ข่าว

ไข้หวัดใหญ่ ตัวเลขระบาดพุ่ง สธ.เผยดับแล้ว 9 จัดวัคซีนป้องกัน 7 กลุ่มเสี่ยง เริ่มพ.ค.นี้

กรมควบคุมโรคห่วง ไข้หวัดใหญ่ปี 68 ระบาด พบผู้ป่วยสะสม 107,570 ราย เสียชีวิต 9 คน กลุ่มเด็กเล็กป่วยสูงสุด เร่งเฝ้าระวังการระบาดในสถานที่แออัด จัดวัคซีนป้องกัน 7 กลุ่มเสี่ยง เริ่ม พ.ค.นี้

วานนี้ (18 ก.พ.) กรมควบคุมโรค นำโดยแพทย์หญิงจุไร วงศ์สวัสดิ์ และนายแพทย์วีรวัฒน์ มโนสุทธิ จัดแถลงข่าวภายใต้หัวข้อกุมภาพันธ์ รู้ทันโรค รู้ทันภัย ป้องกันได้ เพื่อเผยแพร่ข้อมูลสถานการณ์โรคระบาด 6 ประเภทที่ต้องเฝ้าระวัง พร้อมให้คำแนะนำด้านการป้องกันและการดูแลสุขภาพในช่วงที่โรคมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น โดยโรคที่ต้องจับตามองคือ ไข้หวัดใหญ่ ซึ่งมีอัตราป่วยสะสมมากที่สุด จัดวัคซีนป้องกัน 7 กลุ่มเสี่ยง เริ่ม พ.ค.นี้

Advertisements

สถิติ “โรคไข้หวัดใหญ่” แพร่ระบาดปี 68

จากรายงานล่าสุด (18 กุมภาพันธ์ 2568) พบว่ามีผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่สะสมในปี 2568 แล้ว 107,570 ราย เสียชีวิต 9 ราย ข้อมูลบ่งชี้ว่าผู้ป่วยเพิ่มขึ้นจากปี 2567 โดยกลุ่มอายุที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดคือเด็กอายุ 5 – 9 ปี ไวรัสสายพันธุ์ที่พบมาก ได้แก่ A/H1N1(2009) รองลงมาคือสายพันธุ์ B และ A/H3N2 ทั้งนี้ พบการระบาดเป็นกลุ่มก้อนในโรงเรียนเป็นหลัก

ข้อมูลจากสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 5 จังหวัดราชบุรี ระบุว่า ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 1 กุมภาพันธ์ 2568 พบผู้ป่วย 3,124 ราย ส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มอายุ 5 – 9 ปี และ 0 – 4 ปี แม้ยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต แต่จากแนวโน้มการแพร่เชื้อ ทำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องเพิ่มมาตรการเฝ้าระวัง โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีการรวมตัวของประชาชน เช่น โรงเรียน โรงงานอุตสาหกรรม ค่ายทหาร และเรือนจำ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดในวงกว้าง

กลุ่มเสี่ยงและแนวทางป้องกัน

การฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ในประเทศไทยเน้นการป้องกัน 7 กลุ่มเสี่ยง เริ่มเดือนพฤษภาคมนี้ ได้แก่

1.หญิงตั้งครรภ์ อายุครรภ์ 4 เดือนขึ้นไป

2.เด็กอายุ 6 เดือน ถึง 2 ปี

Advertisements

3.ผู้มีโรคเรื้อรัง 7 กลุ่มโรค คือ ปอดอุดกั้นเรื้อรัง หอบหืด หัวใจ หลอดเลือดสมอง ไตวาย ผู้ป่วยมะเร็งที่อยู่ระหว่างการได้รับเคมีบำบัด และเบาหวาน

4.บุคคลที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไป

5.โรคธาลัสซีเมียและผู้ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง (รวมผู้ติดเชื้อ HIV ที่มีอาการ)

6.โรคอ้วน (น้ำหนัก > 100 กิโลกรัม หรือ BMI > 35 กิโลกรัมต่อตารางเมตร)

7.ผู้พิการทางสมองที่ช่วยเหลือตนเองไม่ได้

นอกจากนี้ ผู้ที่เป็นบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข โดยสนับสนุนโดยกรมควบคุมโรค จำเป็นต้องเข้ารับการฉีดวัคซีน

