
ประวัติ ไอซ์ซึ ณัฐรัตน์ นพรัตยาภรณ์ นักแสดงจอมทุ่มเท สายเมธอด จากรันเวย์นายแบบ สู่ดาวเด่นจอแก้ว ลงทุนสวมบทตัวละคร สมค่าทุกบทบาท
ไอซ์ซึ ณัฐรัตน์ นพรัตยาภรณ์ กับบท สันติ แซ่ลี หนุ่มดอยสุดระห่ำ บ้าดีเดือดสร้างธุรกิจขนส่ง จนกลายเป็นยูนิคอร์น ซีรีส์น้ำดีจาก Netflix ที่ทำให้ชื่อของ ไอซ์ซึ กลับมาพูดถึงในวงกว้างอีกครั้ง น่าเสียดายที่ความหล่อสไตล์เกาหลีพิมพ์นิยม กับฝีมือการแสดงที่เรียกว่าขั้นเทพ หลายคนยังไม่รู้จักเขา
ทีมข่าวบันเทิงไทยเกอร์ ขออุทิศบทความนี้ พาไปเจาะเบื้องหลังความมุ่งมั่น ที่ทำให้ไอซ์ซึสร้างสรรค์ชีวิตตัวละครขึ้นมาบนหน้าจอได้อย่างมหัศจรรย์ เปลี่ยนจากจุดสูงสุดของอาชีพนายแบบอินเตอร์มาเริ่มใหม่ในฐานะนักแสดงที่เลือกบทท้าทาย บอกถึงการค้นหาความหมายในการแสดงที่ลึกซึ้งกว่าชื่อเสียง เขาไม่ได้เลือกทางสบาย แต่เลือกตอบสนอง “ความกระหาย” ในศิลปะการแสดงอย่างแท้จริง

ประวัติ ไอซ์ซึ ณัฐรัตน์ นพรัตยาภรณ์ เริ่มต้นจากนายแบบ
- ชื่อเล่น : ไอซ์ซึ
- ชื่อจริง : ณัฐรัตน์ นพรัตยาภรณ์
- เกิดเมื่อ : 22 มกราคม 2534
- อายุ : 34 ปี
- สูง : 183 ซม.
- IG : ice2nfc
หลังเรียนจบจากโรงเรียนเทพศิรินทร์ ต่อปริญญาตรีคณะรัฐศาสตร์ สาขาการเมืองการปกครอง มหาวิทยาลัยรามคำแหง แม้จะดูไม่เกี่ยวกับการแสดงโดยตรง แต่การเรียนรัฐศาสตร์ที่ต้องวิเคราะห์โครงสร้างสังคม แรงจูงใจของมนุษย์ ก็อาจเสริมความเข้าใจในความซับซ้อนของตัวละครที่ไอซ์ซึรับบทบาทในอนาคตได้
เส้นทางในวงการ เปิดฉากด้วยอาชีพนายแบบในไทย ตอนอายุ 19 ปี ด้วยรูปลักษณ์โดดเด่น ทำให้มีชื่อเสียงในวงการแฟชั่นอย่างรวดเร็ว แต่ด้วยความทะเยอทะยาน ไอซซึตัดสินใจไปเดินแบบที่เกาหลีใต้ สร้างประวัติศาสตร์เป็นนายแบบชายไทยคนแรกและคนเดียวที่ได้เดินบนรันเวย์แดนโสม
ที่เกาหลีใต้ ไอซ์ซึได้ร่วมงานกับ Agency Garten มีผลงานถ่ายแบบให้นิตยสารดังระดับโลกอย่าง GQ, Esquire, MAPS, Men’s Health รวมถึงเป็นพรีเซนเตอร์ให้ Samsung, Tommy Hilfiger, และ Adidas ประสบการณ์ในวงการแฟชั่นเกาหลีที่ขึ้นชื่อเรื่องความเป็นมืออาชีพและวินัยสูง หล่อหลอมทัศนคติการทำงานที่จริงจังให้เขา
แม้ประสบความสำเร็จในฐานะนายแบบที่เกาหลีใต้ ไอซ์ซึกลับรู้สึก “อิ่มตัว” เขาอยากหาความท้าทายใหม่ๆ พร้อมกันนั้นได้เริ่มหลงใหลในศิลปะการแสดง จึงตัดสินใจกลับไทยเพื่อเป็นนักแสดงเต็มตัว
ไอซ์ซึเซ็นสัญญากับค่าย GTH (ปัจจุบันคือ GDH) เริ่มต้นด้วยบท “พี่ไอติม” ในซีรีส์ มาลี เพื่อนรัก..พลังพิสดาร (2558) ที่หลายคนจำได้ ก่อนจะรับบทนำครั้งแรกในซีรีส์ แก๊สโซฮัก..รักเต็มถัง (2559) ในบท “ปุณ” การเริ่มจากบทสมทบแล้วค่อยๆ ก้าวขึ้นมารับบทนำ เป็นการพิสูจน์ฝีมือโดยไม่ได้อาศัยสถานะ “นายแบบอินเตอร์” เป็นทางลัด

