
ย้อนเส้นทางรัก ‘กระแต อาร์สยาม’ กับ ‘โตชิ จิรทีปต์’ รักมาราธอน ก่อนคุกเข่าขอแต่งงานกลางเวทีคอนเสิร์ต เผยเหตุผลที่ผ่านมาเก็บความสัมพันธ์เงียบ
จากค่ำคืนวันที่ 27 พฤษภาคม 2568 แสนพิเศษ โตชิ จิรทีปต์ ปันธิ คุกเข่าขอ กระแต อาร์สยาม (แตร บุญยะเลี้ยง) แต่งงานบนเวทีคอนเสิร์ต ท่ามกลางแฟนเพลงนับพัน ภาพนี้สร้างความประทับใจทั่วโซเชียลมีเดีย เป็นการเปิดตัวความสัมพันธ์อย่างเป็นทางการ หลังแฟนๆ รอคอยมานับทศวรรษ
วันนี้ทีมข่าวบันเทิงไทยเกอร์ ขอพาไปย้อนเส้นทางรัก โตชิ-กระแต จากเพื่อนร่วมงานบนเวที สู่คู่ชีวิตเคียงข้างกัน
กระแต อาร์สยาม คือนักร้องลูกทุ่งซุปเปอร์สตาร์และนักธุรกิจหญิงเจ้าของแบรนด์เครื่องสำอางพันล้าน ส่วน โตชิ จิรทีปต์ คือแดนเซอร์คู่ใจที่อยู่เคียงข้างกันมาตลอด ร่วมทุกข์สุขกันมายาวนาน
ทั้งคู่เก็บความสัมพันธ์เป็นเรื่องส่วนตัวมานาน การแบ่งปันช่วงเวลานี้กับแฟนๆ เหมือนเป็นการขอบคุณที่เคารพความเป็นส่วนตัวความรักของทั้งคู่ไม่ได้ฉาบฉวย แต่ค่อยๆ ก่อตัวจากความผูกพัน ความเข้าใจ สนับสนุนกันเงียบๆ เบื้องหลังแสงสีกว่าสิบปี นี่คือรักที่สุกงอมพร้อมเริ่มชีวิตคู่

การเต้นเท้าไฟคือกามเทพแผลงศร
ความสัมพันธ์ของกระแตกับโตชิ มาจากความหลงใหลในการเต้นเหมือนกัน กระแตพบโตชิครั้งแรกในคลาสเรียนเต้น กระแตกล่าวว่า “ก็ชอบเต้นเหมือนกัน เขาก็มาเรียนเต้นเหมือนกันแล้วเราก็ไปเรียนเต้นแล้วเจอกัน”
“เห็นเขาเต้นเก่งมาก เราก็เลยอยากได้คนมาเต้นในทีม เราเป็นนักร้อง เราก็อยากมีแดนเซอร์ที่เก่ง มีคุณภาพ ตอนแรกเขาไม่ยอมมา เขาไม่ได้เป็นแดนเซอร์รับงานปกติ คือเขาชอบเต้น แล้วก็ไปเรียนเต้น และก็เป็นนักกีฬาที่เป็นตัวแทนประเทศไทย ไปแข่งที่ต่างประเทศ แ
แล้วเราก็ไปเจอกัน ตอนแรกชวนเขามาเต้น เขาก็ไม่ยอมมา ไม่ได้ว่าง ตอนแรกไม่ได้รู้ว่าที่บ้านเขาทำโรงงานผลิตเครื่องสำอางอะไร ถ้ารู้ตั้งแต่แรก ก็จะจีบตั้งแต่แรก สุดท้ายเขาก็มาเต้นให้ และทุกครั้งที่เขามาเต้น ขึ้นเวทีให้ก็ไม่ได้ค่าตัวนะ”
โตชิ จิรทีปต์ ปันธิ มีโปรไฟล์ไม่ธรรมดา เป็นถึงอดีตนักกีฬาทีมชาติ เคยแข่งระดับโลกที่อเมริกา เป็นนักออกแบบท่าเต้น และศิลปินวง 316 (Three One Six) ช่วงแรกโตชิไม่ได้รับงานเต้นทั่วไป ไม่สนใจเพลงลูกทุ่งมากนัก กระแตเล่าว่าเธอต้อง “บังคับ” ให้เขามาเต้นคู่กัน เพราะไว้ใจเขามาก โดยเฉพาะท่าอุ้มตีลังกา หลังเคยพลาดตกระหว่างแสดง
“จริงๆ เขามาเต้น เพราะเราไปบังคับให้เขามาช่วยเต้น ปกติเขาไม่เต้น เพราะเขาเป็นนักกีฬา” กระแตกล่าว การที่กระแตต้องชวนหรือ “บังคับ” โดยเน้นความไว้ใจ แสดงว่าโตชิไม่ได้เข้ามาเพื่อชื่อเสียง แต่ค่อยๆ เปิดใจให้กระแต ประสบการณ์อุบัติเหตุของกระแต ทำให้เธอต้องการคู่เต้นที่ไว้ใจได้จริงๆ นั่นคือโตชิ ความจำเป็นนี้ทำให้ทั้งคู่ใกล้ชิดกัน
เมื่อเริ่มทำงานร่วมกัน กระแตตั้งใจเรียนเต้นจากโตชิ ส่วนโตชิค่อยๆ เปิดใจช่วยเหลือ ความสัมพันธ์จึงลึกซึ้งขึ้น เคมีและความไว้วางใจระหว่างซ้อมเต้นและการแสดง ได้สานใยรักให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น

