกระทืบซ้ำถึงสะใจเหรอ?”
หลังจากเปิดใจในรายการ Podcast by Nachat เทปออกอากาศเมื่อวันเสาร์ที่ 5 กรกฎาคม ที่ผ่านมา รายได้ปัจจุบันเหลือเพียง 35,000 บาทต่อเดือน บอย-พิษณุ นิ่มสกุล นักแสดงมากฝีมือที่โลดแล่นในวงการบันเทิงมากว่า 20 ปี ยอมรับตรง ๆ ว่า “ปีนี้มันโคตรแย่” และไม่เคยเจอสถานการณ์แบบนี้มาก่อน เรื่องราวของเขาไม่เพียงแต่สร้างคำถามที่จี้ใจว่า รายได้เท่านี้พอใช้หรือไม่? แต่ยังสะท้อนภาพวิกฤตเศรษฐกิจที่ส่งผลกระทบต่อทุกคน และการต่อสู้ของคนเป็นหัวหน้าครอบครัวที่ต้องเผชิญเสียงวิจารณ์จากสังคม
ปีที่สาหัสที่สุดในรอบ 20 ปี ของ “บอย พิษณุ”
“ทำไมปีนี้มันโคตรแย่เลยวะ” บอย พิษณุ เปิดฉากความรู้สึกอย่างตรงไปตรงมา ก่อนจะขยายความถึงสถานการณ์ที่ไม่เคยเจอมาก่อนตลอดชีวิตการทำงาน 20 ปี “ละครไม่มี ไม่ได้เล่นมา 5 ปีแล้ว” แม้จะเข้าใจธรรมชาติของวงการที่มีขึ้นมีลง แต่ครั้งนี้แตกต่างออกไป “ครั้งเนี้ย…แม่งลากยาวมาครึ่งปีแล้วเนี่ย 6 เดือน”
จุดที่ทำให้หลายคนตกใจที่สุด คือการเปิดเผยตัวเลขรายได้ล่าสุด “งานน้อยมาก จากแบบเดือนนึงแบบดีอ่ะ เหลือแบบเดือนที่แล้ว 35,000 ทั้งเดือนเลยนะ มีอยู่ 2 งานทั้งเดือน” ตัวเลขดังกล่าวทำให้เขาต้องกลับมาทบทวนชีวิตอย่างจริงจัง “มันก็วูบดิ ก็แบบกูทำไงเนี่ย ชีวิตแม่งต้องขยับตัวอะไรหรือเปล่าวะ”
ภาระหัวหน้าครอบครัว สวนกระแสเกรียนคีย์บอร์ด
ในฐานะ หัวหน้าครอบครัว ที่มีคนต้องดูแลมากมาย แรงกดดันถาโถมเข้ามาทุกทิศทาง แต่สิ่งที่บั่นทอนจิตใจไม่แพ้กันคือเสียงวิจารณ์จากชาวเน็ต หลังจากข่าวเรื่องรายได้หดถูกเผยแพร่ออกไป
“เราก็ดันเข้าไปดูในคอมเมนต์…แล้วมันก็จะมีข้อความที่แบบซ้ำเติมอ่ะ” บอยยกตัวอย่างคอมเมนต์สุดเจ็บปวด เช่น “เป็นไงล่ะมึง ไอ้บอยเอามาบ่นทำไม มึงรู้มั้ยว่ารากหญ้าเนี่ยเค้าลำบากกว่ามึงตั้งเยอะ” หรือ “เมื่อก่อนกินอยู่หรูอยู่สบาย บ้านตั้งใหญ่โตขับรถยุโรป ตอนนี้จะมาบ่น”
บอยยืนยันว่าเขาไม่ได้บ่น เพียงแค่ตอบคำถามตามความเป็นจริง แต่กลับถูกสังคมตัดสินไปแล้ว “ทำไมคนประเภทนี้มันยังมีอยู่จริงเหรอวะ…แค่เราอยากให้โพสต์เนี้ย มันเป็นโพสต์ให้ไปสะกิดนิดนึงก็ดีว่า ไอ้คนล้มอยากข้ามมันต้องกระทืบซ้ำใช่มั้ยถึงจะสะใจ” เขากล่าวพร้อมตั้งคำถามถึงสังคม “บางทีคนที่คุณพูดถึงอ่ะ เค้าก็มีความรู้สึกเหมือนกันไง มีจิตใจเหมือนกันต้องดูแล มีลูกนะ”
ภาพลักษณ์หรูหราที่สวนทางความจริง
บอยยังได้ชี้แจงถึงภาพลักษณ์ที่หลายคนมองว่าเขาใช้ชีวิตฟุ้งเฟ้อ “ไม่เคยเลย…กูอ่ะเริ่มมาจากศูนย์ไงครับ ลำบากมาจนถึงอายุ 27” เขายืนยันว่าตนเองเก็บเงินและเปลี่ยนเป็นสินทรัพย์อย่างอสังหาริมทรัพย์มาโดยตลอด การเปลี่ยนรถทุก 4 ปีก็เพื่อเหตุผลทางภาษี และตั้งแต่มีลูกก็เลิกซื้อของแบรนด์เนมโดยสิ้นเชิง “ทั้งชีวิตซื้อแบรนด์เนมไปไม่เกิน 200,000 บาท” ซึ่งถือว่าน้อยมากสำหรับคนในวงการ
ก้าวใหม่สู่บทบาท “พ่อค้าขายปลา”
ท่ามกลางวิกฤต บอยไม่ได้นิ่งเฉย เขากำลังปรับตัวและมองหาเส้นทางอาชีพใหม่เพื่อความอยู่รอดของครอบครัว “ตอนนี้กำลังคุย ๆ อยู่ กำลังจะเป็นพ่อค้าขายปลา ขายปลาแซลมอน” เขาเผยถึงแผนธุรกิจใหม่ที่ได้ดูสถานที่และคอนเซ็ปต์ไว้เรียบร้อยแล้ว ซึ่งเป็นการพิสูจน์ว่าแม้จะต้องเผชิญกับความล้มเหลวจากการไปแคสต์งาน หรือยอดวิว YouTube ที่ตกลง แต่เขาก็พร้อมจะสู้ต่อในบทบาทใหม่
ท้ายที่สุด แม้แววตาของบอยจะดูเหนื่อยล้า แต่เขาก็ไม่ได้สิ้นหวัง เขาเพียงต้องการสะท้อนความจริงว่า “ทุกคนแม่งเหนื่อยหมด” และเรื่องราวของเขาก็เป็นเพียงหนึ่งในเสียงสะท้อนของคนไทยที่กำลังดิ้นรนต่อสู้ในยุคที่เศรษฐกิจซบเซา เพื่อรอวันที่จะกลับมายืนได้อย่างแข็งแกร่งอีกครั้งในฐานะ บอย พิษณุ คนใหม่ ที่กำลังจะก้าวสู่บทบาทพ่อค้าในเร็ว ๆ นี้
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- แฉ โรงเรียนดัง ตุ๋นค่าเทอม ออกวุฒิปลอม นักเรียนกว่า 50 ชีวิตอนาคตพัง
- บอย ภิษณุ ตอบแล้ว ใช่ “ดาราชายเลิกเมีย” หรือไม่? หลังคนสังเกต ไร้รูปคู่ในโซเชียล
- บอย ปกรณ์ ทำบุญปล่อยปลา ขอ 3 ตัวตรงแม่ หน่อง ใบ้เลขเด็ดงวดนี้ เห็นชัดมาก
ขอขอบคุณข้อมูลจาก : Youtube/Nickynachat
ติดตาม The Thaiger บน Google News:
ข่าวล่าสุด
