ข่าวต่างประเทศ

ไทยเล็งออกโครงการ “รถเก่าแลกซื้อรถใหม่” หวังแก้วิกฤตธุรกิจยานยนต์

รัฐบาลเตรียมหารือค่ายรถยนต์ จับเข่าคุย ดันโครงการ รถเก่าแลกซื้อรถใหม่ หวังพยุงอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย

เว็บไซต์ข่าวต่างประเทศ รอยเตอร์ เปิดเผยว่า ประเทศไทยกำลังหารือในขั้นต้นกับ บริษัทรถยนต์ เพื่อพิจารณามาตรการส่งเสริมการ รถเก่าแลกใหม่ และโครงการกำจัดซากรถยนต์ หวังกระตุ้นอุตสาหกรรมยานยนต์ที่กำลังเผชิญวิกฤตครั้งใหญ่ที่สุดในรอบหลายสิบปี แหล่งข่าวจากวงการอุตสาหกรรม 3 ราย และแหล่งข่าวอื่น ๆ 2 รายกล่าว

Advertisements

การผลิตรถยนต์ในไทย ซึ่งเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมยานยนต์ของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กำลังเผชิญกับภาวะตกต่ำต่อเนื่องมานานกว่าหนึ่งปี เนื่องจากยอดส่งออกชะลอตัว ยอดขายในประเทศอ่อนแรง และมาตรการปล่อยสินเชื่อที่เข้มงวดขึ้น ท่ามกลางภาวะหนี้ครัวเรือนที่พุ่งสูง ส่งผลกระทบต่อกำลังซื้อรถยนต์

“บริษัทรถยนต์ญี่ปุ่น รวมถึงโตโยต้า ได้หารืออย่างต่อเนื่องเกี่ยวกับโครงการรถยนต์หมดอายุการใช้งาน ภายใต้ข้อเสนอแนะและทิศทางของรัฐบาลไทย เพื่อลดจำนวนรถยนต์เก่าที่มีแนวโน้มปล่อยมลพิษสูง” โตโยต้า ประเทศไทย กล่าวในแถลงการณ์ต่อรอยเตอร์ และยังเสริมอีกว่า “กรอบแนวคิดและกลไกกำลังอยู่ในระหว่างการหารือร่วมกันระหว่างภาคอุตสาหกรรม ภาครัฐ และสถาบันการศึกษา”

การหารือดังกล่าวอยู่ในขั้นเริ่มต้นและยังไม่เคยมีการรายงานมาก่อน โครงการนี้จะเปิดโอกาสให้ผู้บริโภคนำรถยนต์เก่ามาแลกส่วนลดในการซื้อรถยนต์คันใหม่ โดยรถยนต์เก่าที่นำมาแลกจะถูกนำไปกำจัดซาก แหล่งข่าวกล่าว

ผู้ผลิตรถยนต์กำลังผลักดันเรื่องนี้อย่างหนัก เพราะพวกเขาต้องการขายรถ

“ผู้ผลิตรถยนต์กำลังผลักดันเรื่องนี้อย่างหนัก เพราะพวกเขาต้องการขายรถ” สมพล ธนาดำรงศักดิ์ นายกสมาคมผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ไทย กล่าวกับรอยเตอร์ พร้อมเสริมว่า กำลังพิจารณากำหนดอายุรถยนต์ที่จะนำมากำจัดซากไว้ที่ 10 ปี

Advertisements

สมาคมฯ เป็นหนึ่งในกลุ่มอุตสาหกรรมที่จัดการประชุมรายเดือนร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ รวมถึงคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน และกระทรวงอุตสาหกรรม

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่กระทรวงอุตสาหกรรมของไทยไม่ได้ตอบรับโทรศัพท์จากรอยเตอร์เพื่อขอความเห็น

การผลิตรถยนต์ในประเทศไทยลดลง 10% ในปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 4 ปี โดยยอดขายในประเทศและยอดส่งออกลดลง 26% และ 8.8% ตามลำดับ การผลิตในเดือนมกราคมลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 18 โดยลดลงกว่า 24% เมื่อเทียบเป็นรายปี

อุตสาหกรรมยานยนต์ ซึ่งคิดเป็น 10% ของ GDP ต้องการกระตุ้นยอดขาย ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจซบเซา และการเข้ามาของบริษัทรถยนต์ไฟฟ้าจากจีน เช่น BYD และ Great Wall Motors ซึ่งได้ลงทุนในประเทศไทยไปแล้วกว่า 3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

