บันเทิง

ประวัติ เฮียฮ้อ เจ้าธุรกิจพันล้าน พลิกชะตาค่ายเพลง RS สร้างรายได้ถล่มทลาย

ทำความรู้จัก ‘เฮียฮ้อ’ ผู้บริหารธุรกิจ RS GROUP และนักปั้นมือทอง เบื้องหลังความสำเร็จศิลปินชื่อดัง ประวัติไม่ธรรมดา พลิกชีวิตจากร้านขายเทป สู่ค่ายเพลงเบอร์ใหญ่ในประเทศไทย

นาย สุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ หรือ “เฮียฮ้อ” คือหนึ่งในชื่อที่คนในวงการบันเทิงไทยต้องรู้จัก เพราะนี่คือกุนซือใหญ่ที่ดำรงตำแหน่งเป็นประธานกรรมการบริหารของ RS Group รวมถึงค่ายเพลง RS Music ด้วย แต่ใครจะรู้ว่ากว่าจะมาเป็นบริษัทบันเทิงยักษ์ใหญ่ที่ครองใจคนไทยหลายทศวรรษได้แบบนี้ ผู้ถือหุ้นหลักอย่างเฮียฮ้อต้องฝ่าวิกฤตอะไรมาบ้าง และแน่นอนว่าความสำเร็จที่ทุกคนเห็นในวันนี้ ย่อมไม่ได้มาจากความพยายามเพียงชั่วข้ามคืน

Advertisements
ประวัติ เอียอ้อ ผู้บริหารค่ายเพลง RS
ภาพจาก : เว็บไซต์ RS GROUP

ประวัติส่วนตัวของ “เฮียฮ้อ” ก่อนจะมาเป็นนักธุรกิจพันล้าน

เฮียฮ้อ สุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ เกิดวันที่ 5 พฤศจิกายน 2505 ปัจจุบันมีอายุ 62 ปี CEO ของค่ายเพลง RS คนนี้มีภูมิหลังเป็นชาวไทยเชื้อสายจีน มีพี่น้องทั้งหมด 7 คน ซึ่งพี่ชายคนหนึ่งที่ร่วมฝ่าฟันอุปสรรคด้วยกันมา คือ “เฮียจั๊ว” เกรียงไกร เชษฐโชติศักดิ์ อดีตประธานกรรมการบริหารอาร์เอส

ในปี 2529 เฮียฮ้อได้ตัดสินใจแต่งงานกับภรรยา คือ สุจีรา เชษฐโชติศักดิ์ และมีลูกชายสืบสกุล 2 คน คือ เชษฐ เชษฐโชติศักดิ์ อดีตสมาชิกวงเปเปอร์ส และ โชติ เชษฐโชติศักดิ์ หัวหน้าเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ บมจ.อาร์เอส

บทบาทผู้บริหารของเฮียอ้อ ที่มีต่อบริษัทอาร์เอส
ภาพจาก : เว็บไซต์ RS GROUP

เฮียฮ้อกับบทบาทผู้บริหาร RS สานต่อธุรกิจพี่ชาย สู่ค่ายเพลงชั้นนำ

หากใครเคยฟังสัมภาษณ์ของเฮียฮ้อ ก็จะพอรู้ว่าจุดเริ่มต้นของครอบครัวนั้นไม่ได้มีรากฐานที่ดีมากนัก เมื่อเฮียฮ้ออายุได้ 17 ปี ก็เริ่มทำงานช่วยดูแลร้านอัดแผ่นเสียงของพี่ชาย ที่มีชื่อว่า ‘โรสซาวด์’ โดยทั้งคู่จะช่วยกันคัดเลือกเพลงฮิตมาอัดลงในเทปคาสเซต เพื่อจัดจำหน่าย

ต่อมาประเทศไทยได้มีกฎหมายลิขสิทธิ์บังคับใช้อย่างเข้มงวด การอัดเพลงลงเทฟจึงถือเป็นสิ่งที่ผิดกฎห,าย เฮียฮ้อและพี่ชายจึงหันหัวเรือ ตัดใจทิ้งร้านเก่าและมุ่งหน้าสู่การทำธุรกิจเพลงอย่างจริงจัง และได้ก่อตั้งค่ายเพลงขึ้นมาในปี 2525 โดยใช้ชื่อว่า บริษัท อาร์.เอส. ซาวด์ จำกัด ซึ่งขณะนั้นมีเงินทุนเพียง 50,000 บาท ที่ได้มาจากการสนับสนุนของพ่อ ที่ยอมขายทองมาสานฝันธุรกิจของลูก ๆ ในครั้งนี้

เฮียฮ้อผู้ก่อตั้งค่ายยเพลงอาร์เอสมิวสิค
ภาพจาก : เว็บไซต์ RS GROUP

หลังจากสร้างค่ายเพลงได้สักพัก และปั้นศิลปินดังหลากหลายคนจนเรียกได้ว่าในยุค 90s แทบจะเป็นยุคทองที่อาร์เอสครองเมืองอย่างเต็มตัว และไม่ใช่แค่นักร้องสตริงเท่านั้นที่ได้รับความนิยม แต่เฮียอ้อยังโชว์วิสัยทัศน์อันเฉียบคม ด้วยการสร้างปรากฏการณ์ลูกทุ่งฟีเวอร์ จากศิลปินกลุ่ม “อาร์สยาม” จนโด่งดังไปทั่วประเทศ

