ภาพหายาก น้ำพุ ตัวจริง ก่อนเสียชีวิต ย้อนภูมิหลัง เรื่องของน้ำพุ วรรณกรรมสะท้อนสังคม

เปิดภาพหายาก ‘น้ำพุ’ ตัวจริง ก่อนเสียชีวิต จากการหลงมัวเมาในยาเสพติด ย้อนภูมิหลังวัยรุ่นผู้เป็นแรงบันดาลใจสู่วรรณกรรมอมตะ ‘เรื่องของน้ำพุ’ โดย สุวรรณี สุคนธา สะท้อนปัญหายาเสพติดในสังคมไทย
ท่ามกลางกระแสสังคมที่หันกลับมาให้ความสนใจกับปัญหายาเสพติดอีกครั้ง เรื่องราวของ “น้ำพุ” หรือ วงศ์เมือง นันทขว้าง วัยรุ่นผู้หลงผิดก้าวเข้าสู่วังวนยาเสพติด กลับมาได้รับความสนใจถึงอีกครั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเพจเฟซบุ๊ก เล่าสู่ กันฟัง ที่มีผู้ติดตามกว่า 6.3 หมื่นคน เผยภาพถ่ายหายากของ ‘น้ำพุ’ ที่ถ่ายไว้เมื่อ 6 เดือนก่อนเสียชีวิตในปี 2517
ภาพดังกล่าวเป็นรูปถ่ายสีขาวดำ ที่ปรากฏภาพของเด็กหนุ่มคนหนึ่งยืนอยู่ในอิริยาบถสบาย ๆ โดยมีรอยยิ้มกว้างประดับอยู่บนใบหน้า ซึ่งหากมองเผิน ๆ ทั่วไปก็ไม่ต่างจากภาพถ่ายของเด็กหนุ่มวัยรุ่นในสมัยนั้น แต่แท้จริงกลับเป็นภาพของ น้ำพุ ในช่วงชีวิตที่ยังไม่ตกเป็นทาสของเฮโรอีน จนสุดท้ายก็ได้พรากชีวิตเขาไปตลอดกาล

ย้อนภูมิหลัง ชีวิต “น้ำพุ” สู่การเป็นต้นแบบวรรณกรรม “เรื่องของของน้ำพุ” สุดยอดบทเรียนสอนสังคม
น้ำพุ วงศ์เมือง นันทขว้าง เกิดเมื่อปี พ.ศ. 2499 เป็นบุตรชายของ สุวรรณี สุคนธา นักเขียนนวนิยายชื่อดังของเมืองไทย ชีวิตในวัยเด็กของน้ำพุดูเหมือนจะสดใสและมีความสุข แต่เมื่อครอบครัวต้องเผชิญกับปัญหาความแตกแยก ชีวิตของเขาก็ต้องพบกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่
หลังจบชั้นประถมศึกษาปีที่ 7 น้ำพุ ได้เข้าศึกษาต่อในระดับมัธยมศึกษาที่โรงเรียนศรีวิกรม์ จนกระทั่งจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ในช่วงวัยเรียนนี้เอง บุคลิกอ่อนไหวของน้ำพุเริ่มปรากฏชัดเจน ประกอบกับปัญหาภายในครอบครัวที่ขาดความอบอุ่น เนื่องจากในบ้านมีแต่ผู้หญิง ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างน้ำพุกับสมาชิกในครอบครัวไม่แน่นแฟ้นเท่าที่ควร
ยิ่งไปกว่านั้น ด้วยภาระหน้าที่อันหนักอึ้งของมารดา ทำให้ท่านไม่สามารถดูแลเอาใจใส่น้ำพุ ผู้เป็นลูกชายคนเดียวได้อย่างเต็มที่ และเมื่อเข้าสู่วัยรุ่น น้ำพุเริ่มใช้ชีวิตนอกกรอบ เที่ยวเตร่ไปกับกลุ่มเพื่อนที่ไม่เหมาะสม และในที่สุดก็พลาดพลั้งเข้าไปข้องเกี่ยวกับยาเสพติด
แม้ชีวิตจะเผชิญกับความมืดมน แต่ในใจของน้ำพุยังคงมีความรักในศิลปะ เขาจึงขออนุญาตมารดาเพื่อศึกษาต่อด้านศิลปะที่วิทยาลัยช่างศิลป น้ำพุได้พบกับเพื่อนใหม่กลุ่มหนึ่ง และน่าเสียดายที่มิตรภาพใหม่นี้ กลับนำพาเขาไปสู่วังวนยาเสพติดที่ลึกยิ่งกว่าเดิม จากการชักชวนของเพื่อน น้ำพุเสพยาเสพติดหนักขึ้น ก่อนที่ต่อมาจะเข้ารับการบำบัดเลิกยาเสพติด ที่สำนักสงฆ์ชื่อดัง วัดถ้ำกระบอก จังหวัดสระบุรี เพื่อหวังจะเริ่มต้นชีวิตใหม่ และหลุดพ้นจากยาเสพติดให้ได้
หลังผ่านการบำบัดยาเสพติดที่วัดถ้ำกระบอก น้ำพุ หวังจะเริ่มต้นชีวิตใหม่ และกลับเข้าศึกษาต่อที่วิทยาลัยช่างศิลป เพื่อสานฝันด้านศิลปะที่เขารัก แต่โชคชะตากลับเล่นตลก ในรุ่งสางของวันที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2517 เหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เมื่อครอบครัวพบร่างของ น้ำพุ นอนหมดสติอยู่กลางห้องนอน ด้วยความตกใจและเป็นห่วง รีบนำตัวส่งโรงพยาบาลโรงพยาบาลเดชา แต่สุดท้ายก็ไม่สามารถยื้อชีวิต น้ำพุ ไว้ได้
จากผลการวินิจฉัยของแพทย์ ยืนยันว่าสาเหตุการเสียชีวิตคือ หัวใจวายเฉียบพลัน ในวัยเพียง 18 ปี 2 เดือน 15 วัน ซึ่งก็นำไปสู่การสันนิษฐานเบื้องต้นว่า น้ำพุ อาจหวนกลับไปพึ่งพายาเสพติดอีกครั้ง และเสียชีวิตจากการเสพเฮโรอีนเกินขนาด
ด้วยความรักและความอาลัยที่มีต่อบุตรชาย ‘สุวรรณี สุคนธา’ ตัดสินใจถ่ายทอดเรื่องราวชีวิตของ น้ำพุ วงศ์เมือง ผ่านงานเขียน 2 ชิ้น เพื่อเป็นอนุสรณ์ถึงลูกชายอันเป็นที่รัก และเพื่อเป็นอุทาหรณ์เตือนใจแก่สังคม โดยผลงานหนึ่ง มีชื่อว่า “เรื่องของน้ำพุ” (2517) เป็นหนังสือเล่มเล็ก ๆ ที่พิมพ์แจกในงานศพของน้ำพุ รวบรวมจดหมายที่น้ำพุเขียนถึงแม่ขณะเข้ารับการบำบัดยาเสพติดที่สำนักสงฆ์ถ้ำกระบอก
ผลงานเรื่องที่สอง มีชื่อว่า “พระจันทร์สีน้ำเงิน” (2518) เป็นนวนิยายที่ สุวรรณี นำเรื่องราวของน้ำพุมาดัดแปลงเป็นตัวละครชื่อ ‘รอม’ ถ่ายทอดความรักความผูกพันระหว่างแม่ลูก โดยนวนิยายเรื่องนี้ได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม และได้รับการยกย่องให้เป็นวรรณกรรมอมตะของไทย

“น้ำพุ” บนจอเงินและจอแก้ว…ตอกย้ำปัญหาสังคม
เรื่องราวของ “น้ำพุ” ไม่ได้จำกัดอยู่เพียงหน้ากระดาษ แต่ยังถูกนำไปสร้างเป็นภาพยนตร์ในปี 2527 และละครโทรทัศน์ในปี 2545 ทั้งสองเวอร์ชั่น ประสบความสำเร็จอย่างสูง และสร้างความสะเทือนใจให้กับผู้ชมในทุกยุคสมัย โดยเฉพาะการตีแผ่ปัญหาครอบครัว และภัยร้ายของยาเสพติดที่ส่งผลกระทบต่อชีวิตวัยรุ่นและสังคมไทย
ภาพยนตร์ “เรื่องของน้ำพุ” เป็นผลงานการกำกับโดย ยุทธนา มุกดาสนิท นำแสดงโดย ภัทราวดี ศรีไตรรัตน์ (รับบทเป็น แม่) และ อำพล ลำพูน (รับบทเป็น น้ำพุ) ภาพยนตร์เรื่องนี้ประสบความสำเร็จอย่างมาก ได้รับรางวัลภาพยนตร์แห่งชาติ สุพรรณหงส์ถึง 7 รางวัล และยังเป็นแรงบันดาลใจให้คนรุ่นหลังหันมาสนใจปัญหายาเสพติดมากขึ้น
ขณะที่ละคร “เรื่องของน้ำพุ” กำกับโดย ศรัณยู วงษ์กระจ่าง นำแสดงโดย สินจัย เปล่งพานิช (รับบทเป็น แม่) และ จิรายุส วรรธนะสิน (รับบทเป็น น้ำพุ) ได้ออกอากาศทางช่อง 7 ซึ่งละครเรื่องนี้ได้รับคำชมในด้านการแสดง และการถ่ายทอดอารมณ์ โดยเฉพาะฉากที่สะเทือนใจผู้ชม เช่น ฉากบำบัดยาเสพติด และฉากที่น้ำพุเสียชีวิต
