ข่าว

รถพยาบาลเปิดไฟฉุกเฉิน แต่ไม่เปิดเสียง ต้องหลีกไหม? กูรูตอบเอง

ถกสนั่น รถพยาบาลเปิดไฟฉุกเฉิน แต่ไม่เปิดเสียงไซเรน ต้องหลีกทางให้หรือไม่? กฎหมายชี้ชัด ฝ่าฝืนปรับ 500 บาท อดีต หน.พยาบาล ER ย้ำ แม้รถเปล่าก็อาจรีบไปช่วยชีวิต หรือขนส่งเลือดด่วน

หนึ่งคำถามที่ผู้ใช้รถใช้ถนนหลายคนสงสัย เมื่อพบเห็นรถพยาบาลเปิดสัญญาณไฟฉุกเฉิน แต่ไม่ได้เปิดเสียงไซเรนดังมาแต่ไกล ทำให้ไม่แน่ใจว่าควรจะต้องหลีกทางให้หรือไม่ และรถพยาบาลกำลังอยู่ในภารกิจเร่งด่วนจริงหรือเปล่า วันนี้เราจะมาไขข้อข้องใจในประเด็นนี้ พร้อมทั้งข้อมูลจากผู้มีประสบการณ์ตรงและข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เพื่อความเข้าใจที่ถูกต้องของทุกคนบนท้องถนน

ผู้ใช้ pantip รายหนึ่งตั้งกระทู้สอบถามว่า “ถ้าเจอรถพยาบาล เปิดไฟฉุกเฉิน แต่ไม่เปิดเสียงหวอ ปกติแล้วควรหลีทางให้หรือไม่ ถ้าเจอรถพยาบาล เปิดไฟฉุกเฉิน แต่ไม่เปิดเสียงหวอ ปกติแล้วควรหลีทางให้หรือไม่ เคยสงสัยเหมือนกันว่า เป็น Case อะไรที่ ที่รถพยาบาลเปิดไฟฉุกเฉินอย่างเดียว จากประสบการณ์ส่วนตัวเคยไปส่งเพื่อนขึ้นรถพยาบาล เพื่อย้ายรพ. ไม่ได้ฉุกเฉินอะไร เขาก็เปิดหวอ”

ชาวเน็ตสงสัย รถพยาบาลเปิดไฟฉุกเฉิน แต่ไม่เปิดเสียง หลีกไหม
ภาพจาก : pantip

ส่วนใหญ่แล้วความเห็นของชาวเน็ตไปในทิศทางเดียวกันว่า “ถ้าเห็นรถพยาบาลเปิดไฟฉุกเฉิน ไม่ว่าจะเปิดเสียงไซเรนหรือไม่ก็ตาม จะหลบหลีกทางให้เสมอ” เพราะรถพยาบาลย่อมมีผู้ป่วยหรือกำลังเดินทางไปช่วยเหลือผู้ที่ต้องการการรักษาอย่างเร่งด่วน การเปิดทางให้รถพยาบาลไปถึงที่หมายได้เร็วที่สุด หมายถึงโอกาสในการรักษาได้ทันท่วงที

นอกจากนี้ มีอดีตหัวหน้าพยาบาลแผนกผู้ป่วยฉุกเฉินท่านหนึ่ง แชร์ประสบการณ์ตรง ระบุว่า “คนทั่วไปอาจคิดว่า รถพยาบาลฉุกเฉิน ใช้กรณีที่ต้องส่งตัวผู้ป่วยฉุกเฉินอาการหนักมาก หรือส่งต่อผู้ป่วยเท่านั้น จริงๆแล้ว หลายๆครั้งรถพยาบาลก็วิ่งฉุกเฉินได้แม้ไม่มีผู้ป่วยอยู่บนรถนะครับ(แต่มีทีมแพทย์ หรือพยาบาล) และต้องรีบมากกว่าทุกๆกรณีด้วย คือ วิ่งไปรับผู้ป่วยอาการหนักที่บ้าน หรือที่กำลังประสบอุบัติเหตุอยู่ ซึ่งทุกวินาทีสำคัญมาก ต่อความเป็นความตาย