Advertisements

ต่อจากนั้นมา นับตั้งแต่ปี 2540 บริษัทอาร์เอสก็เริ่มตีตลาดธุรกิจบันเทิงอื่น ๆ มากขึ้น ทั้งละคร ภาพยนตร์ รายการโทรทัศน์ จนกลายเป็นอาณาจักรที่รวมความบันเทิงทุกแขนงไว้ภายในเวลาไม่กี่ปี

เฮียฮ้อพาบริษัทอาร์เอสเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ ขายหุ้นให้มหาชน
ภาพจาก : เว็บไซต์ RS GROUP

อีกหนึ่งความสำเร็จที่หลายคนไม่รู้ คือ เฮียฮ้อเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการสร้าง “ไอดอล” ในยุคแรก โดยเริ่มโครงการ RS New Stars ที่มีจุดประสงค์เพื่อปั้นศิลปินรุ่นใหม่ ซึ่งต้องผ่านการฝึกฝนจนมีความสามารถรอบด้าน ทั้งทักษะการร้อง เต้น และการแสดง เรียกได้ว่าหนุ่มหล่อมากมายที่มีชื่อเสียงมาจนถึงปัจจุบัน อาทิ เจมส์ เรืองศักดิ์, โดม ปกรณ์ ลัม ก็ผ่านฝีมือการเจียระไนของเฮียฮ้อมาแล้วทั้งสิ้น

รวมถึงค่ายเพลงในเครืออาร์เอส อย่างกามิกาเซ่ (Kamikaze) ที่ผลักดันไอดอลหน้าใหม่เข้าสู่วงการบันเทิง ก็ประสบความสำเร็จไม่น้อยกว่ากัน โดยมีศิลปินหลายวงที่แจ้งเกิดเป็นดาวค้างฟ้า และยังคงมีชื่อเสียงจนถึงตอนนี้ เช่น โฟร์-มด, เฟย์-ฟาง-แก้ว, กวินท์ ดูวาล จาก 3.2.1 และนางเอกสาวสวยอย่างโบว์ เมลดา เป็นต้น

อาณาจักรธุรกิจหมื่นล้านของบริษัทอาร์เอสกรุ๊ป ภายใต้การบริหารของเฮียฮ้อ
ภาพจาก : เว็บไซต์ RS GROUP

หลังจากพิสูจน์ตัวเองในฐานะประธานบริหารอาร์เอสจนเฟื่องฟู ในปี 2549 เฮียฮ้อได้ตอกย้ำบทบาทผู้นำสุดแข็งแกร่ง ด้วยการพาบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ภายใต้ชื่อ บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) และสามารถชี้แนะทิศทางที่ถูกต้อง จนบริษัททำกำไรหลักร้อยบาทต่อปีอย่างต่อเนื่อง กระทั่งปี 2560 ที่มีรายได้สูงขึ้นเกือบ 600% เมื่อเทียบกับผลประกอบการในปีที่ผ่านมา

ด้วยเหตุดังกล่าว ‘เฮียฮ้อ’ จึงถือเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงมาสู่ธุรกิจในเครืออาร์เอสอย่างชัดเจน ไม่ใช่แค่ค่ายเพลงเท่านั้น ที่สามารถทำเงินได้อย่างมหาศาล แต่ยังขยายอาณาเขตไปสู่ธุรกิจความงาม ธุรกิจคอมเมิร์ซ และธุรกิจเกี่ยวกับสุขภาพ จนหลายคนแซวว่าเป็นการกินรวบทุกวงการธุรกิจ และขึ้นแท่นเป็นคู่แข่งที่น่ากลัวในตลาดอุตสาหกรรมต่าง ๆ อย่างก้าวกระโดด

อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้น พบว่าในปี 2565 – 2566 ธุรกิจของ RS GROUP ทำรายได้รวมมากกว่า 3 พันล้านบาท และมีกำไรหลักพันล้านจากธุรกิจเครือเอนเตอร์เทนเมนต์ ซึ่งว่ากันว่าหากรวมมูลค่าหุ้นของเฮียฮ้อ ที่เป็นผู้ถือหุ้นหลักอาร์เอส บวกกับทรัพย์สินส่วนตัวที่เก็บหอมรอมริบมาตลอด อาจมีมูลค่าถึง 1 หมื่นล้านบาทเลยทีเดียว!

เรียกได้ว่าเป็นนักธุรกิจและมหาเศรษฐีอีกคนหนึ่งของเมืองไทย ที่ล้มลุกคลุกคลานฝ่าขวากหนามมาไม่น้อย กว่าจะประสบความสำเร็จในวันนี้ นี่จึงเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของคนที่วิ่งตามความฝันอย่างสุดความสามารถโดยไม่ย่อท้อ กระทั่งสร้างอาณาจักรอุตสาหกรรมบันเทิงสุดยิ่งใหญ่ที่ชื่อว่า ‘RS’ อย่างที่พวกเราเห็นในวันนี้.

อ้างอิง : วิกิพีเดีย

ภาพจาก : เว็บไซต์ RS GROUP

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

Woralada

นักเขียนเรื่องไลฟ์สไตล์ ข่าวบันเทิง และประเด็นการเมือง เวลาว่างชอบดูซีรีส์ อ่านวรรณกรรม และไปคอนเสิร์ตเพื่อต่อพลังงานชีวิต

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to top button