“จตุพร” โต้ “ฮุนเซน” ไม่ใช่ผู้ลี้ภัย ไม่เคยคิดจะหนี แต่ “ทักษิณ” บอกให้ไป

จตุพร ยอมรับเคยได้รับการดูแลจริง โต้ ฮุนเซน ไม่ใช่ผู้ลี้ภัย ไม่เคยคิดจะหนี แต่ ทักษิณ บอกให้ไปเจอ เล่าย้อนวันนั้นมีคนบอกว่าจะถูกฆ่า
จากกรณีที่ สมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภาองคมนตรี-อดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ได้กล่าวถึงนาย จตุพร พรหมพันธุ์ อดีตประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ ว่าให้อ่อนน้อมถ่อมตน พร้อมย้ำว่าตนเคยให้ที่ลี้ภัยมาก่อน เคยให้อาหาร เลี้ยงดูปูเสื่อนั้น
ล่าสุดนายจตุพร กล่าวในรายการในประเทศไทยต้องมาก่อน ในชื่อต่อ “ไม่ได้ใจ” ถึงประเด็นดังกล่าวว่า ตนไม่ใช่ผู้ลี้ภัยและไม่เคยหนี แม้จะมี ฮ.เขมรรอรับชายแดน แต่ที่ไปพบฮุนเซน เพราะทักษิณบอกให้ไป
ที่มีข้อความจากสมเด็จฮุนเซน ได้พูดถึงตนและคุณสนธิ โดยเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับตน หลังจากนั้นก็รับโทรศัพท์จากผู้สื่อข่าวไม่หวาดไม่ไหว วันนี้ก็มาสัมภาษณ์ทั้งทางโทรศัพท์ พรุ่งนี้รายการก็แทบจะเต็มวัน
ตนต้องเล่าเรื่องราวที่ตนกับฮุนเซน ในนายพล ฮุน มาเนต และบรรดามิตรที่ดีงามในซีกของกัมพูชา เดินมาถึงจุดนี้ถ้าเรามีความเข้าใจ ว่าระหว่างความสัมพันธ์ส่วนตัวและผลประโยชน์ของประเทศชาติ โดยเฉพาะเรื่องดินแดน ถ้าเราไม่สามารถแยกกันได้ ตนก็เหมือนคนขายชาติ ซีกของกัมพูชาก็เช่นกัน ที่สมเด็จฮุนเซน และฮุนมาเนต ได้แสดงออกนั้น มันก็คือเรื่องของชาติบ้านเมือง เราต้องแยกย้ายเรื่องส่วนตัวออกจากกันให้ได้
กัมพูชาเค้าก็รักชาติของเค้า ตนเป็นคนไทยก็มีหน้าที่รักชาติบ้านเมือง และเราในเรื่องส่วนตัวนั้นก็เป็นเรื่องที่ดำรงอยู่ เพียงแต่ว่าเรื่องชาติบ้านเมือง ต้องเป็นเรื่องหลัก คือทุกเรื่องมนุษย์เราคุยกันได้ทั้งหมดดีงามกันได้ทั้งหมด แต่ยกเว้นเรื่องแผ่นดิน สุดยอดของตำราพิชัยสงคราม สุดยอดของการรบ เป็นที่ทราบกันดีว่าก็คือไม่รบ แต่ว่าจะต้องไม่มีใครสูญเสีย ดินแดนหรือผลประโยชน์อื่นใดของชาติ
แน่นอนที่สุดตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาตนก็ยืนยันอย่างนั้น หลายคนก็ได้ตั้งคำถามเรื่องกรณีผู้ลี้ภัย ที่สมเด็จฮุนเซนพูดเรื่องผู้ลี้ภัยคนเสื้อแดงไปกัมพูชา เป็นเรื่องที่มีอยู่จริง และดำรงอยู่จริง ได้รับการดูแลมีอยู่จริง แต่ตนไม่ใช่ผู้ลี้ภัย หลังจากเกิดเหตุการณ์ แน่นอนใครก็คิดว่าตนรอดยาก ยังไงก็ต้องโดนฆ่าแน่นอน ซึ่งเวลานั้นตนเป็น สส. และก็ยังไม่ถูกคุมขัง หลังจากเหตุการณ์ได้มีการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ตนก็ทำหน้าที่อภิปราย สื่อมวลชนก็มาถ่ายภาพกันเต็มไปหมด เพราะคิดว่าหลังจากนั้นตนจะต้องหลบหนี คุณทักษิณก็เสนอให้หลบหนี ตนบอกว่าถ้าตนหลบหนีไป ก็จะกระทบกระเทือนจิตใจ โดยเฉพาะญาติคนตายและผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ หรือ คนที่ถูกคุมขัง ใครจะอยู่ทวงความยุติธรรมให้เขา และเราเมื่อเป็นผู้นำเขา เราต้องรับผิดชอบแม้ว่าจะต้องสุ่มเสี่ยง
วันที่อภิปรายปรากฏก็มีคนบอกว่ารองอธิบดีดีเอสไอ คนหนึ่งบอกว่าการข่าวของเค้าว่าให้ตนรีบหนี ไม่งั้นจะถูกฆ่า ตนอภิปรายเสร็จก็สับขาหลอกกันนิดหน่อย ทุกคนคงคิดว่าตนคงไปแล้ว แต่รุ่งเช้าตนก็มาในการประชุมสภาและไม่เคยหลบหนี มิหนำซ้ำ ตนยังถูกยื่นถอนประกันทุกสัปดาห์
แต่สิ่งหนึ่งที่ตนได้ทราบเรื่องมิตรไมตรี เพราะว่ามีคนทำหน้าที่ประสานทางฝั่งกัมพูชาว่าเค้าเตรียมเฮลิคอปเตอร์ไว้ที่ชายแดนทุกครั้งที่มีการยื่นถอนประกันตัว ซึ่งการถอนประกันตัวก็ทำทุกสัปดาห์ ตนก็ไม่เคยใช้บริการ เพราะไม่เคยคิดจะหนี แต่รู้ว่าอยู่ด้วยความยากลำบากไม่รู้ว่าวันไหน แต่ว่าภาระหน้าที่เรา เมื่อเราเป็นผู้นำคนเราต้องอยู่ด้วยความรับผิดชอบ จะผิดจะถูก ตนพูดอยู่เสมอว่าไม่มีใครผิดร้อยเปอร์เซ็นต์ เพียงแต่ว่าในขณะนั้น เราไม่ได้เจอคำสารภาพของคุณทักษิณ สิ่งเหล่านี้ก็เกิดขึ้นหลังจากนั้น ถ้าเขามาสารภาพแบบยื่นถวายฎีกา เหตุการณ์แบบปี 2553 ก็คงไม่ต้องขึ้น ไม่มีคนตายไม่มีคนเจ็บ ไม่มีคนสูญสิ้นอิสรภาพ คดียังยาวเป็นหางว่าวอยู่ในขณะนี้
ตนก็ไม่คาดคิดว่าวันหนึ่งตระกูลชินวัตรเป็นนายกรัฐมนตรี จะมีปัญหาเรื่องดินแดน หลังจากตนมีปัญหากับคุณทักษิณและแยกทางกันแบบเด็ดขาด ตนก็แทบจะห่างกันพอสมควร แต่บางคนก็พยายามติดต่อพูดคุยกันบ้างเป็นระยะๆ สมเด็จฮุนเซน ก็เรียกผมไอ้น้องชาย น้องชายทุกคำ ก็เป็นอย่างนี้
ที่เล่าให้ฟังเพื่อจะบอกว่าเราเป็นคนไทย ฮุนเซนเป็นคนกัมพูชา เราแต่ละชาติ จะไปรักชาติอื่นมากกว่าชาติเราไม่ได้ ความรักในฐานะมนุษยชาติมันพึงจะรักกันได้ ยกเว้นเรื่องดินแดน อำนาจอธิปไตยในเรื่องนั้นๆ นี่เป็นจุดยืนของบรรดานักต่อสู้ทั้งหลาย ตนยืนยันว่าตนไม่เคยอยู่ในฐานะผู้ลี้ภัย ความจริงไม่ใช่แค่กัมพูชาที่ติดต่อมาให้ไปอยู่ ณ ขณะนั้น แต่ตนเลือกเสี่ยงตายอยู่ในประเทศไทย
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- สุดเดือด ฮุนเซน ซัด “สนธิ” อย่าจองหอง-ดูถูกกัมพูชา เตือน “จตุพร” ใจเย็น
- ฮุนเซน ลั่นวาจา หากไทยไม่เปิดด่านวันนี้ กัมพูชาจะปิดชายแดน-แบนสินค้าไทย
- ลีน่าจัง บุกชายแดนกัมพูชา ด่ากราด “ฮุนเซน-ฮุนมาเนต” อย่าโลภมาก
ติดตาม The Thaiger บน Google News: