ข่าว

ไขสงสัย “ซิกม่า” Sigma Males คืออะไร ทำไมถึงฮิตสนั่นติ๊กต่อกขนาดนี้?

เปิดข้อมูลที่มาของ มีม “ซิกม่า” หรือ Sigma Males คืออะไร เกิดขึ้นครั้งแรกช่วงไหน ทำไมคนฮิตเล่นกันเต็มติ๊กต่อก พร้อมคำศัพท์ที่เกี่ยวข้องวงการ

ปฏิเสธไม่ได้จริง ๆ ว่าช่วงสามถึงสี่ปีที่ผ่านมานี้ บนโลกอินเทอร์เน็ตมีมีมเกิดใหม่เยอะมากจนนับนิ้วไม่ไหว ทว่ามันจะมีอยู่มีมหนึ่งที่ฮิตจนเล่นกันเต็มติ๊กต่อก (Tiktok) คือ ซิกม่า หรือที่รู้จักกันในภาษาอังกฤษ Sigma Males มีมผู้ชายใส่สูทดำทำปากจู๋ ดูดกระพุ้งแก้ม โชว์กรามหน้าให้เด่นออกมา หรือไม่ก็เป็นชาวเน็ตทั่วไปเล่นฟิลเตอร์ในลักษณะคล้ายกัน ฯลฯ

Advertisements

วันนี้ทีมข่าวไทยเกอร์จึงขอเกาะกระแสอธิบายที่มาที่ไปของมีม “ซิกม่า” ว่าเป็นมาอย่างไรหรือใช้ในโอกาสอะไรบ้าง พร้อมคำศัพท์ที่เกี่ยวข้องในกลุ่มเดียวกันแบบชัดเจน ครบจบในที่เดียว

มีม ซิกม่า เมล

เปิดจุดเริ่มต้นมีม “ซิกม่า” คืออะไร มีตั้งแต่เมื่อไหร่?

หากเราต้องเล่าถึงจุดเริ่มต้นของซิกม่านั้น คงต้องย้อนไปเมื่อปี 2000 ช่วงที่ภาพยนตร์เรื่องอเมริกัน ไซโค (American Psycho) พึ่งออกฉายใหม่ ๆ ว่าด้วยตัวละครเอกอย่าง แพทริค เบทแมน (นำแสดงโดยคริสเตียน เบล) ฆาตกรโรคจิตในคราบนักธุรกิจหนุ่มผู้เพียบพร้อมในวัย 27 ปี ผู้มีนิสัยประหลาดที่หากเจอใครก็ตามที่มีรสนิยมหรืออะไรก็ตามที่ ดี” กว่าตน จะทำให้เจ้าตัวรู้สึกอยากไล่ฆ่าคน ๆ นั้นทันที

นอกจากบทพูดและชั้นเชิงการเล่าเรื่องของภาพยนตร์ที่คมคายนั้น การแสดงสีหน้าของ “คริสเตียน” ยังดูเรียลเหมือนกับว่าเป็นตัวละครนั้นจริง ๆ อีกด้วย ซึ่งฉากมีมไอคอนิก “ซิกม่า” คือตอนที่ตัวละคร แพทริค” กำลังสนทนากับ พอล อัลเลน อีกหนึ่งตัวละครหนุ่มธุรกิจที่คุยกันเรื่องเรื่องรสนิยมผู้หญิงอยู่ โดยมีจังหวะหนึ่งที่แพททริคทำปากจู๋ในลักษณะออกเสียง ooh ขึ้นมาตามข้างต้น หากเทียบเสียงไทยจะอ่านออกเสียงได้ว่า อู้ว นั่นเอง

ภาพจาก วิกิพีเดีย

ถึงกระนั้น มีม “ซิกม่า” ก็ไม่ได้เป็นที่รู้จักในโลกอินเทอร์เน็ตทันที เพราะยุคนั้นเทคโนโลยีในแพลตฟอร์มโซเชียลมิเดียยังไม่มีความหลากหลายมากนั้น

Advertisements

อย่างดีก็โพสต์ภาพหรือวิดีโอบนเฟซบุ๊กทั่วไปเท่านั้นเอง ทว่าต่อมาในช่วงปี 2020 ที่เกิดวิกฤตระบาด โควิด 19 ทำให้คนแทบทั้งโลกต้องกักตัวอยู่ในบ้าน ออกไปไหนไม่ได้ จึงเริ่มพากันหยิบยกมีมซิกม่าดังกล่าวมาล้อเล่นกันจนฮิตทั่วบ้านทั่วเมืองไปตาม ๆ กัน เพราะถูกใจในคาแรคเตอร์ของตัวละครแพททริคนั่นเอง

ส่วนสาเหตุที่ต้องใช้คำว่าซิกม่านั้น ทางเราวิเคราะห์ได้ว่าอาจเป็นเพราะ “ซิกม่า” คืออักษรลำดับที่ 18 ของกรีกที่มีความหมายคือ ซัมเมชั่น หรือผลรวมของอนุกรมต่าง ๆ ในทางคณิตศาสตร์ จึงคาดเดาได้ว่า “ผลรวม” ในที่นี้อาจหมายถึงการรวมกันของความเพอร์เฟคในตัวบุคคลดั่งตัวละคร แพทริค” ที่เพียบพร้อมไปสะทุกอย่างตามข้างต้น

ภาพจาก @bobacott

“มีมซิกม่า” ใช้ในบริบทไหนได้บ้าง?