โรงงานเหล่านี้กำลังผลิตรถยนต์รุ่นใหม่ออกมาและลดราคา ท้าทายความเป็นผู้นำตลาดของบริษัทรถยนต์ญี่ปุ่น เช่น โตโยต้า (7267.T) และฮอนด้า (7267.T) ทำให้โครงการรถเก่าแลกใหม่น่าสนใจยิ่งขึ้นสำหรับผู้ซื้อ

“มีการพูดคุยกันเกี่ยวกับมาตรการนี้ แต่ยังไม่มีข้อสรุป” สุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ โฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ซึ่งครอบคลุม 47 ภาคส่วน กล่าว

แหล่งข่าวจากภาครัฐ ซึ่งขอสงวนนาม กล่าวว่า อีกประเด็นที่อยู่ในระหว่างการพิจารณาคืออายุของรถยนต์ที่จะนำมากำจัดซาก

“จะมีข่าวดีเร็ว ๆ นี้” แหล่งข่าวกล่าวเสริม “เราได้หารือในรายละเอียดแล้ว มีการพูดคุยกันเกี่ยวกับอายุการใช้งานของรถยนต์”

แหล่งข่าวจากภาครัฐ และบุคคลในวงการอุตสาหกรรมยานยนต์ที่คุ้นเคยกับเรื่องนี้ ซึ่งขอสงวนนามเนื่องจากเป็นประเด็นละเอียดอ่อน กล่าวว่า โตโยต้า ผู้นำตลาดในประเทศไทย กำลังผลักดันข้อเสนอโครงการกำจัดซากรถยนต์อย่างหนัก

นอกจากนี้ แหล่งข่าวในวงการอุตสาหกรรมกล่าวว่า “โตโยต้าจะได้ประโยชน์จากบริษัทในเครือที่ทำธุรกิจกำจัดซากรถยนต์ Green Metals” พร้อมเสริมว่า ประเด็นต่าง ๆ ตั้งแต่เรื่องการเงินไปจนถึงโครงสร้างพื้นฐานและจัดการการรีไซเคิล ยังคงต้องมีการพิจารณาอย่างถี่ถ้วน

รัฐบาลกล่าวในแถลงการณ์ว่า กระทรวงอุตสาหกรรมและโตโยต้าได้จัดการประชุมเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เพื่อหารือแนวทางกระตุ้นภาคยานยนต์ไทย แต่ไม่ได้กล่าวถึงโครงการกำจัดซากรถยนต์

กระทรวงอุตสาหกรรมและโตโยต้าได้จัดการประชุมเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

กุลยา ตันติเตมิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ซึ่งดูแลด้านภาษี กล่าวกับรอยเตอร์ว่า “มีข้อเสนอจากสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยและภาคเอกชน แต่ยังไม่ได้ส่งมาถึงกระทรวงการคลัง”

สมพลกล่าวว่า การหารือในขั้นต้นวางแนวทางให้บริษัทรถยนต์รับภาระค่าใช้จ่ายและการจัดการโครงการกำจัดซากรถยนต์ โดยคาดการณ์ว่าผู้ขายรถยนต์ใหม่จะเป็นผู้รับผิดชอบในการจัดการซากรถยนต์

สุวิทย์ ชอบประดู่ รองนายกสมาคมผู้ประกอบการรถยนต์ใช้แล้ว กล่าวว่า โครงการกำจัดซากรถยนต์เก่าเพื่อนำออกจากระบบ จะสร้างการลงทุนและตำแหน่งงานใหม่ในประเทศไทย เนื่องจากประเทศไทยมีโรงงานรีไซเคิลรถยนต์น้อย เช่น โรงงานของโตโยต้า

“มาตรการนี้จะกระตุ้นตลาดได้มากกว่านโยบายอื่นใด” เขากล่าวเสริม

 

Thosapol

นักเขียนบทความที่ Thaiger จบการศึกษาจากคณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ เชี่ยวชาญเรื่องบทความท่องเที่ยว บันเทิง ไลฟ์สไตล์ ผ่านการค้นหาข้อมูลโดยละเอียดพร้อมด้วยประสบการณ์ตรงของตัวเอง งานอดิเรกมีความสนใจในกระแสข่าวรอบตัวต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นด้านสุขภาพ สังคม การเมือง และที่สำคัญคือเป็นทาสแมวร้อยเปอร์เซ็นต์ครับ ช่องทางติดต่อ thospol@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to top button