ญาติโวย คลินิกปฐมภูมิ เมินส่งคนไข้ อ้างเบิกไม่ได้ จ่ายเองเท่านั้น

ญาติผู้ป่วยโพสต์เฟซบุ๊ก ร้องระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าปัจจุบันแย่ลง โรงพยาบาลไม่รับส่งตัว อ้าง สปสช. ไม่จ่าย
เมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2568 ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งชื่อ Attavit Panyapinyophol ได้เขียนข้อความระบุถึงปัญหาการเข้ารับบริการทางการแพทย์ภายใต้ระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า เล่าว่าภรรยาของตนซึ่งรักษาและติดตามอาการมะเร็งที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์มาต่อเนื่อง ล่าสุดคลินิกปฐมภูมิแจ้งว่าไม่สามารถส่งตัวภรรยาไปโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ได้อีกต่อไป
“เจอครับ สด ๆ ร้อน ๆ รักษา follow up cancerภรรยาอยู่ รพ.จุฬาดี ๆ โดยหมอเขียนใบขอให้ส่งตัวต่อเนื่องมาหลายปี แล้วทางคลินิกก็เขียนใบส่งตัวด้วยดีมาตลอดห้าปี อยู่ ๆ มารอบนี้คุณหมอบอกส่งตัวไม่ได้แล้วเพราะรพ.จุฬาไม่สามารถเบิกเงินจากสปสช.ได้ แล้วมาเก็บเงินกับทางคลินิก ซึ่งคลินิกก็ไม่มีตังค์จ่าย ดังนั้นจึงขอไม่ส่งตัว แล้วคลินิกปฐมภูมิเนี่ยนะ จะรักษา two primary cancer กลายเป็นที่โฆษณากันว่า สามสิบบาทรักษาทุกที่ cancer anywhere จริง ๆ คือกลายเป็นตอนนี้ถ้าอยากรักษาเป็นเรื่องเป็นราว ทางเดียวคือจ่ายเอง คลินิกปฐมภูมิรักษาไม่ได้อยู่แล้ว”
ผู้โพสต์อ้างว่า คลินิกปฐมภูมิแจ้งเหตุผลว่า โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ไม่สามารถเบิกเงินค่ารักษาจากสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ได้ และจะเรียกเก็บค่ารักษาจากคลินิกแทน ซึ่งคลินิกปฐมภูมิมีงบประมาณจำกัด ทำให้ไม่สามารถรับภาระค่าใช้จ่ายดังกล่าวได้ ส่งผลให้คลินิกไม่สามารถส่งตัวผู้ป่วยไปโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ได้
“ถามหมอว่าเป็นแบบนี้หลายเคสไหม หมอบอกว่าเป็นทุกเคสคือหมอส่งต่อไม่ได้จริง ๆ เพราะคลินิกจะไม่มีตังค์จ่ายตอนที่รพ.ที่ส่งต่อไปส่งบิลมาเก็บ เข้าใจและเห็นใจหมอ ไม่โทษหมอ”
“ต้องถาม สปสช หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ว่าทำไมถึงสุดท้ายภาระมาตกกับคนไข้ซึ่งจริง ๆ พบโรคร้ายเค้าก็มีความทุกข์มากอยู่แล้ว แล้วยังต้องมาโดนการปฏิเสธแบบนี้อีกครับ ส่วนตัวผมผมก็จ่ายเอง แต่นึกถึงถ้าคนที่เค้าไม่มีกำลังแล้วจะทำยังไง กลายเป็นระบบนี้แย่กว่าเดิมอีก”
ผู้โพสต์ระบุว่า คลินิกปฐมภูมิได้รับงบประมาณค่ารักษาจากรัฐเพียง 10 บาทต่อผู้ป่วยต่อคน ซึ่งไม่เพียงพอต่อค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลที่มีราคาสูง เช่น การตรวจ CT scan และ mammogram ทำให้เกิดภาระค่าใช้จ่ายแก่ผู้ป่วยที่จำเป็นต้องรับการรักษา โดยเฉพาะผู้ป่วยโรคร้ายแรงและผู้มีรายได้น้อยอาจไม่สามารถเข้าถึงการรักษาที่จำเป็นได้
“พอมาเห็นใบนี้ whattt คลินิกได้รับเงินค่ารักษาผู้ป่วยจากรัฐคนละสิบบาท??!! แล้วรพ.จุฬาสั่งทำCTกับแมมโมแกรม ตรวจหาสารบ่งมะเร็ง สามอย่างนี้รวมกันก็สองสามหมื่นแน่นอน นึกถึงคลินิกถูกบิลเรียกเก็บสามหมื่น แต่รัฐจ่ายให้สิบบาท คลินิกปฐมภูมิจะรอดได้ยังไง หรือสมมุติเขียนใบส่งแล้วรพ.จุฬาไม่เก็บจากคนไข้ แล้วไปเก็บคลินิกปฐมภูมิ คลินิกไม่มีตังค์จ่าย รพ.จุฬาก็เจ๊งอีก”
เจ้าของโพสต์ตั้งคำถามถึงความสอดคล้องระหว่างนโยบายของรัฐบาล งบประมาณที่จัดสรร และค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลจริง โดยมองว่าปัญหาดังกล่าวส่งผลกระทบต่อทั้งผู้ป่วยและบุคลากรทางการแพทย์ และทำให้ระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าในปัจจุบันแย่ลงกว่าเดิม
“ปัญหาคือรัฐออกนโยบายประชานิยม เอาไว้หาเสียง แต่พอทำจริงปัญหามาตกกับคนหน้างาน เวรกรรมมาตกกับคนไข้”
ส่วนข้อความจากภาพบนโพสต์ดังกล่าวระบุว่า “เนื่องจาก…คลิกนิกเวชกรรม ได้รับค่าเหมาจ่ายรายหัวผู้ป่วย 10 บาทต่อคนต่อเดือน ทำให้คลินิกไม่สามารถตามจ่ายใบส่งตัวสูงสุด 800 บาท ต่อครั้ง ให้แก่โรงพยาบาลได้ จึงขอความกรุณาทางโรงพยาบาลให้การรักษาผู้ป่วยตามนัดของท่านต่อเนื่อง โดยเบิกกองทุน OP Anywhere แทน ขอขอบพระคุณมา ณ ที่นี้…”
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- บัตรทอง 30 บาท รอไปก่อน ประกันสังคม-สิทธิข้าราชการ ไม่พร้อมให้ร่วมรักษา
- หดหู่ พี่ชายใช้สิทธิประกันสังคม แน่นหน้าอก รอหมอนาน จนเสียชีวิต
- เอกสารด่วน รักชนก แฉประกันสังคม ขู่คนในห้ามให้ข้อมูล ฝ่าฝืนฟันพ้นราชการ
อ้างอิง : FB Attavit Panyapinyophol