รักแท้สิบปี ไม่หวือหวา แต่มั่นคง
กระแตเคยกล่าวไว้ว่า “ก็สิบปีแล้วค่ะคบมานานมาก” ทั้งสองอยู่เคียงข้างกันในทุกช่วงเวลา “อยู่ด้วยกันมาตลอดค่ะ” โตชิเป็นดั่งเงาที่คอยสนับสนุนอยู่ไม่ห่าง แม้จะไม่ได้เปิดเผยต่อสาธารณชนอย่างเป็นทางการ แต่พวกเขาก็ได้ฉลองครบรอบ 11 ปีความสัมพันธ์อย่างหวานชื่นด้วยการรับประทานอาหารค่ำสุดหรูและมอบของขวัญจากแบรนด์ Cartier ให้กันและกันในเดือนกันยายน พ.ศ. 2567
กระแตเล่าเหตุผลที่เลือกไม่เปิดเผยความสัมพันธ์ในช่วงแรกนั้นว่า “ไม่ค่อยได้ได้ออกสื่อเพราะก็ รู้สึกว่ามันอยู่ด้วยกันแล้วมันเป็นเพื่อนเป็นอะไรอย่างเงี้ยก็ไม่ไม่ได้อยากจะแบบเปิดเผยอะไรขนาดนั้น ไม่แน่สองปีหนูอาจจะเลิกกันก็ได้มันเป็นเรื่องของอนาคตรอแต่งค่อยเปิดตัวทีเดียวมันคุยกันแบบนี้”
“เดี๋ยวเลิกเดี๋ยวรักเดี๋ยวเป็นดราม่า อยู่กันเงียบๆแล้วกัน เขาเข้าใจค่ะ”
ในช่วงปี พ.ศ. 2561 รายงานข่าวจาก MGR Online ระบุว่ากระแตเคยให้สัมภาษณ์ถึงความสัมพันธ์กับโตชิว่าเป็นเพียง “พี่น้องกันค่ะ ค่อยๆ ดูกันไปค่ะ” ในขณะนั้นยังกล่าวติดตลกอีกว่า “ตอนนี้ก็คุยหลายๆ คนอยู่ ถ้าไม่มีแล้วก็อาจจะเป็นคนนี้แหละ(หัวเราะ)”
เมื่อมองย้อนกลับไป การเลือกใช้คำว่า “พี่น้อง” หรือการบอกว่ากำลังศึกษาดูใจกับหลายคน จึงเป็นเสมือนเกราะกำบังที่ช่วยให้ความรักของพวกเขาสามารถเติบโตได้อย่างเป็นธรรมชาติ ปราศจากแรงกดดันจากภายนอก รักษาความเป็นส่วนตัวของความสัมพันธ์ที่กำลังก่อตัวอย่างมั่นคง
ส่วนกระแตกับโยชิจะจัดงานแต่งงานกันวันไหนนั้น หากมีอัปเดต ไทยเกอร์จะรายงานให้ทราบต่อไป ขอแสดงความยินดีกับทั้งคู่ให้ครองรักยาวนานด้วยนะ



อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ประวัติ โตชิ จิรทีปต์ ว่าที่เจ้าบ่าวกระแต แดนเซอร์ข้างกาย แชมป์ระดับประเทศ
- กระแต อาร์สยาม ร่ำไห้ ถูกแฟนหนุ่ม “โตชิ” จัดฉากเซอร์ไพรส์ คุกเข่าขอแต่งงาน
- กระแต อาร์สยาม รีวิวที่นั่งเฟิร์สคลาส 4 แสน คือการซื้อเวลา ไม่ใช่แค่ความหรู
ติดตาม The Thaiger บน Google News: