ข่าว

ผู้รอดชีวิตเล่าเอง เวลาสำคัญทำอะไร ทำให้หนีไม่ทัน ตึก สตง. ถล่ม

ผู้รอดชีวิตเล่าเอง เวลาสำคัญทำอะไร ทำให้หนีไม่ทัน ตึก สตง. ถล่ม ทุกคนกำลังขึ้นลิฟต์ ชัชชาติ แถลพบสัญญาณคนรอดชีวิต กำลังเร่งหาทางช่วย

คืบหน้าโศกนาฏกรรม “อาคาร สตง.ใหม่” บริเวณถนนกำแพงเพชร 2 เขตจตุจักร ถล่มทั้งหลัง หลังรับแรงสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหวเมียนมา ล่าสุดยอดผู้เสียชีวิตพุ่ง 15 ราย เจ็บ 19 ราย ขณะทีมกู้ภัยยังเร่งขุดค้นหาผู้ที่อาจยังรอดใต้ซาก

ผู้ว่าฯ ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ลงพื้นที่ให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ พร้อมพูดคุยกับกลุ่มแรงงานและวิศวกรผู้รอดชีวิต ได้ข้อมูลสำคัญว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นช่วง 13.30 น. ซึ่งตรงกับเวลาที่แรงงานจำนวนมากกำลังขึ้นลิฟต์ เพื่อขึ้นไปทำงานชั้นบน

หนึ่งในผู้รอดชีวิตเป็น แรงงานหญิงจากจังหวัดน่านและพิษณุโลก เผยนาทีชีวิตว่า กำลังอยู่ที่ชั้น 2 บริเวณลานจอดรถ พอรู้สึกถึงแรงสั่นสะเทือนจึงรีบลงลิฟต์มายังชั้น 1 แต่ระหว่างที่กำลังจะก้าวออก ลิฟต์ก็สั่นสะเทือนอย่างรุนแรง

“หนูรีบวิ่งหนีออกมาได้ทัน โชคดีมาก แต่เพื่อนที่อยู่ชั้น 4 ยังหาไม่เจอเลยค่ะ”

อีกรายเป็นแรงงานชายจาก นครพนม เล่าว่า รอดมาได้เพราะยังอยู่บริเวณลานจอดรถ ยังไม่ทันขึ้นไปบนอาคาร ขณะที่แฟนของแรงงานหญิงอีกคน ไม่สามารถหนีออกมาได้ทัน ยังคงสูญหาย

วิศวกรเครื่องกล ของบริษัทอิตาเลียนไทยฯ ที่อยู่ชั้น 1 ขณะเกิดเหตุ กล่าวว่า แรงสั่นสะเทือนเกิดขึ้นระหว่าง 13.00–14.00 น. ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่มีการขนแรงงานขึ้นอาคารโดยลิฟต์

“คนที่อยู่ชั้น 3–5 หนีลงมาไม่ทัน ส่วนใหญ่ติดอยู่บนอาคาร เพราะกำลังขนคนขึ้นไปทำงานช่วงบ่าย ส่วนคนที่อยู่ล่าง ๆ อย่างลานจอดรถ หนีทันกันเกือบหมด”

ส่วนความคืบหน้าการค้นหาผู้รอดชีวิตเช้าวันที่ 3 เมษายน นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร แถลงข่าวหลังพบสัญญาณชีพของหญิงรายหนึ่งใต้ซากอาคาร บริเวณโพรงบันไดหนีไฟ ระหว่างโซน B ต่อเนื่องโซน C

เมื่อกลางดึกเจ้าหน้าที่ได้ยิน เสียงขอความช่วยเหลือจากหญิงสาว โดยมีอาการอ่อนแรงมาก เจ้าหน้าที่จึงสื่อสารด้วยวิธีให้เคาะตอบรับ 3 ครั้ง และพบว่า มีเสียงเคาะตอบกลับมาตามคำสั่ง