การแพร่เชื้อของไข้หวัดใหญ่สามารถเกิดขึ้นได้ผ่านทางอากาศจากละอองฝอยน้ำมูก น้ำลายของผู้ติดเชื้อ รวมถึงการสัมผัสสิ่งของที่ปนเปื้อนเชื้อ ดังนั้น การคัดกรองอาการผู้เข้าออกจากสถานที่สาธารณะ และการป้องกันระหว่างทำกิจกรรมร่วมกัน เช่น แยกภาชนะส่วนตัว หรือเว้นระยะห่างทางสังคม จึงเป็นมาตรการสำคัญในการควบคุมโรค

เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของไข้หวัดใหญ่ กรมควบคุมโรคแนะนำให้ประชาชนกลุ่มเสี่ยง 7 กลุ่ม เข้ารับวัคซีนไข้หวัดใหญ่เป็นประจำทุกปี เพื่อลดอัตราการป่วยรุนแรงและการเสียชีวิต รวมถึงการปฏิบัติตามมาตรการสุขอนามัย เช่น การล้างมือบ่อย ๆ สวมหน้ากากอนามัยเมื่อมีอาการป่วย และหลีกเลี่ยงสถานที่แออัด

การใช้ยาต้านไวรัสโอเซลทามิเวียร์ (Oseltamivir) ยังคงเป็นทางเลือกในการรักษาเพื่อช่วยลดอาการรุนแรง อย่างไรก็ตาม การป้องกันและสร้างภูมิคุ้มกันให้กับตนเองยังคงเป็นแนวทางที่ดีที่สุดในการรับมือกับไข้หวัดใหญ่ที่กำลังระบาดในปีนี้

ย้อนดูสถิติปี 2567 อัตราการป่วยและการเสียชีวิต

เมื่อย้อนดูข้อมูลของปี 2567 พบว่ามีผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่สะสมถึง 663,173 ราย เสียชีวิต 51 ราย โดยผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A จำนวน 45 ราย สายพันธุ์ B จำนวน 3 ราย และไม่ระบุสายพันธุ์ 3 ราย สถานการณ์ในปีนั้นชี้ให้เห็นว่าการแพร่ระบาดส่วนใหญ่เกิดขึ้นในสถานที่ปิด เช่น โรงเรียน เรือนจำ และค่ายทหารผลการเฝ้าระวังเชื้อไข้หวัดใหญ่ในปี 2567 จากกลุ่มผู้ป่วยที่มีอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่ (ILI) และกลุ่มอาการปอดบวม พบว่าจากตัวอย่าง 9,552 ราย มีผลตรวจพบเชื้อไข้หวัดใหญ่ 973 ราย คิดเป็นร้อยละ 10.27 โดยแบ่งเป็น A/H1N1(2009) ร้อยละ 50.46, A/H3N2 ร้อยละ 26.11 และชนิด B ร้อยละ 23.43

ภูมิภาคที่มีอัตราการป่วยสูงสุด ได้แก่ ภาคกลาง (1,307.61 ต่อประชากรแสนคน) รองลงมาคือภาคใต้ ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ขณะที่จังหวัดที่มีอัตราป่วยสูงสุด 10 อันดับแรก ได้แก่ ภูเก็ต กรุงเทพมหานคร ชลบุรี สมุทรปราการ และระยอง

การแถลงข่าวในหัวข้อ “กุมภาพันธ์ รู้ทันโรค รู้ทันภัย ป้องกันได้”
ภาพจาก กรมควบคุมโรค
การแถลงข่าวในหัวข้อ “กุมภาพันธ์ รู้ทันโรค รู้ทันภัย ป้องกันได้”
ภาพจาก กรมควบคุมโรค
การแถลงข่าวในหัวข้อ “กุมภาพันธ์ รู้ทันโรค รู้ทันภัย ป้องกันได้”
ภาพจาก กรมควบคุมโรค

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

อ้างอิง: กรมควบคุมโรค 12 , กองระบาดวิทยา, hfocus

New Nidhikant

จบการศึกษาคณะอักษรศาสตร์ เอเชียศึกษา มหาวิทยาลัยศิลปากร นักเขียนสายมูเตลู และนักอ่านไพ่ทาโรต์ โหราศาสตร์ มีความสนใจด้านข่าวการเมือง ศิลปะวัฒนธรรม แฟชั่น และสายดูดวงมูเตลู งานเขียนเน้นเนื้อหาที่เข้าใจง่าย อ่านสนุก

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to top button