ข่าวการเมือง

อภิปรายรีรันคลิป “รมต.น้ำ” ประกาศล่าลุงตู่ วิปรัฐบาลงงฝ่ายค้าน โยงซักฟอกนายกฯ นอกญัตติ

อิทธิพล สส.ขอนแก่น พรรคประชาชน เปิดคลิปอภิปรายไม่ไว้วางใจ รมต.น้ำ จิราพร สินธุไพร สมัยซักฟอก พลเอกประยุทธ์ ปี 65 กรณีเหมืองทองอัครา วิปรัฐบาลประท้วงอภิปรายนอกญัตติแบบงงๆ เจอดิจิตอลฟุตปรินต์ไล่ล่าลุงตู่ ฝ่ายค้านทิ้งวรรคทองโยงนายกฯ แพทองธาร ไม่รอดทรยศชาติ คะแนนเสียงประชาชน

เล่นเอาการอภิปรายไม่ไว้วางใจในที่ประชุมรัฐสภา เมื่อช่วงบายที่ผ่านมาของวันนี้ (24 มี.ค.) ลุกฮือประท้วงกันไม่พัก หลังจากที่นายอิทธิพล ชลธราศิริ สส.ขอนแก่น พรรคประชาชน ใช้สิทธิอภิปรายตามมาตรา 151 รัฐธรรมนูญในประเด็น “เหมืองทองอัครา” ที่ไม่อาจไว้วางใจให้ แพทองธาร ชินวัตร ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีต่อไปได้นั้น ด้วยเหตุหลักที่ผู้นำประเทศคนปัจจุบันมีพฤติการณ์โกหกหลอกลวง ไม่ดำเนินตามนโยบายที่ให้ไว้สัญญาไว้กับประชาชน เป็นนั่งร้านช่วยเหลือต่างตอบแทนกลุ่มที่เป็นปฏิปักต์ต่อประชาธิปไตย

นายอิทธิพล ส.ส.ขอนแก่น พรรคปชน.ยังกล่าวถึงสมัยที่พรรคเพื่อไทยเป็นฝ่ายค้านมีการอภิปรายตรวจสอบในประเด็นเหมืองทองอัคราที่สร้างความเสียหายให้กับประเทศชาติ และน.ส.แพทองธาร เคยระบุว่า จะ “ปิดสวิตช์ 3 ป.” แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่เห็นว่า จะปิดจริงหรือไม่ เพราะถ้าจะปิดสวิตช์สามปอจริงจะต้องดำเนินคดีกับพล.อ.ประยุทธ์ แต่ปัจจุบันกลับพบมีเจตนาเป็นนั่งร้านช่วยเหลืออีกฝ่ายให้พ้นจากความผิดที่ทำให้ประเทศไทยอาจต้องเสียค่าโง่เป็นหมื่นล้านจากเรื่องเหมืองทองอัครา

นายอิทธิพลยังชี้ถึงต้นตอรากแก้วของปัญหาทั้งหมดมาจาก “เหตุผลเดียว” คือ เป็นดีลการเมืองจัดตั้งรัฐบาล โดยให้โควตารมต.กับพรรครวมไทยสร้างชาติ เพราะจนถึงขณะนี้ใกล้ครบ 2 ปีแล้วที่พรรคพท. เป็นรัฐบาลยังไม่เห็นการดำเนินการใด ๆ กับเรื่องที่เคยพูดไว้ว่าจะดำเนินคดีกับพล.อ.ประยุทธ์ หรือจะทำให้อดีตผู้นำประเทศรายนี้ต้องออกจากบ้านหลวง ก่อนจะร่ายยาวรายชื่อบุคคลการเมืองฟากฝั่งวิปรัฐบาลที่เคยสวมหัวโขนไล่ล่าผู้นำลายพรางของประเทศชาติแบบปลอมๆ ช่วงเป็นฝ่ายค้านร่วมกันชุดก่อน

“ท่านนายกรัฐมนตรี แพทองธาร ชินวัตร ท่านมีเจตนาเป็นนั่งร้านช่วยเหลือ พล.อ.ประยุทธ์ นี่คือเรื่องใหญ่ นี่คือเรื่องสำคัญที่สร้างความเสียหายให้กับประเทศชาติอย่างมหาศาล สร้างปัญหาตั้งแต่สมัยพล.อ.ประยุทธ์ จนมาถึงสมัยนายกแพทองธาร ชินวัตร”

