ข่าว

จ่อแจ้งจับ หมอสมุนไพร ปมลูกสาวร้อง แม่ป่วยมะเร็งถูกพาไปรักษา สุดท้ายสมองตาย

จ่อแจ้งจับ หมอสมุนไพรเถื่อน ปราจีนบุรี ปมลูกสาวร้อง แม่ป่วยมะเร็งสมอง ถูกพาไปรักษา ฉีดยาเข้าหลอดเลือด สุดท้ายเสียชีวิต

วันนี้ 5 พฤษภาคม 2568 ที่อำเภอกบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี นายอำเภอพร้อมเจ้าหน้าที่สาธารณสุขพร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าตรวจสอบสำนักแห่งหนึ่ง หลังมีคนร้องเรียนว่า เปิดรักษาผู้ป่วยโดยไม่ได้รับอนุญาต ด้วยการใช้วิธีให้ดื่มน้ำต้มสมุนไพรจากดอกดาวเรือง ที่น่าตกใจคือ มีการกลั่นยาสมุนไพรแล้ว ฉีดเข้าหลอดเลือดดำ

ชายเจ้าของสำนักยอมรับว่าเขา หมักสมุนไพรใช้เองจริง แต่ปฏิเสธว่าไม่ได้ใช้รักษาคนอื่น

ต่อมา พญ.อรรัตน์ จันทร์เพ็ญ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด ได้เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับชายเจ้าของสำนัก แจ้งข้อหาว่า ผลิต นำเข้า หรือขายผลิตภัณฑ์สมุนไพร และประกอบวิชาชีพเวชกรรมโดยไม่ได้รับอนุญาต

ตำรวจรับเรื่องไว้แล้ว จะเรียกตัวผู้ถูกกล่าวหามาสอบสวน พร้อมดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ลูกสาวเล่า แม่ป่วยมะเร็งสมอง ถูกญาติพาไปรักษาหมอสมุนไพรเถื่อนจนตาย

เรื่องนี้ถูกเปิดเผยหลังมีผู้เสียหายรายหนึ่งแจ้งว่า แม่ของตนป่วยเป็นมะเร็งสมอง แต่มีญาติพาไปรักษาที่สำนักแห่งนี้โดยไม่บอกใคร ไม่นานหลังจากนั้นแม่ก็เสียชีวิต

ลูกสาวเล่าผ่านคลิป TikTok ว่าสูญเสียแม่อันเป็นที่รัก เพราะถูกพาไปรักษากับหมอสมุนไพรเถื่อนโดยพลการ ระบุว่า แม้เวลาจะผ่านไปกว่า 3 เดือน แต่ยังไม่มีใครออกมายอมรับความผิด แถมยังถูกกล่าวหาว่าเป็นต้นเหตุการเสียชีวิตของแม่

ลูกสาวเล่าว่า แม่วัย 61 ปี เริ่มป่วยเมื่อช่วงต้นเดือนพฤศจิกายน 2567 อาการทรุดลงอย่างรวดเร็วจนต้องเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลใน จ.อุตรดิตถ์ แพทย์ตรวจพบว่ามีก้อนเนื้อร้ายจำนวนมากในสมอง ต่อมาต้นเดือนธันวาคม ได้พาแม่มารักษาต่อที่กรุงเทพฯ แต่เนื่องจากติดธุระ จึงฝากแม่ไว้กับน้าสาวเพียง 2 วัน

เมื่อกลับมาอีกครั้ง กลับพบว่า น้าสาวพาแม่เดินทางไปรักษากับหมอสมุนไพรใน อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี อ้างว่ามีคนแนะนำมา เมื่อไปดูสถานที่จริง กลับพบว่าเป็นเพียงบ้านไม้กลางป่า ไม่มีเครื่องมือแพทย์ ไม่มีหมอจริง มีเพียงสามีภรรยาคู่หนึ่งที่อ้างตัวเป็นหมอสมุนไพร ใช้วิธีให้ผู้ป่วยดื่มน้ำต้มดอกดาวเรือง และฉีดยาที่ไม่ทราบแหล่งที่มา

ที่แย่ไปกว่านั้นคือ ยังสั่งห้ามรับประทานยาตามที่แพทย์แผนปัจจุบันสั่งไว้ โดยอ้างว่าเป็นยาสเตียรอยด์

ผ่านไปเพียง 5 วัน แม่ก็หมดสติ ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลในสภาพโคม่า เข้ารับการรักษาในห้องไอซียูอีก 9 วันก่อนที่แพทย์จะยืนยันว่าแม่เสียชีวิตจากอาการสมองตาย

ลูกสาวเล่า แม่ป่วยมะเร็งสมอง ถูกญาติพาไปรักษาหมอสมุนไพรเถื่อนจนตาย

หญิงสาวเจ้าของโพสต์ระบุว่า แม้เหตุการณ์จะผ่านมากว่า 3 เดือนแล้ว แต่กลับไม่มีใครออกมาแสดงความรับผิดชอบ โดยเฉพาะคนที่พาแม่ไปรักษาในสถานที่แบบนั้น กลับไปบอกญาติคนอื่นว่าตนเป็นคนทำให้แม่เสียชีวิต

“ทุกวันนี้หนูไม่ได้ต้องการเงิน ไม่ได้ต้องการดัง แค่อยากให้คนที่เกี่ยวข้องออกมายอมรับสิ่งที่เกิดขึ้น อย่าโยนความผิดให้คนอื่นอีกเลย”

อ้างอิงข้อมูลจากโหนกระแส โหนกระแส เมื่อ 3 พ.ค. 68 ฝ่ายภรรยาของเจ้าของบ้าน ระบุว่า สามีเคยบวชพระนานกว่า 16 พรรษา ช่วงที่บวชแม่สามีกินยาเพื่อที่จะพยายามจบชีวิตตัวเอง พอไปหาหมอ หมอบอกว่ารักษาไม่ทัน กลับบ้านได้เลย สุดท้ายสามีจึงศึกษาเรื่องยาสมุนไพร ได้ทดลองรักษาจนอยู่ต่อได้อีก 20 ปี

หลังจากนั้นสามีก็ศึกษาหาความรู้มาเรื่อย ๆ จนเป็นยากลั่นสมุนไพร ใช้วิธีเดียวกับการกลั่นสุรา เรื่องสมุนไพรที่ใช้รักษา ก็จะแตกต่างกันไปตามอาการป่วย วิธีการให้ยาก็จะฉีดเข้าเส้นเลือดดำ และต้มยาเป็นยาดื่ม ยืนยันว่า การทำแบบนี้ไม่ได้ขออนุญาตจากกระทรวงสาธารณสุข แต่ต้องการช่วยคน ผู้ป่วยส่วนใหญ่ที่มารักษา จะมาจากปากต่อปาก เคยมีคนดัง และข้าราชการมารักษาที่นี่ด้วย

ในอดีตที่แห่งนี้เป็นสถานที่ปฏฺิบัติธรรม ปัจจุบันมีพระสงฆ์อาศัย 2 รูป โดยพระรูปหนึ่ง ให้สัมภาษณ์ว่า ก่อนหน้านี้เคยทำงานที่โรงพิมพ์ ได้รับสารเคมีเข้าสู่ร่างกายจนป่วย พอเป็นพระ ได้ทดลองกินยาสมุนไพรที่อาจารย์คิดค้น อาการจึงเริ่มดีขึ้น แต่ยอมรับว่า ยาสมุนไพรดังกล่าวไม่มีเอกสารรับรอง มีแต่ความเชื่อ

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

ติดตาม The Thaiger บน Google News:

0 0 โหวต
Article Rating
สมัครรับข้อมูล
แจ้งเตือนเกี่ยวกับ
0 Comments
เก่าแก่ที่สุด
ใหม่ล่าสุด ถูกโหวตมากที่สุด
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

Aindravudh

นักเขียนประจำ Thaiger มีประสบการณ์เขียนข่าวมากกว่า 5 ปี จบการศึกษาด้านภาษาและประวัติศาสตร์ จากคณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มีความสนใจ ประเด็นความเคลื่อนไหวทางสังคมและการเมือง เจาะประเด็นข่าวทางสังคม ด้วยกลวิธีการเล่าเรื่องแบบย่อยง่าย อย่างงานเขียนสร้างสรรค์ สั้น กระชับ จับทุกประเด็น หัวข้อที่เชียวชาญคือเรื่องไลฟ์สไตล์ เลขเด็ด หวยรัฐบาลไทย หวยลาว ช่องทางติดต่อ vajara@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to top button
0
เราอยากทราบความคิดเห็นของคุณ โปรดแสดงความคิดเห็นx