ชีวิต “สุวรรณี สุคนธา” นักเขียนผู้ยิ่งใหญ่ กับจุดจบที่แสนเศร้า
สุวรรณี สุคนธา ไม่เพียงแต่เป็นนักเขียนนวนิยายชื่อดัง แต่ยังเป็นแม่ผู้สูญเสียลูกชายจากยาเสพติด ชีวิตของเธอเต็มไปด้วยความสำเร็จในเส้นทางวรรณกรรม ทว่าในอีกด้านหนึ่ง ก็ต้องเผชิญกับความทุกข์จากการสูญเสียลูกชายอันเป็นที่รัก เหตุเพราะปัญหายาเสพติด และที่น่าสลดใจยิ่งไปกว่านั้น สมหายใจสุดท้ายของเธอก็ยังถูกพรากไปเพราะปัญหาที่เกิดจากการเสพยาเสพติดอีกด้วย
ย้อนกลับไปในช่วงก่อนที่ภาพยนตร์ “น้ำพุ” ที่สร้างขึ้นจากนวนิยายของเธอ จะได้ออกฉายสู่สายตาประชาชนเพียงไม่นาน สุวรรณี สุคนธา กลับเสียชีวิตลงอย่างน่าอนาถใจ จาการถูกฆาตกรรมอย่างโหดเหี้ยม
เหตุการณ์สะเทือนขวัญครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2527 เมื่อ นครินทร์ สมบูรณ์ นักเรียนโรงเรียนเทคโนโลยีช่างกลอุตสาหกรรมวัย 17 ปี และ ไพฑูรย์ สว่างไพร ได้บุกทำร้าย สุวรรณี สุคนธา ถึงแก่ชีวิต โดยคนร้ายทั้งสองได้ลงมืออย่างเหี้ยมโหด ใช้มีดจ้วงแทงร่างของนักเขียนดังซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนเสียชีวิตคาที่บนรถยนต์ส่วนตัว จากนั้นจึงนำศพของเธอไปทิ้งอย่างเลือดเย็น บริเวณสนามแข่งรถจักรยานยนต์ หลังหมู่บ้านสวนสยาม ถนนรามอินทรา

ข่าวการฆาตกรรม สุวรรณี สุคนธา สร้างความตกตะลึงและสะเทือนใจให้กับผู้คนในสังคมเป็นอย่างมาก ต่างพากันตั้งคำถามถึงแรงจูงใจในการก่อเหตุ และวิพากษ์วิจารณ์ถึงความโหดร้ายของฆาตกร ข่าวนี้กลายเป็นพาดหัวข่าวหน้าหนึ่งของหนังสือพิมพ์ทุกฉบับ และถูกนำเสนออย่างต่อเนื่องบนสื่อต่าง ๆ
ท่ามกลางความสับสนและโศกเศร้า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เร่งสืบสวนสอบสวนคดี และในที่สุดก็สามารถติดตามจับกุมตัว นครินทร์ สมบูรณ์ และ ไพฑูรย์ สว่างไพร ฆาตกรโหดทั้งสองได้ในเวลาอันรวดเร็ว โดยทั้งสองรับสารภาพว่า ต้องการชิงทรัพย์ของสุวรรณีไปขายเพื่อหาเงินไปซื้อยาเสพติด ด้วยเหตุนี้ศาลฎีกาจึงพิพากษาตัดสินจำคุกจำเลยทั้งคู่เป็นเวลา 33 ปี 4 เดือน
ทั้งนี้ แม้เวลาจะล่วงเลยมากว่า 50 ปีแล้ว แต่ เรื่องของน้ำพุ ก็ยังคงเป็นวรรณกรรมที่ทรงคุณค่า สะท้อนปัญหายาเสพติดและครอบครัวที่ยังคงอยู่ในสังคมไทย และยังคงเป็นอุทาหรณ์เตือนใจให้สังคมไทยตระหนักถึงภัยร้ายของยาเสพติด และร่วมกันสร้างภูมิคุ้มกันให้แก่เยาวชน เพื่อไม่ให้เกิดโศกนาฏกรรมซ้ำรอย เฉกเช่นเรื่องราวของ น้ำพุ อีก
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- แนะนำ 5 วรรณกรรมเยาวชน ขึ้นหิ้งระดับตำนาน อ่านได้ทุกเพศ(ทุกวัย)
- ประวัติ ‘วันสุนทรภู่’ กวีเอกเมืองไทย ผู้บุกเบิกโลกวรรณกรรม
- เปิดประวัติ ‘ธิดา บุนนาค’ นักเขียนสตรีอีโรติกคนแรก ผู้แหวกขนบวงการวรรณกรรม