“ท่านประธานครับ ในสมัยสภาชุดที่แล้วพรรคพท. เป็นฝ่ายค้านได้อภิปรายเรื่องเหมืองทองอัคราทั้งมาตรา 151-152 รวมกันถึง 5 ครั้ง จะไม่เป็นเรื่องใหญ่ เรื่องสำคัญได้อย่างไร ไม่ว่าจะสส.สุทิน คลังแสง ท่านสส.ชลน่าน ศรีแก้ว และที่สำคัญที่ขาดไม่ได้เลย ท่านสส.น้ำ จิราพร สินธุไพร”

พอกล่าวถึงชื่อบุคคลสำคัญคนสุดท้าย สส.อิทธิพล กล่าวว่า ตนต้องขออนุญาติที่ต้องเอ่ยนามบ่อยครั้งเป็นพิเศษ เนื่องจากสมัยนั้น พรรคพท.อภิปรายไว้น้ำไหลไฟดับว่าพล.อ.ประยุทธ์ สร้างความเสียหายไว้มากมาย แต่พอมาเป็นรัฐบาลกลับหลงลืมและล้มเหลวที่จะทำตามคำพูดที่พูดไว้ทุกเรื่อง

ตัวแทนวิปฝ่ายค้านอภิปรายลากยาวไปถึงที่มาดังกล่าวนั้น มาจากปัญหาทางการเมืองที่อีกฝ่ายต้องการทำทุกวิถีทางมาให้ได้มาซึ่งอำนาจ

ประเทศไทยจึงได้มาซึ่ง “ประชาธิปไตยไม่ตรงปก”

ยอมทิ้งสัจจะเพื่อให้ได้เป็นรัฐบาล ยอมทุกอย่างเพื่อให้บุคคลในครอบครัวได้กลับบ้าน คอยระวังหลังอดีตคู่กรณีไม่ให้ดำเนินคดีตามกฏหมาย โดยไม่ใส่ใจความถูกต้อง อยากได้ผลประโยชน์ทางการเมือง โดยไม่สนว่าจะสร้างความเสียหายให้ประเทศชาติอย่างไร

อิทธิพล สส ขอนแก่น พรรคประชาชน
แฟ้มภาพ @TPchannel10

แตะประเด็นใหญ่ ถามประธานสภา-เพื่อนสมาชิกอาจลืม เคยเกิดอะไรขึ้นกับ “เหมืองทองอัครา”

ต่อมามีการแตะถึงประเด็นใหญ่ที่ นายอิทธพลอ้างว่าประธานสภาและเพื่อนสมาชิกอาจลืมไปแล้วว่า เคยเกิดอะไรขึ้นกับเหมืองทองอัคราที่โดยสรุปในสมัยคสช. พล.อ.ประชยุทธใช้มาตรา 44 ปิดเหมืองทองอัคราของบริษัท อัครา รีซอร์สเซส จำกัด (มหาชน) โดยไม่สนใจคำทัดทานของใคร ทั้งๆ ที่ถูกข้าราชการทักท้วงว่าการที่ใช้ ม.44 อาจขัดข้อตกลงการค้าเสรีไทยกับออสเตรเลีย ควรใช้พ.ร.บ.ปกติ เช่น พ.ร.บ.เหมืองแร่ พ.ร.บ.สิ่งแวดล้อม ในการแก้ไขปัญหาแทน

แต่การลุแก่อำนาจของพล.อ.ประยทุธ์ในครั้งนั้น นายอิทธิพล ระบุทำให้บริษัทคิงเกตฯ ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของบริษัทอัคราฟ้องร้องรัฐบาลไทยต่ออนุญาโตตุลาการที่สิงคโปร์จนต้องนำภาษีงบประมาณจากพี่น้องประชาชนมาสู้คดีกว่า 700 กว่าล้านบาท และการพิจารณาคดีแล้วเสร็จเมื่อ 12 ก.พ.2563 อนุญาโตตุลาการพร้อมจะออกคำชี้ขาด แต่รัฐบาลขณะนั้นคิดว่าไทยจะแพ้คดีจึงพยายามเจรจา-ขอเลื่อนคำชี้ขาดออกไปซึ่งจนถึงวันนี้ก็ยังไม่มีคำชี้ขาดใด

“ท่านประธานจำได้ไหมครับสมัยที่แล้วตอนที่พรรคเพื่อไทยเป็นฝ่ายค้านบอกว่า พล.อ.ประยุทธ์ทำผิดไว้หลายเรื่อง ถึง 5 ครั้ง” จากนั้น “นายอิทธิพล” นำมาสรุปดูจึงทราบว่ามีวิธีการแก้ปัญหาเหมืองทองอัคราที่พรรคพท. เคยเสนอไว้ 4 ข้อ ดังนี้

