วันนอนหลับโลก 2568 กุญแจสู่ความสุข สุขภาพดี แค่นอนอย่างมีคุณภาพ

วันนอนหลับโลก ปีนี้ตรงกับวันศุกร์ 14 มีนาคม 2568 กุญแจสู่ความสุข สุขภาพดี แค่นอนอย่างมีคุณภาพ
คุณรู้หรือไม่ว่า 1 ใน 3 ของผู้ใหญ่ทั่วโลกประสบปัญหาการนอนไม่เพียงพอ? หรือคุณอาจเป็นหนึ่งในนั้นโดยไม่รู้ตัว ปัจจุบัน คนส่วนใหญ่ใช้ชีวิตเร่งรีบจนมองข้ามเรื่องสำคัญอย่างการนอนซึ่งมีผลกระทบโดยตรงต่อสุขภาพกายและใจของเรา
เพื่อสร้างความตระหนักถึงปัญหานี้ “วันนอนหลับโลก” (World Sleep Day) จึงถูกกำหนดขึ้นเพื่อส่งเสริมให้ผู้คนทั่วโลกเห็นถึงความสำคัญของการพักผ่อนที่เพียงพอ และเข้าใจถึงผลกระทบของการอดนอนที่อาจส่งผลต่อคุณภาพชีวิตโดยรวม
ที่มา วันนอนหลับโลก
World Sleep Day จัดขึ้นเป็นประจำทุกปีในวันศุกร์ที่สองของเดือนมีนาคม โดยริเริ่มจาก มูลนิธิการนอนหลับโลก (World Sleep Society) ซึ่งเป็นองค์กรที่รวบรวมนักวิจัย แพทย์ และผู้เชี่ยวชาญด้านการนอนจากทั่วโลก
จุดประสงค์ของวันนอนหลับโลก รณรงค์ให้ผู้คนตระหนักถึงปัญหาการนอนและผลกระทบต่อสุขภาพ ส่งเสริมพฤติกรรมการนอนที่ดีเพื่อให้ทุกคนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ให้ความรู้เกี่ยวกับโรคที่เกี่ยวข้องกับการนอน เช่น นอนไม่หลับ หยุดหายใจขณะหลับ (Sleep Apnea) และภาวะง่วงนอนมากผิดปกติ
ทำไมการนอนถึงสำคัญกว่าที่คิด?
การนอนเป็นปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อ สุขภาพกาย จิตใจ และคุณภาพชีวิต แต่ในปัจจุบัน ไลฟ์สไตล์ของคนยุคใหม่ทำให้การนอนถูกลดความสำคัญลง เช่น การทำงานหนักเกินไป เล่นโซเชียลก่อนนอน หรือใช้ชีวิตที่ไม่มีระเบียบวินัย ซึ่งอาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพมากมาย
ประโยชน์ของการนอนที่ดี มีหลากหลายดังนี้
ช่วยฟื้นฟูร่างกายและสมอง – การนอนที่เพียงพอช่วยให้เซลล์ซ่อมแซมตัวเอง ลดอาการอักเสบ และฟื้นฟูกล้ามเนื้อ
เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน – คนที่นอนหลับสนิทมีโอกาสป่วยน้อยกว่าคนที่นอนไม่พอ
ปรับสมดุลฮอร์โมน – ฮอร์โมนที่เกี่ยวข้องกับความเครียด (คอร์ติซอล) และฮอร์โมนควบคุมความอยากอาหาร (เลปตินและเกรลิน) จะทำงานได้ดีขึ้นเมื่อเรานอนพอ
ช่วยให้ความจำดีขึ้น – สมองจะจัดเก็บข้อมูลและประมวลผลสิ่งที่เรียนรู้ในระหว่างวัน
ลดความเสี่ยงโรคหัวใจและโรคเบาหวาน – การอดนอนเพิ่มระดับน้ำตาลในเลือดและความดันโลหิต
นอนเท่าไหร่ กี่ชั่วโมงต่อวันถึงจะดี?
ปริมาณการนอนที่เหมาะสมแตกต่างกันไปตามช่วงวัย โดยมีแนวทางดังนี้
- เด็กเล็ก (4-12 เดือน): 12-16 ชั่วโมงต่อวัน
- เด็กโต (6-12 ปี): 9-12 ชั่วโมงต่อวัน
- วัยรุ่น (13-18 ปี): 8-10 ชั่วโมงต่อวัน
- ผู้ใหญ่ (18 ปีขึ้นไป): 7-9 ชั่วโมงต่อวัน
คุณนอนพอหรือยัง? เช็กง่าย ๆ ด้วยตัวเอง
คุณต้องดื่มกาแฟตลอดวันหรือไม่?
คุณตื่นมาแล้วยังรู้สึกง่วงหรือเปล่า?
คุณเคยเผลอหลับระหว่างวันบ่อย ๆ ไหม?
หากคำตอบของคุณคือ “ใช่” มากกว่าหนึ่งข้อ อาจถึงเวลาที่ต้องปรับพฤติกรรมการนอนแล้ว
นิสัยที่ทำร้ายการนอนของคุณ และวิธีแก้
เล่นมือถือก่อนนอน → แสงสีฟ้าจากหน้าจอทำให้สมองเข้าใจผิดว่าเป็นเวลากลางวัน ส่งผลให้นอนหลับยากขึ้น
ทางแก้ ให้ปิดหน้าจอ 1 ชั่วโมงก่อนนอน หรือใช้โหมดกรองแสงสีฟ้า
ดื่มคาเฟอีนหรือแอลกอฮอล์ก่อนนอน → ทำให้หลับไม่สนิทและตื่นกลางดึก
ทางแก้ ให้หลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มเหล่านี้หลังบ่ายสามโมง
นอนดึกแล้วตื่นสาย → ร่างกายเสียสมดุลนาฬิกาชีวิต ทำให้รู้สึกเหนื่อยแม้จะนอนนานขึ้น
ทางแก้ ให้ตั้งเวลาเข้านอนและตื่นนอนให้เป็นเวลาเดียวกันทุกวัน
เคล็ดลับการนอนให้มีคุณภาพ เหมือนหลับในสปาหรู
“Sleep Hygiene” หรือสุขอนามัยของการนอนเป็นวิธีช่วยปรับปรุงคุณภาพการนอน โดยมีเทคนิคง่าย ๆ ดังนี้:
สร้างบรรยากาศที่เหมาะสม – ห้องนอนควรมืด เงียบ และเย็นสบาย (อุณหภูมิที่เหมาะสมคือ 18-22 องศาเซลเซียส)
หากิจกรรมที่ผ่อนคลายก่อนนอน – อ่านหนังสือ ฟังเพลงเบา ๆ หรือฝึกหายใจลึก ๆ ช่วยให้ร่างกายผ่อนคลาย
ลงทุนกับที่นอนและหมอนที่ดี – ที่นอนที่รองรับร่างกายอย่างเหมาะสมช่วยลดอาการปวดหลังและทำให้นอนหลับสบายขึ้น
ตั้งเวลานอนให้เป็นนิสัย – นอนและตื่นให้เป็นเวลาแม้ในวันหยุด เพื่อรักษาสมดุลของร่างกาย
เริ่มต้นคืนแห่งการนอนที่ดีตั้งแต่คืนนี้
การนอนเป็นมากกว่าการพักผ่อน แต่เป็น รากฐานของสุขภาพที่ดีและความสุขในชีวิต การปรับนิสัยการนอนอาจดูเหมือนเรื่องเล็กน้อย แต่หากคุณเริ่มต้นตั้งแต่คืนนี้ คุณจะพบว่าชีวิตคุณเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
ลองตั้งเป้าหมายง่าย ๆ เช่น ปิดหน้าจอ 1 ชั่วโมงก่อนนอน หรือ เข้านอนให้ตรงเวลา แล้วคุณจะตื่นมาพร้อมกับความสดชื่นที่ไม่เคยมีมาก่อน!
เพราะการนอนที่ดีไม่ใช่แค่เรื่องของการพักผ่อน แต่คือกุญแจสำคัญของชีวิตที่สมดุล
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- วันหยุดเดือนมีนาคม 2568 ข่าวร้ายคนไทยทั้งประเทศ
- 8 สิงหาคม 2567 “วันแมวโลก” วันสำคัญที่ทาสแมวห้ามพลาด
- รวมลิสต์ มุก April fool’s day ฮา ๆ ในวันโกหก เมษาหน้าโง่ 2567