แม่ลูกนั่งในร้าน 1 ชั่วโมงไม่แตะอาหาร เจ้าของร้านสะกิดใจแจ้งตำรวจ สุดท้ายช่วยชีวิตได้

ไหวจากความสงสัยของเจ้าของร้านอาหาร กลายเป็นการช่วยชีวิตแม่ลูกจากการสูญเงินกว่า 1.5 ล้านบาท ให้กับแก๊งมิจฉาชีพออนไลน์
ไม่ได้ระบาดแค่ในไทย เรื่องนี้เป็นไวรัลในเว็บบอร์ดจีน ร้านอาหารแห่งหนึ่งที่เมืองกว่างหยวน มณฑลเสฉวน ประเทศจีน หญิงวัยกลางคนคนหนึ่งพาลูกสาววัยรุ่นเข้ามานั่งในร้าน พร้อมสั่งอาหาร 3 อย่าง แต่ตลอด 1 ชั่วโมงหลังจากอาหารถูกเสิร์ฟ ทั้งสองกลับไม่แม้แต่จะหยิบตะเกียบขึ้นมา แต่นั่งก้มหน้าใช้โทรศัพท์มือถืออย่างเคร่งเครียด
นายหลัว เจ้าของร้าน เปิดเผยว่า เขาเริ่มรู้สึกผิดสังเกต จึงเดินเข้าไปสังเกตการณ์ใกล้ ๆ ก่อนพบว่าแม่กับลูกกำลังสนทนาเกี่ยวกับข้อมูลส่วนตัวสำคัญ เช่น เลขบัญชีธนาคาร รหัสยืนยันจาก SMS และข้อมูลบนแอปธนาคาร โดยเปิดฟังก์ชันแชร์หน้าจอตามคำสั่งในสายโทรศัพท์ที่คุยอยู่
ด้วยความสงสัย เกรงว่าทั้งสองอาจตกเป็นเหยื่อของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ นายหลัวจึงพยายามเตือน แนะนำให้หยุดทำตามปลายสาย แต่เมื่อไม่เป็นผล เขาตัดสินใจแจ้งตำรวจทันทีโดยไม่ให้ทั้งสองรู้ตัว
หลังตำรวจเดินทางมาถึง ตรวจสอบพบว่าทั้งสองกำลังทำตามคำสั่งของผู้ที่อ้างตัวเป็น “คนกลาง” ในธุรกรรมบางอย่าง เพื่อ “คืนเงิน” จากการซื้อขายบัญชีเกมออนไลน์ของลูกสาว แต่แท้จริงแล้วเป็นกลโกงให้โอนเงินให้มิจฉาชีพ เบื้องต้นแม่ได้โอนเงินไปแล้วกว่า 60,000 หยวน ราว 300,000 บาท และเกือบจะโอนอีก 300,000 หยวนหากไม่ถูกขัดจังหวะทันเวลา
ตำรวจจึงเข้ายุติการสนทนาในโทรศัพท์ อธิบายอย่างละเอียดถึงกลโกงของมิจฉาชีพออนไลน์ ก่อนที่แม่และลูกจะตระหนักว่า ตนเองกำลังตกเป็นเหยื่ออย่างเต็มรูปแบบ และสามารถรักษาเงินที่เหลือไว้ได้ทั้งหมด
ข้อมูลจากตำรวจระบุว่า ลูกสาวของผู้เสียหายเริ่มต้นจากการเล่นเกมออนไลน์ ตัดสินใจซื้อขายบัญชีเกมผ่านคนแปลกหน้าในอินเทอร์เน็ต ก่อนถูกแนะนำให้ใช้คนกลางเพื่อความปลอดภัยในการทำธุรกรรม แต่สิ่งที่เกิดขึ้นกลับกลายเป็นการเปิดช่องให้มิจฉาชีพเข้าถึงข้อมูลส่วนตัว และหลอกให้โอนเงินจำนวนมาก
บทเรียนสำคัญ โลกออนไลน์ไม่ปลอดภัย
เจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ได้ออกมาเตือนผู้ปกครองให้ตระหนักถึงความเสี่ยงของโลกออนไลน์ โดยเฉพาะกับเด็กและเยาวชนที่มักใช้เวลาจำนวนมากในเกมและสื่อโซเชียล โดยแนะวิธีป้องกันลูกจากภัยไซเบอร์ เช่น
-
วางกฎเกณฑ์การใช้งานอินเทอร์เน็ตอย่างชัดเจน
-
ตรวจสอบการใช้งานแอปพลิเคชันและเว็บไซต์
-
สอนเด็กให้รู้จักระวังภัยจากคนแปลกหน้า
-
เปิดพื้นที่ให้เด็กกล้าพูดคุยหากพบพฤติกรรมผิดปกติ
-
ติดตั้งโปรแกรมควบคุมเนื้อหาออนไลน์
ก่อหน้านี้ที่ประเทศไทย ก็เคยมีเคสน่ายกย่องคล้ายๆ กัน 1 พฤษภาคม ที่ร้านสาขาตันหยงมัส จ.นราธิวาส พนักงานร้านทอง จับสังเกตว่าลูกค้ามีสีหน้ากังวล ตาแดง เสียงสั่น จึงสอบถามจนทราบว่าเพิ่งถูกโทรหลอกและโอนเงินรอบแรกไปแล้ว นำทองมาขายเพื่อนำเงินไปโอนรอบสอง
พนักงานร้านได้ช่วยปลอบใจ อธิบายถึงพฤติกรรมมิจฉาชีพ พร้อมยับยั้งไม่ให้ลูกค้าโอนเงินอีกรอบสำเร็จ ทราบชื่อบัญชีปลายทางว่า “นายนันธวัช อินพ่วง” ซึ่งร้านได้นำมาเผยแพร่เพื่อเตือนภัยโดยไม่มีเจตนาเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวของผู้เสียหาย
ทางร้านทองได้ชื่นชมทีมงานที่สังเกตความผิดปกติและช่วยเหลือลูกค้าได้ทัน พร้อมฝากเตือนประชาชนว่า หากได้รับสายอ้างเป็นเจ้าหน้าที่หรือข่มขู่ให้โอนเงิน ขออย่าหลงเชื่อโดยเด็ดขาด และควรตั้งสติสอบถามจากหน่วยงานจริงก่อนดำเนินการใด ๆ.
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ศาลฎีกาชี้ขาด ‘บัญชีม้า’ ผิดฐานสนันสนุนฉ้อโกงประชาชน อ้างไม่รู้ก็ไม่รอด
- ยกย่อง ‘ห้างทองริฎวาน’ ลูกค้ามาขายทอง พนง.ไหวพริบดี ช่วยรอดมิจฉาชีพอ้างเป็นตำรวจโทรหลอก
- มีผลวันนี้ กฎหมายใหม่ มีผลวันนี้ กฎหมายใหม่ โดนมิจฉาชีพโกงเงิน ธนาคารป้องกันไม่ดี ต้องร่วมรับผิดชอบ มิจฉาชีพโกงเงิน ธนาคารป้องกันไม่ดี ต้องร่วมรับผิดชอบ
ติดตาม The Thaiger บน Google News: