ออกหมายจับ เยอรมันคลั่ง ทำร้าย-กัดปากหมอฟันทั่วโคราช งงตร.ปล่อยคดีเงียบ

ฝรั่งต่อยหมอ ตำรวจเตรียมออกหมายจับ “ชายเยอรมัน อายุ 41 ปี คลุ้มคลั่ง ทำร้ายหมอฟันหลายแห่งทั่วโคราช ทันตแพทยสภา ร่อนหนังสือเตือนสมาชิกคลินิกทันตกรรม
จากกรณีชายชาวเยอรมัน อายุ 41 ปี มีภรรยาเป็นชาวไทยอาศัยอยู่ในพื้นที่ ต.ดอนชมพู อ.โนนสูง จ.นครราชสีมา มีพฤติกรรมคลุ้มคลั่งบุกเข้าไปก่อเหตุทำร้ายร่างกายและข่มขู่ทันตแพทย์หญิงในคลินิกทันตกรรมหลายแห่ง ทั่วเมืองนครราชสีมา อ้างอิงจากการมาร้องเรียนของทันตแพทย์วิวัฒน์ ฉัตรวงศ์วาน ตัวแทนชมรมทันตแพทย์จังหวัดนครราชสีมา นำกลุ่มผู้เสียหายซึ่งเป็นเจ้าของคลินิกทันตกรรมหลายแห่งใน อ.เมืองนครราชสีมา เข้าแจ้งความที่ สภ.เมืองนครราชสีมา
เหตุเกิดตั้งแต่ช่วงเดือน พ.ย.67 แต่คดียังไม่คืบหน้า ทพ.วิวัฒน์ระบุ ผู้ก่อเหตุยังคงใช้ชีวิตตามปกติและก่อเหตุซ้ำในลักษณะเดิมอีกหลายครั้ง ทางชมรมทันตแพทย์จึงออกแถลงการณ์เตือนภัยให้คลินิกทั่วจังหวัดเฝ้าระวังบุคคลอันตรายรายนี้
ในส่วนของผู้ก่อเหตุได้แสดงพฤติกรรมรุนแรงทั้งการบุกเข้าไปในห้องพักส่วนตัวของทันตแพทย์ ทำลายข้าวของ รวมถึงใช้กำลังทำร้ายร่างกาย อาทิ
- การจับหัวโขกผนัง
- กัดปากทันตแพทย์หญิง
นอกจากนี้ยังมีการส่งข้อความข่มขู่ผ่านโซเชียลมีเดียสร้างความหวาดผวา แม้ต่อมามีการแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งที่สภ.เมืองนครราชสีมาและสภ.จอหอไปแล้ว แต่คดีกลับไม่มีความคืบหน้า ผู้ก่อเหตุยังคงใช้ชีวิตตามปกติและก่อเหตุลักษณะเดิมซ้ำๆ ทำให้ชมรมทันตแพทย์จังหวัดนครราชสีมาต้องออกมาเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งจับกุมตัวโดยด่วน เนื่องจากพฤติกรรมดังกล่าวเป็นภัยร้ายแรงต่อสังคม
ล่าสุด พล.ต.ต.ไพโรจน์ ขุนหมื่น ผบก.จ.นครราชสีมา สั่งการให้ตำรวจในพื้นที่เจ้าของคดีดำเนินการรวบรวมหลักฐานต่างๆ เพื่อส่งให้ศาลจังหวัดนครราชสีมา พิจารณาออกหมายจับชาวชาวต่างชาติรายนี้แล้ว
ปัจจุบันตำรวจสภ.จอหอ ซึ่งรับแจ้งคดีนี้ตั้งแต่วันที่ 30 พ.ย.67 และได้มีการตั้งข้อหากับชายชาวต่างชาติรายดังกล่าว 3 ข้อหา ได้แก่
- ทำร้ายร่างกาย
- บุกรุก
- ทำให้เสียทรัพย์
ทั้งนี้ พนักงานสอบสวนได้มีการออกหมายเรียกเพื่อให้มารับทราบข้อหาไปแล้วถึง 2 ครั้ง แต่ไม่ยอมมาพบพนักงานสอบสวน ส่วนกรณีที่ไปก่อเหตุซ้ำอีก 2 ครั้ง ในคลินิกทันตกรรมพื้นที่ อ.เมืองนครราชสีมา และได้มีการแจ้งความไว้ที่ สภ.เมืองนครราชสีมา ปรากฏว่าทั้ง 2 กรณีผู้เสียหายไม่ประสงค์เอาความ เพราะเห็นว่ามีประวัติรักษาอาการทางจิต จึงไม่ได้มีการออกหมายเรียก