จากการตรวจสอบด้วยเครื่องโซนาร์ พบว่าสัญญาณเสียงอยู่ ลึกประมาณ 3 เมตร จากปลายอุโมงค์ที่เจ้าหน้าที่กำลังขุดเข้าไป

“เรายังไม่หมดหวัง แต่ก็ไม่อยากให้ประชาชนคาดหวัง เพราะสถานการณ์ยังเปราะบาง เราทำงานเต็มที่ และจะพยายามช่วยเธอออกมาให้เร็วที่สุด” ชัชชาติ กล่าว

ทันทีที่พบสัญญาณชีพ ได้มีการสั่งหยุดใช้เครื่องจักรกลหนักตั้งแต่เวลา 00.00 น. ของคืนที่ผ่านมา ไปจนถึงเวลา 13.00 น. ของวันนี้ เพื่อเปิดทางให้ทีมกู้ภัยและอุปกรณ์ขนาดเล็กเข้าไปปฏิบัติการได้อย่างปลอดภัย

อุปสรรคสำคัญในการเข้าถึงผู้รอดชีวิตครั้งนี้ คือคอนกรีตบันไดหนีไฟจำนวน 3 ชั้น น้ำหนักรวมกว่า 60 ตัน ซึ่งเมื่อคืนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่สามารถเคลื่อนย้ายออกได้หมดแล้ว และเร่งใช้มือเปล่าและเครื่องมือเฉพาะขนาดเล็กขุดผ่านโพรงอุโมงค์ที่คาดว่าจะสามารถทะลุไปยังตำแหน่งเป้าหมายได้ โดยมีเหล็กเส้นจำนวนมากขวางอยู่ ซึ่งทีมงานได้ดำเนินการตัดถ่างเรียบร้อยในช่วงเช้า

ผลจากการตรวจจับด้วยเครื่องโซนาร์ พบว่าระยะห่างจากปลายอุโมงค์ที่ขุดไปจนถึงตำแหน่งที่มีสัญญาณเสียงขอความช่วยเหลือ ลึกประมาณ 3 เมตร ซึ่งถือว่าเป็นระยะที่สามารถเข้าถึงได้ภายในเวลาอันใกล้ หากไม่พบอุปสรรคเพิ่มเติม

นายชัชชาติกล่าวว่า ขณะนี้หน่วยกู้ภัยทั้งจากไทยและนานาชาติที่ร่วมปฏิบัติงานในพื้นที่ได้รับกำลังใจมากขึ้นหลังพบสัญญาณดังกล่าว และเร่งปฏิบัติภารกิจอย่างไม่ลดละ พร้อมย้ำว่า “แม้ตนไม่อยากให้สังคมตั้งความหวัง แต่ก็ขอยืนยันว่าเรายังไม่หมดหวัง”

ในตอนท้าย ผู้ว่าฯ ระบุเพิ่มเติมว่าการขุดอุโมงค์เข้าสู่จุดอื่น ๆ ยังคงดำเนินการควบคู่กันไป และมีการพบสัญญาณบางอย่างในจุดอื่นด้วยเช่นกัน จึงยังมีโอกาสในการพบผู้รอดชีวิตรายอื่นเพิ่มเติมในระยะเวลาอันใกล้ หากภารกิจยังดำเนินต่อเนื่องได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

Aindravudh

นักเขียนประจำ Thaiger มีประสบการณ์เขียนข่าวมากกว่า 5 ปี จบการศึกษาด้านภาษาและประวัติศาสตร์ จากคณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มีความสนใจ ประเด็นความเคลื่อนไหวทางสังคมและการเมือง เจาะประเด็นข่าวทางสังคม ด้วยกลวิธีการเล่าเรื่องแบบย่อยง่าย อย่างงานเขียนสร้างสรรค์ สั้น กระชับ จับทุกประเด็น หัวข้อที่เชียวชาญคือเรื่องไลฟ์สไตล์ เลขเด็ด หวยรัฐบาลไทย หวยลาว ช่องทางติดต่อ vajara@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to top button