เปิดหนังสือลับวาติกัน ทำนายใกล้วันสิ้นโลก โยงขนลุก อาการประชวรโป๊บฟรานซิส

สะพรึง พบหนังสือวันพิพากษา อายุ 900 ปี ในวาติกัน อ้างทำนายวันสิ้นโลก แม่นจนน่าขนลุก โยงเหตุการณ์โลกปัจจุบัน สงครามโลก-โครงการอาวุธนิวเคลียร์
สะเทือนวงการ หลังเว็บไซต์ต่างประเทศ dailymail รายงานว่า มีการค้นพบหนังสือโบราณอายุกว่า 900 ปีในหอจดหมายเหตุลับของวาติกัน อ้างว่าสามารถทำนายปีที่จะเกิดวันพิพากษาหรือวันสิ้นโลกตามความเชื่อของคริสต์ศาสนา
หนังสือเล่มนี้มีชื่อว่า ‘Prophecy of the Popes’ หรือ คำทำนายแห่งพระสันตะปาปาเชื่อกันว่าเป็นผลงานของนักบุญมาลาคี ในช่วงศตวรรษที่ 12 โดยมีเนื้อหาเป็นวลีภาษาละตินสั้น ๆ ที่ลึกลับ ซึ่งเชื่อกันว่าอธิบายถึงพระสันตะปาปาแต่ละองค์ เริ่มตั้งแต่สมเด็จพระสันตะปาปาเซเลสทีนที่ 2 ในปี ค.ศ. 1143 จนถึงผู้นำคริสตจักรองค์ปัจจุบัน คือ สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส
ภายในหนังสือคำทำนายแห่งพระสันตะปาปา ประกอบด้วยวลีสั้น ๆ ที่คลุมเครือ 112 วลี ถูกค้นพบในปี ค.ศ. 1595 โดย อาร์โนลด์ วิออน นักบวชนิกายเบเนดิกติน อ้างว่าพบงานเขียนของมาลาคีในหอจดหมายเหตุวาติกัน
ข้อความตอนสุดท้ายของหนังสือระบุว่า “ในการเบียดเบียนครั้งสุดท้ายของศาสนจักรโรมันอันศักดิ์สิทธิ์จะมีเปโตรชาวโรมันขึ้นครองราชย์เป็นผู้เลี้ยงดูฝูงแกะ หลังจากนั้นกรุงโรมจะถูกทำลายและผู้พิพากษาจะพิพากษาผู้คนและโลกก็จะถึงจุดจบ”

บางส่วนตีความว่า เปโตรชาวโรมันจะขึ้นเป็นโป๊ปแทนที่โป๊ปฟรานซิสที่กำลังป่วยปอดเรื้อรัง ในขณะที่คนอื่น ๆ เชื่อว่ามาลาคีกำลังบอกว่าฟรานซิสคงจะเป็นพระสันตะปาปาคนสุดท้าย
แม้ว่าหนังสือคำทำนายจะถูกค้นพบเมื่อกว่า 400 ปีที่แล้ว แต่คำทำนายของหนังสือเล่มนี้กลับมาเป็นที่สนใจอีกครั้ง เนื่องจากสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงประชวรด้วยภาวะวิกฤตทางเดินหายใจถึง 2 ครั้ง เนื่องจากมีเสมหะสะสมอยู่ในปอดเป็นจำนวนมาก และหลอดลมหดเกร็ง ซึ่งโรงพยาบาลมาเป็นเวลาสองสัปดาห์กว่าแล้ว
นักวิชาการบางคนอ้างว่า ข้อความดังกล่าวเป็นของปลอมในศตวรรษที่ 16 และมาลาคีถูกกล่าวหาว่าได้เขียนคำทำนายของพระสันตะปาปาในปี ค.ศ. 1139 หลังจากได้รับนิมิตในระหว่างการเยือนกรุงโรม สาเหตุที่มีการสันนิษฐานเช่นนี้ เพราะมีการบรรยายพระสันตะปาปาแต่ละองค์แบบเฉพาะเจาะจงและแม่นยำมากจนถึงปี ค.ศ. 1590
หลังจากนั้น ข้อความในหนังสือทำนายวันสิ้นโลกมีการใช้คำที่คลุมเครือมากขึ้นและทำให้คนตีความได้หลายอย่าง แต่ยังคงมีคำทำนายในปัจจุบันที่ยังคงแม่นยำอยู่บ้าง

