ศาลอุทธรณ์ คุก 1 เดือน ฝรั่งทำร้ายหมอปาย ภูเก็ต ไม่รอลงอาญา จำเลยหนีหมายจับ เผ่นนอกประเทศแล้ว
นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ นักกฎหมายชื่อดัง โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก อัปเดตคดี พญ.ธารดาว หรือหมอปาย ฟ้องร้องนายเดวิด ชาวสวิตเซอร์แลนด์ เจ้าของปางช้างในภูเก็ต โดยระบุว่า “คดีชาวต่างชาติ ทำร้ายร้ายร่างกายแพทย์หญิง ที่จ.ภูเก็ต วันนี้ ศาลอุทธรณ์ภาค 8 ได้มีคำพิพากษาแล้ว โดยมีคำพิพากษากลับคำพิพากษาศาลแขวงภูเก็ต โดยพิพากษาว่า จำเลย (ชาวต่างชาติ) มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 391 ถือเป็นการกระทำที่ร้ายแรง จำคุก 1 เดือน โดยไม่รอการลงโทษจำคุก
ขอขอบคุณทุกฝ่าย ตั้งแต่พนักงานสอบสวน, อัยการ,ศาล, ทนายความ (คนเดิม) รวมทั้งทนายความจำเลย ที่ต่างได้ทำหน้าที่ของแต่ละฝ่ายอย่างเต็มที่แล้ว เรามิใช่ศัตรูกัน เพียงแต่เราเห็นต่างกันทางข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายเท่านั้น ยินดีกับคุณหมอที่ได้ต่อสู้เรื่องนี้อย่างอดทน และเด็ดเดี่ยว จนได้รับความเป็นธรรม
ผมรับทำคดีนี้ในชั้นอุทธรณ์ ไม่ขอรับค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งค่าเดินทาง,ค่าโดยสารเครื่องบิน ค่าถ่ายเอกสาร รวมทั้งค่าวิชาชีพทนายความ ฯลฯ เพราะเข้าใจความรู้สึกของคุณหมอ,และคนภูเก็ต รวมทั้งคนไทยทุกคนที่มีต่อคดีนี้
ขณะนี้ จำเลย (ชาวต่างชาติ) ได้หนีหมายจับของศาล น่าจะเดินทางออกนอกประเทศแล้ว ขอให้งดการแสดงความเห็นต่อคำพิพากษาของศาล”
ทั้งนี้ ย้อนกลับไปอ่านคำพิพากษาศาลชั้นต้น ศาลแขวงภูเก็ตมีคำพิพากษายกฟ้อง จากคำฟ้องหมอปลายกล่าวหาว่านายเดวิดได้เตะเข้าที่หลังตนและใช้ถ้อยคำหยาบคาย เหตุเกิดบริเวณหน้าวิลล่าหรูริมหาดยามู จ.ภูเก็ต เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2567 คดีนี้มีสองสำนวนรวมพิจารณาเป็นคดีเดียว ได้แก่ สำนวนแรกซึ่งพนักงานอัยการเป็นโจทก์ ยื่นฟ้องในข้อหาทำร้ายร่างกายเล็กน้อยตามมาตรา 391 และสำนวนที่สอง หมอปายฟ้องเองในฐานะโจทก์ร่วม กล่าวว่าการกระทำนั้นทำให้เธอมีอาการป่วยทางจิตเป็น PTSD ตามมาตรา 295
ศาลพิจารณาคลิปวิดีโอหลักฐาน ประกอบคำให้การของหมอปาย รวมถึงพยานแวดล้อมแล้ว เห็นว่าหลักฐานมีความขัดแย้งกันหลายจุด เช่น คลิปไม่ปรากฏภาพการเตะอย่างที่กล่าวอ้าง หมอปายสามารถลุกขึ้นเดินได้ตามปกติหลังเหตุการณ์ และคำให้การของพยานก็ไม่สามารถยืนยันรูปแบบหรือแรงของการเตะได้อย่างชัดเจน ทั้งที่พื้นที่มีแสงสว่างเพียงพอ นอกจากนี้พยานแพทย์ของฝ่ายโจทก์ก็ไม่ได้ตรวจร่างกายผู้เสียหายโดยตรง แต่ดูจากภาพถ่ายซึ่งจำเลยเป็นฝ่ายนำเสนอ และไม่มีพยาบาลผู้ถ่ายภาพมาเบิกความยืนยันต่อศาล
สำหรับข้อกล่าวหาเรื่องหมอปายป่วยเป็นโรค PTSD นั้น ศาลเห็นว่าเหตุการณ์ที่อ้างไม่เข้าข่ายตามเกณฑ์ทางการแพทย์ที่จำเป็นต้องเป็นเหตุการณ์รุนแรงถึงชีวิต หรือมีการล่วงละเมิดร่างกายขั้นร้ายแรง ซึ่งไม่ปรากฏในคดีนี้ อีกทั้งจำเลยยังนำผู้เชี่ยวชาญมาเบิกความหักล้างได้ชัดเจน
สุดท้ายศาลเห็นว่าหลักฐานทั้งหมดของฝ่ายโจทก์ยังมีข้อสงสัยตามสมควร และเมื่อจำเลยให้การปฏิเสธมาตลอด จึงต้องยกประโยชน์แห่งความสงสัยให้จำเลยตามหลักกฎหมายอาญา พิพากษายกฟ้องทั้งสองสำนวน
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ฝรั่งหัวร้อน ปีนเสาไฟแดงภูเก็ต ฉุนรอนานกดเปลี่ยนสัญญาณเอง
- พระไทย โชว์แปลธรรมะ สอนฝรั่ง ด้วย Google Translate จนซึ้งในรสพระธรรม
- หญิงอิสราเอลกร่าง ไม่ยอมถอดรองเท้า ดูถูกประเทศไทย เจ้าตัวชี้แจงแล้ว
ติดตาม The Thaiger บน Google News:
ข่าวล่าสุด