ผลงานการแสดงที่น่าจดจำ
ตลอดอาชีพนักแสดง ไอซ์ซึ ณัฐรัตน์ ฝากผลงานน่าประทับใจไว้มากมาย เช่น ซีรีส์ ไดอารี่ตุ๊ดซี่ส์ เดอะซีรีส์, VOICE สัมผัสเสียงมรณะ, One Year 365 วัน บ้านฉัน บ้านเธอ, ภาพยนตร์ วันสุดท้าย..ก่อนบายเธอ (One for the Road), ซีรีส์ DELETE, และล่าสุดที่ฮือฮามากคือซีรีส์ สงครามส่งด่วน (Mad Unicorn)
ภาพยนตร์สายล่ารางวัล วันสุดท้าย..ก่อนบายเธอ รับบท “อู๊ด” ผู้ป่วยมะเร็งระยะสุดท้าย เปิดตัวในเทศกาลภาพยนตร์ซันแดนซ์ (Sundance Film Festival) คว้ารางวัล Special Jury Award: Creative Vision มาได้ บทบาทเดียวกันนี้ยังทำให้ไอซ์ซึได้รับรางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยมจาก 3 เวทีใหญ่ในไทย คือ รางวัลภาพยนตร์แห่งชาติ สุพรรณหงส์ ครั้งที่ 31, รางวัลสมาคมผู้กำกับภาพยนตร์ไทย, และรางวัลชมรมวิจารณ์บันเทิง ครั้งที่ 31
ซีรีส์ DELETE ก็ส่งให้ไอซ์ซึคว้ารางวัลนาฏราช ครั้งที่ 15 สาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยม ประเภทละครและซีรีส์บนแพลตฟอร์มออนไลน์
นักแสดงสายเมธอด ทุ่มเทเปลี่ยนแรงร่างกายแบบบพลิกขั้ว เพื่อเข้าถึงตัวละคร
บท “ปุณ” เด็กปั๊มชาวลาหู่ ใน แก๊สโซฮัก..รักเต็มถัง ไอซ์ซึถึงกับลงทุนไปอยู่บนภูเขา ทำงานเป็นเด็กปั๊มจริงๆ เพื่อเข้าใจชีวิตตัวละคร ไปเชียงใหม่เพื่อศึกษาภาษาและวัฒนธรรมลาหู่ สัมภาษณ์เด็กๆ ชาวลาหู่เพื่อเรียนรู้สำเนียงการพูด
ไอซ์ซึต้องลดน้ำหนักถึง 14 กิโลกรัมภายในเดือนครึ่ง เพื่อรับบทนักเขียนการ์ตูนจิตหลุดใน The Collector คนประกอบผี เขาวางแผนลดน้ำหนักอย่างเคร่งครัด เช่น ตั้งเป้าลด 1 กิโลกรัมทุกๆ 3 วัน ช่วงนั้นแทบไม่มองกระจกเลย เพื่อให้เข้าถึงความรู้สึกของตัวละครที่ไม่มั่นใจในตัวเอง แถมยังไปเรียนวาดการ์ตูนแถววัดพระแก้วอีกด้วย
วันสุดท้าย..ก่อนบายเธอ ในฐานะตัวละคร อู๊ด ผู้ป่วยมะเร็ง ไอซ์ซึเริ่มด้วยการโกนหัว จากนั้นศึกษาข้อมูลผู้ป่วยมะเร็งอย่างละเอียด ไปโรงพยาบาลรามาธิบดีและจุฬาฯ เพื่อสังเกตอาการ ความสัมพันธ์ของผู้ป่วยกับญาติ ผู้กำกับ บาส นัฐวุฒิ ติดต่อให้รู้จัก คุณลอยด์ สรพล ผู้ป่วยมะเร็งตัวจริงที่เป็นต้นแบบตัวละครอู๊ด ไอซ์ซึได้คุยเรียนรู้รายละเอียดชีวิตผู้ป่วยจากคุณลอยด์โดยตรง ยังเข้าร่วมกิจกรรม “เตรียมตัวตาย” เพื่อเข้าใจสภาวะจิตใจของผู้ที่เผชิญหน้ากับความตาย
สงครามส่งด่วน (Mad Unicorn) สันติ เด็กดอยนักลงทุน ผู้ทะเยอทะยาน ต้องพูดจีนเป็นหลัก ท้าทายที่สุดในชีวิตการแสดงของเขา พระเอกหนุ่มใช้เวลา 2-3 เดือนเรียนภาษาจีนกลางอย่างเข้มข้นกับครูสอนภาษา ปันปัน ชนินธร เพราะต้องการพูดให้เหมือนเจ้าของภาษามากที่สุด ซึ่งผู้กำกับชมว่าเขาไม่เคยพูดบทพลาดเลย
นอกจากเรียนภาษาจีนแล้ว ยังฝึกขี่มอเตอร์ไซค์ผาดโผนด้วยตัวเอง เสนอไอเดียให้ผู้กำกับใส่ฉากยกล้อเข้าไป เดินทางยังไปดอยวาวี เชียงราย เพื่อสังเกตชีวิตผู้คนและเข้าใจที่มาของตัวละครสันติ ด้านร่างกาย เขาอบผิวให้แทน ลดน้ำหนักให้ดูผอมบางเหมือนคนงานเหมือง และคาร์ดิโออย่างหนักเพื่อพลังงานในฉากแอคชั่นตลอดการถ่ายทำ 5 เดือน ใช้ชีวิตตลอดหการถ่ายทำด้วยเงิน 6,000 บาท แถมเหลือด้วย ความทุ่มเทรอบด้านนี้ทำให้ตัวละคร “สันติ” สมจริงจนผู้ชมเชื่อสนิทใจ

ปรัชญาการแสดง เลือกบทที่ใช่ ทำทีละอย่างให้ดีที่สุด
ไอซ์ซึ ณัฐรัตน์ เลือกรับงานทีละโปรเจกต์ เพื่อทุ่มเทเวลา พลังงานทั้งหมดให้กับตัวละครนั้นๆ ทำให้เขาสามารถ “ลงทุน” กับแต่ละบทบาทได้ลึกซึ้ง ทั้งการเตรียมตัวที่ใช้เวลานาน การฟื้นฟูร่างกายจิตใจหลังจบแต่ละเรื่อง
ไอซ์ซึยังให้ความสำคัญกับการทำงานกับทีมงานคุณภาพ เพราะเชื่อว่าสภาพแวดล้อมกับเพื่อนร่วมงานที่ดีจะช่วยผลักดันศักยภาพการถ่ายทอดตัวละครให้ดีที่สุด มีส่วนร่วมในการเล่าเรื่องที่เราอยากเล่า
เขามองว่าการแสดงไม่ใช่แค่ท่องบทหรือแสดงอารมณ์ตามสั่ง แต่คือการเข้าใจทัศนคติ แรงจูงใจ ความต้องการ อุปสรรคของตัวละครนั้นๆ วิธีทำความเข้าใจตัวละครของเขาผสมผสานเทคนิค Outside-In ริ่มจากภายนอกสู่ภายใน และ “nside-Out เริ่มจากภายในสูภายนอก จนเป็นแนวทาง “In & Outside Together” นับเป็นการศึกษาและพัฒนาเทคนิคการแสดงอย่างจริงจัง
เมื่อถามถึงการทำงาน ไอซ์ซึมักตอบอย่างน่าสนใจ ทัศนคติเต็มไปด้วยความถ่อมตน ความกระหายที่จะเรียนรู้เสมอ “ผมไม่ได้เกิดมาเพื่อเป็นนักแสดง แต่ผมมองว่าตัวเองเป็นคนที่อยากจะเป็นนักแสดง” เขามองว่าการแสดงมีหลายชั้น ไม่ใช่แค่ร้องไห้ได้แล้วจะเรียกว่าเก่ง และเขายังรู้สึกว่าต้องเรียนรู้อีกมาก
“นักแสดงที่ดีใช้เวลา 10 ปี แต่นักแสดงที่ยอดเยี่ยมใช้เวลา 30 ปี”
ความทุ่มเทระดับนี้ของไอซ์ซึไม่เพียงสร้างความประทับใจให้คนดู แต่ยังมีส่วนช่วยยกระดับมาตรฐานการแสดงในวงการบันเทิงไทย สร้างแรงบันดาลใจให้นักแสดงรุ่นใหม่เห็นความสำคัญของการเตรียมตัว เส้นทางของเขาจากนายแบบสู่นักแสดงที่เน้น “คราฟต์ตัวละคร” อาจเป็นส่วนหนึ่งของเทรนด์ที่ผู้ชมและวงการให้คุณค่ากับ “ฝีมือ” และ “ความลึก” ของการแสดงมากขึ้น


อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ‘ไอซ์ซึ’ ทุ่มสุดตัว ลดน้ำหนัก 17 กก. เพื่อรับบท ‘อู๊ด’ ใน ‘One for the Road วันสุดท้าย..ก่อนบายเธอ’
- เปิดวาร์ป ลินุกซ์ สงครามส่งด่วน ตัวจริง น่ารัก ตาเฉี่ยวเซ็กซี่ ใจละลาย
- เปิดวาร์ป เจนเย่ จีรนรภัทร เสี่ยวหยู สงครามส่งด่วน สาเหตุทำไมพูดจีนคล่อง
- ตัวจริง ‘ดร.พลัง โลกศิลป์’ รุ่ยเจี๋ย สงครามส่งด่วน พลังเสียงแปดหลอด ด่าไม่เก่งเหมือนซีรีส์
ติดตาม The Thaiger บน Google News: