ข่าวต่างประเทศ

ซาร์ โสกา จวก ไทย เล่นละครตบตา ลั่น เขมรจนกว่า แต่มีศักดิ์ศรีมากกว่า

นายซาร์ โสกา วิจารณ์ไทยกรณีปะทะชายแดน กล่าวหาว่าไทยบิดเบือนความจริง และเล่นละครตบตา เพื่อปกปิดปัญหาภายในประเทศ พร้อมเรียกร้องให้ไทยเปิดด่านชายแดนอย่างไม่มีเงื่อนไข ลั่นแม้เขมรจนกว่า แต่มีศักดิ์ศรีมากกว่าไทย

(วันที่ 26 มิถุนายน 2568) สำนักข่าว KHMER TIMES รายงานว่า นายซาร์ โสกา รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยกัมพูชา ออกมาแถลงการณ์ตั้งแต่เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน ที่ผ่านมา วิจารณ์ประเทศไทยอย่างรุนแรงต่อกรณีการจัดการปัญหาหลังเหตุปะทะชายแดนที่ทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิตเมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม ที่ผ่านมา โดยกล่าวหาว่าฝ่ายไทย ทั้งรัฐบาล กองทัพ และฝ่ายค้าน กำลังร่วมกันบิดเบือนข้อเท็จจริงและ เล่นละครตบตา ประชาคมโลก เพื่อปกปิดความล้มเหลว และปัญหาความไร้เสถียรภาพทางการเมืองภายในประเทศของตนเอง

นายซาร์ ระบุว่า นับตั้งแต่เกิดเหตุยิงทหารกัมพูชาเสียชีวิตที่บริเวณพื้นที่มอมเบย (ช่องบก) จ.พระวิหาร ทั้งรัฐบาล กองทัพ และแม้กระทั่งพรรคฝ่ายค้านของไทย ได้จงใจบิดเบือนข้อเท็จจริง และสร้างความสับสนมาโดยตลอด “แทนที่จะยอมรับความจริง พวกเขากลับจัดฉากการแสดงขึ้นมา วางตัวเป็นผู้ถูกกระทำ และพยายามวาดภาพให้กัมพูชาเป็นผู้รุกราน”

ซาร์ โสกา วิจารณ์ไทย
ภาพจาก: FB/ Sar Sokha

นายซาร์ กล่าวอีกว่า “พวกเขาอ้างว่าเปิดพรมแดนแล้ว แต่ในความเป็นจริง การเข้า-ออกยังคงถูกจำกัด มันคือกลอุบายแบบละครที่มุ่งหวังผลต่อภาพลักษณ์ในเวทีโลก มากกว่าการแก้ปัญหาอย่างแท้จริง”

นายซาร์ ยังได้ท้าทายคำกล่าวอ้างของไทยเรื่องการเปิดด่าน โดยเรียกมันว่าเป็นความไม่จริงใจ “การเปิดประตูแต่ไม่ให้คนข้าม ไม่ใช่ท่าทีของความปรารถนาดี แต่มันคือกลยุทธ์ของการหลอกลวง” พร้อมกันนี้ เขาได้เรียกร้องว่าหากประเทศไทยมีความจริงใจ ก็จะต้องออกประกาศต่อสาธารณะอย่างเป็นทางการเพื่อแจ้งให้กัมพูชาและประชาคมโลกทราบว่า ไทยได้เปิดจุดผ่านแดนที่ตนเองสั่งปิดไปฝ่ายเดียวอย่างสมบูรณ์และไม่มีเงื่อนไขใด ๆ

นายซาร์ ย้ำว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้เป็นเรื่องเฉพาะจุด แต่กล่าวหาว่าไทยได้ขยายการกระทำยั่วยุไปตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา “ประวัติศาสตร์อันขมขื่นระหว่างกัมพูชาและไทยเป็นที่จดจำกันดี” แม้กัมพูชาอาจจะยากจนกว่า แต่เรายึดมั่นในศักดิ์ศรี ประเทศไทยอาจไม่รู้จักสงคราม แต่กัมพูชาเหนื่อยล้าจากมันมามากแล้ว

นายซาร์ เรียกร้องให้มีการเคารพซึ่งกันและกัน และความร่วมมืออย่างเท่าเทียม ภายใต้การชี้นำของกฎหมายระหว่างประเทศ, พร้อมย้ำว่ากัมพูชาภายใต้การนำของ สมเด็จฯ ฮุน มาเนต โดยสืบทอดเจตนารมณ์ของอดีตกษัตริย์สีหนุ และสมเด็จฯ ฮุน เซน ให้ความสำคัญกับสันติภาพ และศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์เป็นอันดับแรก

ติดตาม The Thaiger บน Google News:

0 0 โหวต
Article Rating
สมัครรับข้อมูล
แจ้งเตือนเกี่ยวกับ
0 Comments
เก่าแก่ที่สุด
ใหม่ล่าสุด ถูกโหวตมากที่สุด
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to top button
0
เราอยากทราบความคิดเห็นของคุณ โปรดแสดงความคิดเห็นx