จากการสืบค้นนั้นพบว่ามีมซิกม่ามักใช้อธิบายพฤติกรรมหรือลักษณะของผู้ชายที่มีนิสัยมั่นใจในตัวเองสูง ไม่แคร์คนรอบข้าง มุ่งมั่นแต่ว่าจะทำอย่างไรให้เป้าหมายสำเร็จโดยไม่สนวิธีการหรือคำพูดของใครหน้าไหนก็ตาม ฐานะการเงินมั่นคง สุขภาพดี มีกล้าม หล่อเท่ ฉลาด ไหวพริบเลิศ ฯลฯ และที่สำคัญคือต้องเงียบขรึม ไม่พูดเพ้อเจ้อไปเรื่อย หรือภาษาบ้านเราคือพูดน้อยต่อยหนักนั่นเอง

ขณะเดียวกัน “ซิกม่า” ก็ไม่ได้ใช้ได้แค่ในเพศชายเท่านั้น เพราะผู้หญิงก็ใช้ได้เหมือนกัน ขอแค่ลักษณะส่วนใหญ่เข้าเกณฑ์ข้างต้นก็พอแล้ว เนื่องจากคอนเซ็ปต์คือคนที่สุขุมเยือกเย็นแต่แฝงไปด้วยความสามารถนั่นเอง

ภาพจาก @greapaxcherri

ทว่ากลับมีชาวเน็ตบางกลุ่มมองว่ามีม “ซิกม่า” นั้นเป็นการแสดงเชิงสัญลักษณ์ของกลุ่มที่เชิดชูแนวคิดปิตาธิปไตย หรือ ชายเป็นใหญ่ เนื่องจากมีใครหลายคนนำมีมนี้ไปล้อเล่นกับสถานการณ์ที่ผู้ชายใช้กำลังทำร้ายผู้หญิง หรือไม่ก็ใช้เป็นมีมประกอบวิดีโอ-บทความที่พูดถึงเรื่องความเท่าเทียมทางเพศอยู่บ่อยครั้ง ทำให้กลุ่มเสรีนิยมฝ่ายซ้ายมองว่ามีมซิกม่าเป็นมีมที่ไม่สร้างสรรค์ในแง่ของการนำเสนอ

คำศัพท์ที่เกี่ยวข้องกับมีมซิกม่า Sigma

นอกจากคำว่าซิกม่าแล้ว ชาวเน็ตยังพากันแบ่งลักษณะผู้ชายออกได้อีกหลายประเภทตามตัวอักษรกรีกในลักษณะเดียวกัน ซึ่งแต่ละตัวอักษรจะใช้แทนนิสัยของคนแต่ละกลุ่มแตกต่างกันออกไปอย่างชัดเจน ทางเราจึงขอนำเสนออีก 3 กลุ่มที่น่าสนใจด้วยกันดังนี้

1. อัลฟ่า เมล (Alpha Males)

อัลฟ่าเมลมักใช้อธิบายลักษณะผู้ชายที่มีความเป็น ชาย” ในอุดมคติแบบดั้งเดิม เช่น เป็นผู้นำ เข้มแข็ง หาเลี้ยงครอบครัว ชอบการเอาชนะ ไม่แสดงความอ่อนแอ ฯลฯ โดยมีสิ่งที่เหมือนกับซิกม่าเมลคือมีความมุ่งมั่นสูง แต่จะพูดมากหรือพูดตรง ๆ ต่างจากกลุ่มนั้นที่เก็บเงียบ ไม่สุงสิงกับใคร ทำให้ฝั่งซิกม่ามักมองว่าผู้ชายกลุ่มนี้คือพวกขี้โม้ เอาหน้า

2. เบต้า เมล (Beta Males)

หากอัลฟ่าเมลคือพระเอกฮอต “เบต้า” คงเป็นพระรองในละคร เพราะคำนิยามของผู้ชายกลุ่มนี้คือมีนิสัยเงียบถ่อมตัว รักสงบ ใจดี อ่อนโยน จงรักภักดี หรือเรียกได้เลยว่าเป็นหนุ่มน้อย แต่มีข้อเสียคือขาดความมั่นใจในตนเอง ไร้ความทะเยอะทะยาน ตามใจคนอื่นมากเกินไป ทำให้ใครหลายคนมองว่าผู้ชายกลุ่มนี้คือหนุ่มจืดนั่นเอง

3. เดลต้า เมล (Delta Males)

มาถึงลำดับสุดท้าย ต้องบอกตรง ๆ ว่าผู้ชายกลุ่มนี้น่าสงสารที่สุด เพราะคำนิยามของคนกลุ่มนี้คือไม่มีความมั่นใจในตัวเองแบบสุด ๆ (หนักกว่าเบต้า) ทำร้ายตัวเอง ชอบทำปาร์ตี้กร่อย เบื่อโลก ขี้เหงาแต่ไม่เข้าหาคนอื่นก่อน แถมยังพึ่งพาตัวเองไม่ได้อีก เรียกได้ว่าเป็นลูซเซอร์หรือคนขี้แพ้ในสายตาใครหลายคนเลยทีเดียว

ทว่ากลุ่มนี้จะมีข้อดีคล้ายกับซิกม่าคือความฉลาดหลักแหลม ประเมินสถานการณ์เก่ง ไม่ฝืนตัวเองมากเกินไปหากเจออะไรที่ยากลำบาก รู้ว่าจังหวะไหนควรลุยควรถอย (แต่บางคนมองว่าใจเสาะ)

ภาพประกอบไม่เกี่ยวกับเนื้อหา

@satoyu727

SIGMA TRIO @バヤシ🥑Bayashi @argenby

♬ Eu Sento Gabu! – PXLWYSE

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

yo

First jobber Gen z ใหม่แกะกล่องส่งตรงจาก อักษรศาสตร์ สาขาวิชาปรัชญา มศก. งานอดิเรกชอบท่องโลกออนไลน์ เล่นกับแมว เที่ยวกับครอบครัว อ่านมังงะ เล่นเกม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to top button