ข่าวการเมือง

ประธาน กกต. เตือน ทักษิณ ก้ำกึ่งผิดกฎหมาย ใช้นโยบายรัฐหาเสียง

ประธาน กกต. เตือน ทักษิณ ก้ำกึ่งผิดกฎหมาย ใช้นโยบายรัฐหาเสียงเลือกตั้ง อบจ. ชี้ต้องเป็นไปตามกรอบกฎหมาย ห้ามปราศรัยใส่ร้ายผู้อื่น

นาย อิทธิพร บุญประคอง ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวถึงการปราศรัยหาเสียงของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้ช่วยหาเสียงของพรรคเพื่อไทย ที่มีการหยิบยกนโยบายของรัฐบาลไปพูดในเวทีว่า การหาเสียงจะต้องเป็นไปตามกรอบกฎหมายที่ห้ามฝ่าฝืนกฎหมาย และห้ามปราศรัยใส่ร้ายผู้อื่น และไม่เข้าข่ายหลอกลวง หากอยู่บนพื้นฐานดังกล่าวสามารถทำได้

Advertisements

เมื่อถามว่าสามารถหยิบยกนโยบายของรัฐบาลหาเสียงได้ใช่หรือไม่ นายอิทธิพร กล่าวว่า เป็นความก้ำกึ่ง เพราะครั้งนี้การเลือกตั้งองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) การพูดที่มีความเกี่ยวข้องอาจจะจำเป็นหรืออาจสามารถรับฟังได้ในบางครั้ง แต่ทุกอย่างอยู่ในการรับรู้ตรวจสอบของสำนักงาน กกต. อยู่แล้วในทุกด้านและทุกเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้ง ซึ่งปกติมีการมอนิเตอร์การปราศรัยอยู่แล้ว

“เนื่องจากมีรูปแบบการทำงานของสำนักงาน กกต. ทุกจังหวัด ขณะเดียวกันมีการแต่งตั้งผู้ตรวจการเลือกตั้งไปปฏิบัติหน้าที่แล้ว ฉะนั้น การติดตามการกระทำที่อาจจะเป็นการฝ่าฝืนการเลือกตั้งอยู่ในวิสัยที่เจ้าหน้าที่ต้องทำงานและรายงานตามลำดับชั้น ตอนนี้ยังไม่มีรายงานถึงความผิดปกติใด แต่คาดว่าการหาเสียงจะมีความเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ” นายอิทธิพร กล่าว

ขอบคุณภาพจาก พรรคเพื่อไทย

เมื่อถามว่า สส. รัฐมนตรีสามารถช่วยหาเสียงได้หรือไม่ ประธาน กกต. กล่าวว่า สามารถทำได้ แต่จะต้องแจ้งให้ กกต.ทราบว่าเป็นผู้ช่วยหาเสียง หากหาเสียงในเวลาราชการก็จะต้องบริหารเวลาให้ดีเพราะอาจเข้าข่ายทำไม่ถูกตามระเบียบราชการ

เมื่อถามว่านายทักษิณไปหาเสียงประกาศค่าไฟจะลดเหลือ 3.70 บาท และต่อมารัฐบาลขานรับ จะเข้าข่ายสัญญาว่าจะให้หรือไม่ นายอิทธิพร กล่าวว่า จะต้องดูรายละเอียดอีกครั้งหนึ่ง จึงไม่สามารถตอบในขณะนี้ได้ทันที เพราะต้องเป็นกระบวนการที่ต้องเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการไต่สวนสืบสวน หากเป็นคำร้องที่เกี่ยวกับพรรคการเมืองก็เป็นหน้าที่ของเลขาธิการ กกต. ในฐานะนายทะเบียน ที่ต้องดูว่าข้อเท็จจริงที่มีเข้าข่ายฝ่าฝืนกฎหมายใดหรือไม่

หากเห็นสมควรว่าต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงก็มีการตั้งคณะกรรมการรวบรวมข้อเท็จจริงและพยานหลักฐาน ซึ่งเป็นกระบวนการปกติ โดยมี 2 ชุด หากเป็นการทำฝ่าฝืนกฎหมายเลือกตั้งก็จะเป็นคณะกรรมการไต่สวนสืบสวน หากเป็นการกระทำที่ฝ่าฝืนกฎหมายพรรคการเมืองก็จะเป็นการตั้งคณะกรรมการรวบรวมข้อเท็จจริงพยานหลักฐาน

Advertisements

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

 

Nateetorn S.

ทำงานกับ Thaiger มาตั้งแต่ปี 2020 จบการศึกษาจากคณะวารสารศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสคร์ เคยทำงานกับสถานีโทรทัศน์อันดับ 1 ของประเทศ ทำให้มีประสบการณ์ความเชี่ยวชาญ เจาะประเด็นข่าวการเมืองอาชญากรรม ข่าวแปลกๆ เรื่องน่าสนใจจากต่างประเทศ ช่องทางติดต่อ tee@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to top button