นอกจากนี้ก็เช่น รพ.เล็ก ๆ ที่ไม่มีเลือดสำรอง ต้องวิ่งรถเปล่าฉุกเฉินเพื่อไปเอาเลือดที่กาชาด เพื่อมาให้คนไข้ที่รอการรักษาเร่งด่วนฉุกเฉินในรพ. เป็นต้น ด้วยความปรารถนาดีและเพื่อความชัดเจน จากอดีตหัวหน้าพยาบาลแผนกผู้ป่วยฉุกเฉินครับ”

ข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการเปิดสัญญาณไฟรถฉุกเฉิน
ภาพจาก : pantip

ทั้งนี้ ตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ. 2522 มาตรา 4 ได้ให้คํานิยามของ ‘รถฉุกเฉิน’ เช่น รถดับเพลิงและรถพยาบาลของราชการบริหารส่วนกลาง ที่ได้รับอนุญาตจากอธิบดีให้ผู้ขับขี่สามารถใช้ไฟสัญญาณแสงวับวาบ ใช้เสียงสัญญาณไซเรน หรือเสียงสัญญาณอย่างอื่นตามที่อธิบดีกําหนดไว้ รวมทั้งหยุดรถหรือจอดรถ ณ ที่ห้ามจอด และ ขับรถเกินอัตราความเร็วที่กําหนดไว้

อีกทั้ง ขับรถผ่านสัญญาณจราจรหรือเครื่องหมายจราจรใด ๆ ที่ให้รถหยุด แต่ต้องลดความเร็วของรถให้ช้าลงตามสมควร และไม่ต้องปฏิบัติตามบทแห่งพระราชบัญญัตินี้หรือข้อบังคับการจราจรเกี่ยวกับช่องเดินรถ ทิศทางของการขับรถหรือการเลี้ยวรถที่กําหนดไว้

ขณะที่คนเดินเท้าหรือผู้ขับขี่ หากเห็นรถฉุกเฉินในขณะปฏิบัติหน้าที่ใช้ไฟสัญญาณแสง วับวาบ หรือได้ยินเสียงสัญญาณไซเรน หรือเสียงสัญญาณอย่างอื่นตามที่อธิบดีกําหนดไว้ต้องให้รถฉุกเฉินผ่านไปก่อนโดยปฏิบัติ ดังนี้

1. คนเดินเท้าต้องหยุดและหลบให้ชิดขอบทาง หรือขึ้นไปบนทางเขตปลอดภัย หรือไหล่ทางที่ใกล้ที่สุด

2. ผู้ขับขี่ต้องหยุดรถหรือจอดรถให้อยู่ชิดขอบทางด้านซ้าย หรือในกรณีที่มีช่องเดินรถประจําทางอยู่ ต้องหยุดรถหรือจอดรถให้อยู่ชิดช่องเดินรถประจําทาง แต่ห้ามหยุดรถหรือจอดทางด้านซ้ายสุดของทางเดินรถในทางร่วมทางแยก

3. สําหรับผู้ขี่หรือควบคุมสัตว์ต้องบังคับสัตว์ให้หยุดชิดทาง แต่ห้ามหยุดในทางร่วมทางแยกในการปฏิบัติตามข้อ 2 และ 3 ผู้ขับขี่และผู้ขี่ต้องรีบกระทําเร็วที่สุดเท่าที่จะทําได้ และต้องใช้ความระมัดระวังตามควรแก่กรณี

หากผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 500 บาท

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

ติดตาม The Thaiger บน Google News:

0 0 โหวต
Article Rating
สมัครรับข้อมูล
แจ้งเตือนเกี่ยวกับ
0 Comments
เก่าแก่ที่สุด
ใหม่ล่าสุด ถูกโหวตมากที่สุด
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

sukanlaya s.

นักเขียนบทความ SEO ประจำเว็บไซต์ The Thaiger จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เชี่ยวชาญงานเขียนประเภท ข่าวกระแสสังคม และบทความไลฟ์สไตล์ ไม่ว่าจะเป็น รีวิวที่เที่ยว เทรนด์แฟชั่นและความงาม พร้อมแนะนำกระแสมาแรง ทันเหตุการณ์ ช่องทางติดต่อ ying@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to top button
0
เราอยากทราบความคิดเห็นของคุณ โปรดแสดงความคิดเห็นx