นายกสั่งด่วน จิราพร ปราบ “บุหรี่ไฟฟ้า” 15 วันต้องรู้ผล เตือนโทษหนักครู-นร.

นายกแพทองธารเอาจริง สั่ง จิราพร 15 วันรายงานผล หลังสั่งคุมเข้มใช้ กฎหมายบุหรี่ไฟฟ้าในสถานศึกษา จับตาโรงเรียน-ครู เด็ก ประกาศบทลงโทษชัด ย้ำผิดกฎหมาย คนขาย-ผู้นำเข้าโดนทุกราย
จากกรณีที่ นางสาว แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว Ing Shinawatra เมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2568 ระบุว่ารัฐบาลได้ตั้งวงประชุม หารือบังคับใช้กฎหมายปราบปรามผู้ผลิตและจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าอย่างเด็ดขาด ร่วมกับกระทรวงศึกษาธิการ และกระทรวงการอุดมศึกษา เพื่อหาแนวทางควบคุมและป้องกันไม่ให้นักเรียน นักศึกษาเข้าถึงยาเสพติดนั้น

ล่าสุด เมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2568 รัฐได้ออกประกาศสำคัญ เรื่อง มาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของบุหรี่ไฟฟ้าในส่วนราชการและหน่วยงานรัฐ โดยมีเนื้อหาระบุว่า นางสาวจิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ จะเป็นผู้รับผิดชอบหลักในการติดตามปัญหานี้ โดยกำชับให้วางบทลงโทษที่เด็ดขาดสำหรับผู้กระทำผิด โดยเฉพาะกลุ่มนักเรียน นักศึกษา ตลอดจนบุคลากรทางการศึกษา ควรให้ความรู้เรื่องยาเสพติดและสิ่งผิดกฎหมายกับนักเรียน และไม่ควรปล่อยให้มีการซื้อ-ขายบุหรี่ไฟฟ้าเกิดขึ้นในสถานศึกษา หากพบเห็นจะมีความผิดและถูกลงโทษทางวินัยด้วย

“ในคราวประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2568 นายกรัฐมนตรีเสนอว่า ตามที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2568 มอบหมายให้รัฐมนตรีประจําสํานักนายกรัฐมนตรี (นางสาวจิราพร สินธุไพร) เป็นเจ้าภาพรับเรื่องการควบคุมการแพร่ระบาดของบุหรี่ไฟฟ้าไปหารือร่วมกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อเร่งรัดติดตามการดําเนินมาตรการต่าง ๆ ให้เหมาะสม ชัดเจน”
“ตลอดถึงการพิจารณาปรับปรุงแก้ไขกฎหมาย กฎ ระเบียบต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการกระทําความผิดอันเนื่องมาจากบุหรี่ไฟฟ้า ให้มีบทลงโทษที่ชัดเจนและรุนแรงมากยิ่งขึ้นกว่าปัจจุบันด้วย แล้วให้รายงานผลการดําเนินการต่อนายกรัฐมนตรี โดยด่วนภายใน 15 วัน นั้น ได้ร่วมประชุมกับรัฐมนตรีประจําสํานักนายกรัฐมนตรี (นางสาวจิราพร สินธุไพร) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และได้กําชับให้เร่งปราบปรามบุหรี่ไฟฟ้าที่แพร่ระบาดอยู่อย่างมาก”
“โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในกลุ่มเยาวชน นักเรียน และนักศึกษา โดยเน้นย้ำให้ดําเนินการจับกุมและลงโทษผู้ผลิต ผู้นําเข้า และผู้ขาย อย่างเด็ดขาดจริงจัง รวมทั้งให้กระทรวงศึกษาธิการเร่งดําเนินการสร้างความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องและชัดเจน แก่นักเรียนนักศึกษาเกี่ยวกับโทษและผลเสียที่เกิดกับผู้ใช้บุหรี่ไฟฟ้าซึ่งอาจจะขยายไปสู่การใช้สารเสพติด ประเภทอื่นที่ร้ายแรงกว่าได้”
“ทั้งนี้ ในช่วงระยะเวลา 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา มีสถิติการจับกุมการกระทําผิดเกี่ยวกับ บุหรี่ไฟฟ้าที่ดีขึ้น โดยมีการดําเนินคดี 1,078 คดี จับกุมผู้ต้องหาได้ 1,104 คน จํานวนของกลาง 900,444 ชิ้น คิดเป็นมูลค่าของกลางจํานวน 118,953,915 บาท นอกจากนี้ กระทรวงศึกษาธิการได้ออกมาตรการควบคุม การแพร่ระบาดของบุหรี่ไฟฟ้าและกําชับให้ผู้บริหาร ครู และบุคลากรทางการศึกษาตระหนักว่าบุหรี่ไฟฟ้า เป็นสิ่งผิดกฎหมาย และหากตรวจพบว่าบุคลากรในสังกัดปล่อยปละละเลยในเรื่องนี้หรือเป็นผู้นําบุหรี่ไฟฟ้า มาใช้จะดําเนินการลงโทษทางวินัยอย่างเด็ดขาด”
“ดังนั้น เพื่อให้การดําเนินการควบคุมการแพร่ระบาด ของบุหรี่ไฟฟ้าเกิดผลอย่างเป็นรูปธรรมในวงกว้าง จึงขอให้ทุกส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐนํามาตรการ ดังกล่าวข้างต้นไปถือปฏิบัติในแนวทางเดียวกันต่อไป โดยให้พิจารณาปรับใช้ให้เหมาะสมและเคร่งครัดด้วย ซึ่งคณะรัฐมนตรีพิจารณาแล้วลงมติเห็นชอบตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอ จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบ และขอได้โปรดดําเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป”
“ขอแสดงความนับถือ (นางณัฐจารี อนันตศิลป์) เลขาธิการคณะรัฐมนตรี กองพัฒนายุทธศาสตร์และติดตามนโยบายพิเศษ
โทร. 0 2280 4000 ต่อ 1735 (ศุทธินี), 1532 (ปัญฑารีย์) โทรสาร 0 2280 1446 www.soc.go.th ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ saraban@soc.go.th”
ภาพจาก : Facebook Drama-addict
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- นายกอิ๊งค์ เดินหน้ากวาดล้างบุหรี่ไฟฟ้าจริงจัง เผยตัวเลขสถิติปราบปราม
- แจ้งจับ บุหรี่ไฟฟ้า ได้รางวัลนำจับด้วยนะ ใครพก ปรับอ่วม 5 พัน
- “บุหรี่ไฟฟ้าซอมบี้” ทำไมระบาด เตือนหนักสุดถึงตาย-คนขายฟันวันละแสน