  1. ดำเนิคดีกับพลเอกประยุทธ์ เอาคนผิดมาลงโทษ
  2. ไม่เลื่อนวันออกคำชี้ขาดอนุญาโตตุลาการ
  3. หยุดประเคนผลประโยชน์ชาติบ้านเมือง
  4. หยุดการล้มคดีภายในประเทศ

สส.พรรคปชน.ขยายความต่อว่า คดีเหมืองทองอัครา นอกจากจะถูกกล่าวหาเรื่องปล่อยสารเคมีที่รั่วไหลออกสู่แหล่งน้ำธรรมชาติแล้ว บ.อัคราฯ ยังมีคดีกับหน่วยงานของรัฐอยู่อีกนับ 10 คดีไม่ว่าจะเป็นเรื่องรุกป่า-บุกรุกทำลายทางสาธารณประโยชน์ ฝ่าฝืนและอื่นๆ อีกมาก เรื่องนี้พรรคเพื่อไทยโดยรมต.น้ำเคยอภิปรายไว้แล้ว แถมยังไม่ได้อภิปรายลอยๆ เพราะมีหลักฐาน คือ “เอกสาร” แถลงของสื่อมวลชนของบ.คิงส์เกตฯ ที่เขียนไว้ชัดเจนว่า บ.คิงส์เกตฯ มีการขอให้ไทยช่วยล้มคดีให้ ดังนี้

  • ให้ป.ป.ช. ยุติการสืบสวนอัครา
  • ให้ยุติคดีดีเอสไอ 3 คดี
  • ยุติคดีแบบกลุ่มที่ศาลแพ่งต่อบ.อัครา
  • ยุติคดีปปง. เรื่องการคิดค่าความเสียหายต่อรัพยกรธรรมชาติที่สูญเสียไปจากการทำเหมือง
  • ให้ยุติคดีของกองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
อภิปรายไม่ไว้วางใจ 24 มีนาคม 2568
แฟ้มภาพ @TPchannel10

นายอิทธิพลเชื่อว่าจะไม่มีการเอาผิดกับใครเพราะเป็นดีลจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งการที่เห็นความผิดแล้วแต่ไม่แก้ไข ยังคงทำแบบเดิมต้องถือว่า “เป็นนั่งร้านให้กับรัฐบาลชุดที่แล้ว” และนำสมบัติของชาติไปแลกกับผลประโยชน์ของครอบครัวตนเองดึงเวลาเจรจากับคิงส์เกตเพื่อรักษาหน้าให้กับรัฐบาลชุดที่แล้ว ทั้งที่รู้ดีอยู่ว่าทำผิด แต่ยังปล่อยให้มีการหาผลประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติอย่างผิดกฎหมาย ยอมให้คดีล้มถือเป็นการทำลายหลักนิติรัฐอย่างร้ายแรง เห็นประโยชน์ส่วนตนมากกว่าผลประโยชน์ของชาติ ไม่มีความมุ่งมั่นที่จะปิดสวิตช์ 3 ป. ตามที่เคยพูดไว้

ช่วงท้ายของการอภิปรายไม่ไว้วางใจดังกล่าว ยังเปิดคลิปเสียงรัฐมนตรีจิราพร ซึ่งเคยอภิปรายเรื่องเหมืองทองอัครา ประกาศไล่ล่านำตัวพล.อ.ประยุทธ์ ที่เมื่อเกือบ 4 ปีที่ผ่านมา ทำนองแม้จะรอดพ้นการอภิปรายในไว้วางใจได้ แต่อดีตหัวหน้าคณะคสช.จะไม่รอดพ้นจากการกระทำที่ทรยศชาติ หากพรรคการเมืองใดสนับสนุนก็เข้าข่ายเป็นผู้ร่วมขบวนการ โดยปัจจุบันวาทะกรรมดังกล่าวกำลังย้อนแย้งกับฉากทัศน์การเมืองจริงในปัจจุบัน

ประชุมสภาอภิปรายไม่ไว้วางใจ
แฟ้มภาพ @TPchannel10

ระหว่างอภิปรายของวิปฝ่ายค้าน ด้านนายธนกร วังบุญคงชนะ และสส.พรรครวมไทยสร้างชาติลุกขึ้นประท้วง โดยให้เหตุผลผ่านประธานสภาเนื่องจากมีการเอ่ยชื่อ “บุคคลภายนอก”

อีกทั้งขณะนี้เป็นการอภิปรายนายกรัฐมนตรีคนปัจจุบัน แต่กลับไปอภิปรายอดีตนายกรัฐมนตรีที่คนคิดถึงและเคารพจึงต้องขอลุกขึ้นแสงสิทธิห้ามปรามผู้อภิปราย