“ทันตแพทยสภา” ออกหนังสือเตือนถึงเรื่องดังกล่าว
ทั้งนี้ประกาศแจ้งเตือนสมาชิกทันตแพทยสภา คลินิกทันตกรรม และพี่น้องประชาชน ระบุ
ตามที่สื่อมวลชนหลายแขนงได้รายงานว่า มีผู้ป่วยเพศชายซึ่งมีประวัติเป็นผู้ป่วยทางจิตเวช แต่ขาดยา และใช้กัญชาเกินขนาด ได้เข้าไปตามคลินิกทันตกรรมหลายแห่งตั้งแต่ช่วงปลายปีที่ผ่านมา และล่าสุดเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ส่วนใหญ่เกิดเหตุในเขตจังหวัดนครราชสีมา โดยบุคคลดังกล่าวทำทีว่าเข้ารับการรักษาทางทันตกรรม แต่ขณะทำการรักษา กลับมีพฤติกรรมก้าวร้าว ข่มขู่ คุกคาม และทำร้ายร่างกายทันตแพทย์และเจ้าหน้าที่ในคลินิก จนมีผู้ได้รับบาดเจ็บ ส่งผลให้เกิดความหวาดกลัวจนบางรายไม่กล้าปฏิบัติงาน
ทันตแพทยสภาขอแจ้งเตือนสมาชิก คลินิกทันตกรรม และพี่น้องประชาชนในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมาและใกล้เคียง ให้เพิ่มความระมัดระวังบุคคลดังกล่าว
ทันทีที่ได้รับรายงาน ตัวแทนกรรมการทันตแพทยสภา ได้แก่ ทพ.วิวัฒน์ ฉัตรวงศ์วาน และ พ.ต.ทพ.อนวัช สถิตเดชกุญชร ได้เข้าพบ พ.ต.อ.คเชนท์ เสตะปุตตะ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา และ พ.ต.อ.สุทธินันท์ คงแช่มดี ผู้กำกับการ สภ.เมืองนครราชสีมา เพื่อให้ข้อมูลเพิ่มเติม รวมถึงร่วมทำงานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างเต็มที่ ขณะนี้มีการรวบรวมหลักฐานและอยู่ระหว่างดำเนินการออกหมายจับ
ทันตแพทยสภาขอขอบคุณ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และ สื่อมวลชน ที่ให้ความช่วยเหลือในการดูแลสวัสดิภาพและความปลอดภัยของสมาชิกทันตแพทยสภา บุคลากรในคลินิกทันตกรรม และประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์นี้ ในนามทันตแพทยสภา เรามิได้นิ่งนอนใจต่อสถานการณ์ และพร้อมยืนเคียงข้างสมาชิกและพี่น้องประชาชนเสมอ
หากท่านใดพบเห็นชาวต่างชาติลักษณะดังที่กล่าวมา ขอให้แจ้งมาที่ ทันตแพทยสภา

ขณะที่ ศูนย์ข่าวภาคอีสาน สำนักข่าวไทย มีการลงคลิปเหตุการณ์เป็นหลักฐานพร้อมระบุข้อความว่า “หวาดผวา! ชายเยอรมันคลั่งบุกอาละวาด ทำร้ายร่างกายหมอฟันสาวทั่วเมืองโคราช ชมรมทันตแพทย์โคราชจี้ตำรวจเร่งจับตัวดำเนินคดี ระบุเป็นภัยต่อสังคม” ซึ่งจากคลิปจะเห็นพนักงานบางส่วนอยู่ในอาการหวาดวิตก ขณะที่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยกำลังเดินสวนเข้าไปเพื่อระงับเหตุความไม่สงบดังกล่าว.
อ่านข่าวเพิิ่มเติม
- แจ้งข้อหาทำร้ายร่างกาย เดวิด ฝรั่งเตะหมอ เตรียมสอบปางช้างอีกรอบ
- ยื่นเอาผิด หมอทำร้ายพยาบาล ชี้ทุกวิชาชีพมีศักดิ์ศรี
- ผลชันสูตร ผู้กำกับโจ้ ออกแล้ว แพทย์ให้น้ำหนักไปที่ ผูกคอตัวเอง เสียชีวิต