พระครูเมืองคอนละเมิดวินัยร้ายแรง แก้ผ้าอาบน้ำสีกา คณะสงฆ์สั่งถอดทุกตำแหน่ง
จากกรณีที่ชาวบ้านในพื้นที่ อ.ร่อนพิบูลย์ จ.นครศรีธรรมราช ได้แฉคลิปหลักฐาน ร้องเอาผิดทางวินัยกับพระครูรูปหนึ่งในพื้นที่ ภาพที่ปรากฏแสดงให้เห็นชายที่แต่งกายเป็นพระสงฆ์ เปลือยกายอยู่ในห้องน้ำ โดยมีสีกาคนหนึ่งช่วยอาบน้ำให้ ท่ามกลางข้อกล่าวหาว่าพฤติกรรมดังกล่าวละเมิดจริยาวัตรอย่างร้ายแรง
พระภิกษุในภาพถูกระบุว่ามีตำแหน่งระดับ “พระสังฆาธิการ” ดำรงตำแหน่งเจ้าคณะตำบล เป็นเจ้าอาวาสวัดในพื้นที่ ต.หินตก อ.ร่อนพิบูลย์ โดยภาพถ่ายถูกบันทึกไว้โดยชาวบ้านซึ่งไม่เปิดเผยตัวตน เนื่องจากเกรงความไม่ปลอดภัย โดยยืนยันว่าได้เฝ้าสังเกตพฤติกรรมของพระรูปนี้มานาน และพยายามรวบรวมหลักฐานร่วมกับชาวบ้านรายอื่น กระทั่งสามารถเข้าไปบันทึกภาพได้ภายในห้องน้ำของวัด
หลังข่าวถึงหูชุมชน หลายเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่า สิ่งที่เสื่อมไม่ใช่ศาสนา แต่คือคนที่แอบแฝงเข้ามาในผ้าเหลืองอย่างไม่เหมาะสม โดยเฉพาะเมื่อบุคคลเหล่านี้ยังดำรงตำแหน่งปกครองในวงการสงฆ์อีกด้วย
หลังภาพถูกเผยแพร่ออกไป พระครูรูปดังกล่าวรับรู้ว่าถูกเปิดโปง มีรายงานว่าได้หลบหนีออกจากวัดทันที เมื่อค่ำวันที่ 18 เมษายน 2568 มีรถกระบะมารับตัวออกจากวัด จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่สามารถติดต่อได้
ด้านพระครูสิริวัณณาภรณ์ เจ้าอาวาสวัดเทพนมเชือด เจ้าคณะอำเภอร่อนพิบูลย์ ได้เปิดเผยว่าทราบเรื่องแล้ว และได้ดำเนินการตามขั้นตอนทางคณะสงฆ์ ด้วยการรายงานไปยังเจ้าคณะจังหวัดนครศรีธรรมราช พร้อมจัดตั้งคณะกรรมการสงฆ์ระดับอำเภอเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง
ผลการตรวจสอบยืนยันว่า พระครูรูปนี้มีความผิดจริงในการละเมิดจริยาธรรมอย่างร้ายแรง โดยมีหลักฐานชัดเจน เป็นเหตุให้ไม่ต้องมีการตั้งคณะกรรมการสอบเพิ่มเติม ทางเจ้าคณะอำเภอจึงเสนอให้ถอดถอนจากทุกตำแหน่ง ซึ่งล่าสุด เจ้าคณะจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้มีคำสั่งให้พระครูรูปนี้พ้นจากทุกตำแหน่งทางสงฆ์ทันที ได้แก่ ตำแหน่งพระสังฆาธิการ เจ้าคณะตำบล เจ้าอาวาส และพระอุปัชฌาย์
สำหรับตำแหน่งเจ้าคณะตำบลที่ว่างลง ขณะนี้ได้มีการแต่งตั้งให้เจ้าอาวาสวัดร่มไทร ต.หินตก รักษาการแทนแล้ว
อาบน้ำกับสีกา ผิดวินัยสงฆ์หรือไม่
ผู้สื่อข่าวไทยเกอร์ได้สอบถามกับนักวิชาการทางพุทธศาสนา ให้ข้อคิดเห็นว่า การที่พระสงฆ์อยู่กับสีกาสองต่อสองแถมในลักษณะเปลือยกาย เข้าข่าย ปาราชิก ข้อที่ 1 ภิกษุใดเสพเมถุน แม้แต่กับสัตว์เพศหญิงมนุษย์ หรือมีความตั้งใจเสพเมถุนจนถึงความล่วงละเมิดจริง ถือว่าเป็นอาบัติปาราชิก ต้องอาบัติหนักที่สุดและพ้นจากความเป็นภิกษุทันที
การที่พระภิกษุเปลือยกายอยู่ในสถานที่ปิดลับกับสีกา และมีการกระทำที่แสดงถึงความใกล้ชิดเกินควร เช่น การให้อาบน้ำให้ อาจเข้าข่าย “ล่วงละเมิดในรูปแบบเมถุน” หากมีการสัมผัสทางกายโดยมีความกำหนัด แม้จะยังไม่ถึงขั้นเสพเมถุนโดยสมบูรณ์ ก็อาจเข้าข่าย อาบัติเสขิ หรือสังฆาทิเสส ขึ้นอยู่กับการไต่สวนข้อเท็จจริงเพิ่มเติม
หากมีการล่วงละเมิดจริงตามหลักฐาน ถือว่า “ต้องอาบัติปาราชิก” ทันที คือ พ้นจากความเป็นภิกษุโดยอัตโนมัติ ไม่ต้องมีคำสั่งถอดถอนจากใคร หากยังไม่ถึงขั้นเมถุนแต่มีลักษณะชู้สาว อาจเข้าข่าย อาบัติสังฆาทิเสส ตามพระวินัยข้อที่เกี่ยวกับการประพฤติเป็นชู้ หรืออยู่กับสตรีสองต่อสองในที่ลับตา
ในพระธรรมวินัย ไม่อนุญาตให้พระภิกษุอยู่กับสตรีตามลำพัง แม้ไม่กระทำการล่วงละเมิด เพราะถือเป็นช่องทางของกิเลสและความเสื่อม
ติดตาม The Thaiger บน Google News:
ข่าวล่าสุด