ตามรายงานฉบับหนึ่งในปี 1958 ก่อนการประชุมลับที่จะเลือกสมเด็จพระสันตะปาปาจอห์นที่ 23 ขึ้นเป็นพระคาร์ดินัลสเปลล์แมนแห่งนิวยอร์ก มีการเช่าเรือบรรทุกแกะเต็มลำล่องไปตามแม่น้ำไทเบอร์ เพื่อแสดงว่าเขาคือ ‘ศิษยาภิบาลและลูกเรือ’ ซึ่งเป็นคติประจำใจที่เชื่อกันในคำทำนายของสมเด็จพระสันตะปาปาองค์ต่อไป
สำหรับ ‘คณะนักบุญเบเนดิกต์’ หรือที่รู้จักกันในชื่อ ‘โอลิเวตันส์’ ทำให้นักประวัติศาสตร์บางคนเชื่อว่า มาลาคีทำนายถึงสมเด็จพระสันตะปาปาเบเนดิกต์จะเป็นผู้นำคริสตจักรคาทอลิก พระองค์ทรงดำรงตำแหน่งตั้งแต่ปี 2005 ถึง 2013
บางคนเชื่อว่าวลีของนักบุญมาลาคีที่ว่า ‘lilium et rosa’ หมายถึง ‘ลิลลี่และดอกกุหลาบ’ เป็นการอธิบายถึงสมเด็จพระสันตะปาปาเออร์บันที่ 8 ในค.ศ. 1623-1644 เนื่องจากตราประจำตระกูลของพระองค์มีดอกลิลลี่และดอกกุหลาบเป็นส่วนประกอบ
นอกจากนี้ ข้อความอีกบรรทัดหนึ่งระบุว่า ‘De labore Solis’ หมายถึง ‘สุริยุปราคา’ มีการคาดเดาว่าเป็นการเอ่ยถึงสมเด็จพระสันตะปาปาจอห์น ปอลที่ 2 (คาโรล วอยตีลา) ซึ่งประสูติในช่วงสุริยุปราคา โดยพระองค์ทรงดำรงตำแหน่งตั้งแต่ปี 1978 ถึง 2005
รวมทั้งข้อความอีกตอนหนึ่งที่กล่าวถึง ‘peregrinus apostolicus’ เป็นชื่อที่ใช้เรียกพระสันตะปาปาองค์หนึ่ง หลายคนเชื่อว่าหมายถึงสมเด็จพระสันตะปาปาที่ 6 เนื่องจากพระองค์ใช้เวลาส่วนใหญ่ในชีวิตเดินทางไปยังประเทศใหม่ ๆ รวมทั้งดำรงตำแหน่งพระสันตะปาปาตั้งแต่ปี 1963 ถึง 1978
ตามข้อความสุดท้ายเกี่ยวกับเปโตรชาวโรมัน พระสันตะปาปาองค์สุดท้ายจะดำรงตำแหน่งประธานคริสตจักรในช่วงที่เกิดความวุ่นวายครั้งใหญ่ และจะจบลงด้วยการล่มสลายของกรุงโรมและสถาบันพระสันตะปาปาจะสิ้นสุดลง
หนังสือเล่มนี้เป็นหัวข้อในรายการ ‘Sunday Cool Podcast’ โดยมี Josh Hooper เป็นพิธีกร Josh Hooper ตั้งข้อสังเกตว่า วิกฤตการณ์มีจำนวนเพิ่มขึ้นทั่วโลก ซึ่งก่อให้เกิดความเชื่อใหม่ ๆ เกี่ยวกับคำทำนายที่มาขัดแย้งกัน
ในปัจจุบัน สงครามในยูเครน เพิ่มความตึงเครียดระหว่างสหรัฐอเมริกาและจีน และความไม่มั่นคงในตะวันออกกลาง ทำให้หลายคนเกรงว่าสงครามโลกครั้งต่อไปอาจเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้
ไม่เพียงเท่านั้นยังมีรายงานว่า กลุ่มประเทศมหาอำนาจเหล่านี้ เริ่มเตรียมการโครงการอาวุธนิวเคลียร์ขึ้นใหม่ ซึ่งเป็นการเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับวันพิพากษาและคำทำนายวันสิ้นโลกมากขึ้น
ข้อความโบราณฉบับนี้ไม่ใช่ข้อความฉบับเดียวที่มีการกล่าวถึงคำทำนายจุดจบของโลก แต่ยังมี ‘หนังสือวิวรณ์’ ที่เขียนขึ้นเมื่อใกล้สิ้นศตวรรษที่ 1 บางคนเชื่อว่าเป็นบันทึกการสิ้นสุดของมนุษยชาติ ไม่ใช่เหตุการณ์ในพระคัมภีร์ในอดีต ในความเป็นจริงบางส่วนก็เชื่อข้อความที่มีการอธิบายถึงการระเบิดนิวเคลียร์ โดรน เครื่องบิน และแม้แต่หุ่นยนต์
ข้อมูลจาก : dailymail
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- นาฬิกาวันสิ้นโลก อีก 89 วินาที ก่อนถึงเที่ยงคืน ใกล้สิ้นสุดมนุษยชาติ
- รู้จัก นาฬิกาวันสิ้นโลก นับถอยหลังสู่เที่ยงคืน สัญญาณเตือนหายนะ มนุษยชาติ
- สตีเฟน ฮอว์คิง เตือนหายนะ วันสิ้นโลกมาถึงเร็วกว่าที่คาดไว้