เช่นเดียวกับ นางสาวขัตติยา สวัสดิผล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ประท้วงผู้อภิปรายตามข้อบังคับที่ 69 เนื่องจากเนื้อหาที่อีกฝ่ายยืนอภิปรายอยู่นั้น ไม่ได้อยู่ในญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ ก่อนจะสงสัยว่า วิปฝ่ายค้านอาจไม่จำเป็นต้องขอเวลาถึง 28 ชม. ถ้าจะอภิปรายวนเวียนซ้ำซากอยู่แบบนี้ ก่อนจะเรียนขออนุญาตเพื่อนสส.ฝ่ายค้านพิจารณาลดเวลาลงเพื่อที่สมาชิกทุกคนจะได้กลับบ้านได้เร็วขึ้น

*** หมายเหตุ : ข้อ 69 การอภิปรายต้องอยู่ในประเด็นหรือเกี่ยวกับประเด็นที่กำลังปรึกษากันอยู่ ต้องไม่ฟุ่มเฟือย วนเวียน ซ้ำซาก หรือซ้ำกับผู้อื่น และห้ามไม่ให้นำเอกสารใด ๆ มาอ่านให้ที่ประชุมฟัง โดยไม่จำเป็น และห้ามไม่ให้นำวัตถุใด ๆ เข้ามาแสดงในที่ประชุม เว้นแต่ประธานจะอนุญาต

ห้ามผู้อภิปรายแสดงกิริยาหรือใช้วาจาอันไม่สุภาพ ใส่ร้าย หรือเสียดสีบุคคลใด และห้ามกล่าวถึงพระมหากษัตริย์หรือออกชื่อสมาชิกหรือบุคคลใดโดยไม่จำเป็น

เดียร์ขัตติตยา ประท้วงอภิปรายไม่ไว้วางใจ นายอิทธิพล สส ขอนแก่น
เดียร์ขัตติตยา ลุกขึ้นใช้สิทธิประท้วงผู้อภิปรายไม่ไว้วางใจนากยกฯ นายอิทธิพล สส.ขอนแก่น (แฟ้มภาพ)

ทั้งนี้ นายภราดร ปริศนานันทกุล รองประธานสภาฯ คนที่สอง ฐานะประธานในที่ประชุม กล่าวหลังการประท้วงโดยชี้แจงกับ นายอิทธิพลผู้อภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯ กำลังเชื่อมโยงรัฐมนตรีกับรัฐบาลที่แล้วเกี่ยวโยงกันอย่างไร กำลังเอื้อประโยชนกันอย่างไร

แต่ประธานสภาระบุว่าในเนื้อหาสาระที่อ้างการอภิปรายของ น.ส.จิราพร สินธุไพร เรื่องรายละเอียด ตนคิดว่าไม่ต้องลงรายละเอียดได้ เพราะเรื่องคิงส์เกตุและอัคราจริงๆ ไม่ได้อยู่ในญัตติที่ยื่นเอาไว้ แต่การเชื่อมโยงสามารถเชื่อมโยงได้ก่อนจะให้ใช้สิทธิอภิปรายจนจบประเด็นที่เตรียมมา

“รอไม่นานจริงๆ ครับ ที่ความจริงจะไล่ล่าท่าน ท่านประธานครับ ฟังชัดๆ อีกครั้งนะครับ! ผมไม่สามารถไว้วางใจ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีต่อไปได้ ต่อให้ท่านรอดพ้นการลงมติไม่ไว้วางใจในครั้งนี้ แต่ท่านจะไม่มีวันรอดพ้นจากการกระทำที่ทรยศชาติ และทรยศคะแนนเสียงจากพี่น้องประชาชนที่เลือกท่านมา” ประโยคที่สส.พรรคประชาชนกล่าวคล้ายกับวาทะที่รมต.น้ำ อภิปรายไม่ไว้วางใจสมัยเป็นสส.ไล่ล่าบิ๊กตู่ หรือ พล.อ.ประยุทธ์

“ผู้รักษาสัจจะทำตามคำพูด ผู้นั้นย่อมชื่อว่าเป็นน้ำดี ครับ” นายอิทธิพล ทิ้งท้ายก่อนลงนั่งด้วยการกล่าวถึงผู้ตระบัตสัตย์ หลงลืมคำพูด ผู้นั้นก็เป็นได้แค่เพียง “น้ำลาย”.

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Pachara

นักเขียนประจำที่ Thaiger จบการศึกษาด้านศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา เคยผ่านประสบการณ์ผู้สื่อข่าวกีฬา เริ่มเขียนบทความกับ Thaiger ตั้งแต่ปี 2021 วิ่งกับการอ่านหนังสือ คือ กิจกรรมที่สนใจเป็นพิเศษ ช่องทางติดต่อ pachara@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to top button