
“จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่” เผยรายได้ปี 2567 กำไรอู้ฟู้ รวมรายได้การดำเนินงานกวาด 6,165.4 ล้านบาท สนนกำไรรวม 195.6 ล้านบาท เติบโตต่อเนื่อง 3.9%
บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GMM GRAMMY ธุรกิจบันเทิงครบวงจรแนวหน้าของประเทศไทย เผยผลประกอบการปี 2567 โดยมีรายได้จากการดำเนินงานที่ 6,165.4 ล้านบาท เติบโตขึ้น 3.9% เมื่อเทียบกับปี 2566 ตอกย้ำศักยภาพความแข็งแกร่งทางธุรกิจ และประสิทธิภาพในการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง
คุณบุษบา ดาวเรือง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จํากัด (มหาชน) กล่าวว่า “สำหรับปี 2567 บริษัทฯ มีรายได้จากการดำเนินงานรวม อยู่ที่ 6,165 ล้านบาท เติบโตขึ้น 3.9% เทียบกับปี 2566 โดยมีกำไรจากการดำเนินงานปกติ อยู่ที่ 405.9 ล้านบาท เติบโตขึ้น 100.2% และมีกำไรส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ รวมอยู่ที่ 195.6 ล้านบาท เติบโตขึ้นจากปีก่อนที่บริษัทฯ มีผลขาดทุนจากการวัดมูลค่ายุติธรรมในสินทรัพย์ทางการเงินอื่นจากการลงทุนในหุ้น บริษัท โรจูคิส อินเตอร์เนชั่นแนล จํากัด (มหาชน) หรือ (“KISS”) ทั้งนี้ผลการดำเนินงานรายธุรกิจในปี 2567 สามารถสรุปรายละเอียดแบ่งออกได้ ดังนี้
1. รายได้ธุรกิจเพลงปิดรายได้ที่ 4,063.4 ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้น 133.3 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 3.4%YoY จากการดำเนินธุรกิจอย่างเต็มรูปแบบ นำโดยธุรกิจ Digital และธุรกิจโชว์บิซซึ่งเป็นเสาหลักสำคัญของการสร้างรายได้ที่มีเสถียรภาพและมีความมั่นคง
2. รายได้ธุรกิจภาพยนตร์ปิดรายได้ที่ 695.8 ล้านบาท เติบโต เพิ่มขึ้น 341.5 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 96.4%YoY จากภาพยนตร์เรื่องหลานม่า ที่ได้รับกระแสตอบรับอย่างดีทั้งในและต่างประเทศ
3. รายได้ธุรกิจโฮมช้อปปิ้งปิดรายได้ที่ 1,166.3 ล้านบาท ลดลงราว 203.2 ล้านบาท หรือลดลง 14.8%YoY เนื่องจากยอดขายทางทั้งช่องทางดาวเทียมและทีวีดิจิตัลที่ลดลง
4. รายได้ธุรกิจจัดจำหน่ายกล่องรับสัญญาณทีวีปิดรายได้ที่ 127.5 ล้านบาท ลดลง 24.7 ล้านบาท หรือลดลง 16.2%YoY จากยอดขายกล่องทีวีดาวเทียมที่ลดลงซึ่งเป็นไปตามพฤติกรรมการบริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัย
5. ส่วนแบ่งกำไรจาก The ONE Enterprise 140.3 ล้านบาท เติบโตขึ้น 7.3 ล้านบาท หรือ เพิ่มขึ้น 5.5% YoY
นอกเหนือจากการเติบโตในธุรกิจปกติแล้ว ในปี 2567 ที่ผ่านมา บริษัทฯ ยังได้ขยายความร่วมมือทางธุรกิจ เพื่อต่อยอดธุรกิจเพลงให้เติบโต โดยขายจำหน่ายหุ้นสามัญของ GMM Music ให้แก่ นักลงทุนเชิงกลยุทธ์จำนวน 2 ราย ได้แก่ Black Serenade Investment Limited (“Black Serenade”) บริษัทที่เกิดจากความร่วมมือกันของTencent Music Entertainment Group และ Tencent Holdings Limited และอีกหนึ่งบริษัทยักษ์ใหญ่ Warner Music Hong Kong Limited (“WMHK”) ซึ่งเป็นองค์กรที่มีสถานะเป็นบริษัทย่อยของ Warner Music Group Corp. (“WMGC”) ในสัดส่วนร้อยละ 10.0 และร้อยละ 1.5 ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วทั้งหมดของ GMM Music ตามลำดับ
จากธุรกรรมดังกล่าวส่งผลให้บริษัทฯ สามารถปิดงบเฉพาะกิจการบริษัทฯ ด้วยกำไร 2,660.7 ล้านบาทหลังบันทึกกำไรจากการขายเงินลงทุนใน GMM Music มูลค่า 2,815.4 ล้านบาท ซึ่งถือได้ว่าเป็นการตอกย้ำธุรกิจเพลงที่ยังคงสามารถเติบโตได้ จากการให้มูลค่าของบริษัทยักษ์ใหญ่ระดับโลก รวมถึงโอกาสในการสร้างความเติบโตในอนาคต
ในส่วนของเงินที่ได้จากการขายเงินลงทุนดังกล่าวราว 2,000 ล้านบาท บริษัทฯได้มีการนำไปชำระคืนหนี้พร้อมดอกเบี้ยที่มีกับธนาคารทั้งหมด 854.4 ล้านบาท และนำไปลงทุนเพิ่มในหุ้น ONEE มูลค่าราว 899.5 ล้านบาท โดยในส่วนที่เหลือได้นำไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนบริษัทฯ
เรียกได้ว่าผลประกอบการของบริษัทแกรมมี่ โดดเด่นรับกระแสการเติบโตของอุตสาหกรรมเพลงได้เป็นอย่างดี ซึ่งในช่วงที่ผ่านมา อุตสาหกรรมเพลงทั่วโลกเติบโตเฉลี่ย 11% ต่อปี ในขณะที่อุตสาหกรรมเพลงไทยเติบโตสูงกว่าที่เฉลี่ย ในอัตรา 26% ต่อปี โดยมีแรงผลักดันสำคัญจาก “ดิจิตอลสตรีมมิ่ง” ซึ่งทำให้ตลาดสตรีมมิ่งและ Music subscription ทั่วโลกสามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในประเทศไทยที่มีแนวโน้มว่าตลาดมีศักยภาพเติบโตขึ้นอีกอย่างมหาศาล
ทั้งนี้ ปัจจัยสำคัญที่จช่วยผลักดันให้เกิดการเติบโตนี้ มาจากสินทรัพย์ทางดนตรี (Music IP : Music Intellectual Property) หรือเรียกง่าย ๆ ว่า “ลิขสิทธิ์” ในคอนเทนต์เพลง ซึ่งนับเป็นหัวใจสำคัญของการสร้างรายได้จากการเผยแพร่ผลงาน ทั้งจากการนำไปใช้ การทำซ้ำ ดัดแปลง ฯลฯ ซึ่งบริษัทแกรมมี่มีความแข็งแรงด้านสินทรัพย์ทางดนตรีที่ใหญ่ที่สุดในไทย ด้วยประสบการณ์การทำงานกว่า 40 ปี ทำให้มีจุดแข็งเชิงกลยุทธ์ที่ผลักดันไปสู่องค์กรระดับแนวหน้าของประเทศ และกอบโกยรายได้เข้ามาแบบต่อเนื่อง.
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- จีเอ็มเอ็มแกรมมี่ แจงถูกแอบอ้าง ยืนยันไม่เกี่ยวข้องกรณี “ซิงซิง”
- จีเอ็มเอ็ม แจงปมลิขสิทธิ์เพลง รายได้ตามสัญญา มรดกตกทอดทายาท
- จีเอ็มเอ็ม มิวสิค ยืนหนึ่ง ครองตลาดเพลงไทยทุกแพลตฟอร์